แนะเกษตรกรรวมกลุ่มกันซื้อปุ๋ยจากโรงงานลดต้นทุนได้

นนทบุรี 18 มี.ค.- รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสตอกโรงงานปุ๋ยเคมีพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาและชัยนาท พบปริมาณส่วนใหญ่เพียงพอ แถมราคาลดลงต่อเนื่อง แนะเกษตรกรรวมกลุ่มกันซื้อปุ๋ยจากโรงงานลดต้นทุนได้

ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจโรงงานปุ๋ยเคมี บจ. ไอซีพี เฟอไลเซอร์ อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่ามีสต็อกปุ๋ยอยู่ในปริมาณที่มาก ทั้งแม่ปุ๋ย ปุ๋ยที่บรรจุกระสอบแล้ว และวัตถุดิบสำหรับผสมปุ๋ยสูตร และโรงงานยังมีการนำเข้าปุ๋ยมาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง พร้อมรองรับการใช้ปุ๋ยในช่วงฤดูเพาะปลูกของเกษตรกร โดยปริมาณสตอกปุ๋ยเคมีทั่วประเทศขณะนี้มีประมาณ 1.27 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 22% เกษตรกรจึงมั่นใจได้ว่าจะมีปุ๋ยใช้อย่างเพียงพอ ไม่ขาดตลาด อีกทั้งราคาก็ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเทียบกับช่วงกลางปีที่แล้วปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ราคาเฉลี่ยภาคกลางลดลงถึง 36% แอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) ราคาเฉลี่ยภาคกลางลดลง 31% ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะคุมเข้มต่อไป เมื่อต้นทุนนำเข้าปุ๋ยลดลงราคาจำหน่ายก็ต้องลดลงด้วย ห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุอันสมควร ดังนั้น หากพี่น้องเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรม เช่น พบการฉวยโอกาสขึ้นราคาปุ๋ยทั้งที่ต้นทุนลดลง ปฏิเสธการจำหน่ายทั้งที่ยังมีของอยู่ สามารถแจ้งหรือร้องเรียนที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปจัดการโดยเด็ดขาด การจำหน่ายสินค้าในราคาสูงเกินสมควร หรือการกักตุนสินค้า มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


นอกจากนี้ ยังได้ลงพื้นที่ สหกรณ์การเกษตรทุ่งวัดสิงห์ อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ร่วมกับนายประมวล นิลนาค พาณิชย์จังหวัดชัยนาท ผู้แทนเกษตรจังหวัดและสหกรณ์จังหวัด พบกับนางสุพัตรา เขียวเล็ก ประธานสหกรณ์ฯ พร้อมสมาชิกและผู้แทนกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ โดยได้รับฟังสถานการณ์การจำหน่ายและการใช้ปุ๋ย และแนะนำช่องทางให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันสั่งซื้อปุ๋ยตรงจากโรงงาน ไม่ว่าจะรวมกันในรูปแบบสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน เกษตรแปลงใหญ่ หรือศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้เกษตรกรซื้อปุ๋ยได้ในราคาที่ถูกลง ตามแนวคิด “จับคู่ปุ๋ย ซื้อตรง ถูกเงิน-ถูกใจ” ที่กรมการค้าภายในร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่สถาบันหรือกลุ่มเกษตรกร กรมฯ ได้ขอให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สนับสนุนสินเชื่อให้สถาบันหรือกลุ่มเกษตรกรด้วย ซึ่ง ธ.ก.ส. ก็จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป

สถาบันเกษตรกรหรือเกษตรกรที่สนใจจะรวมกลุ่มกันซื้อปุ๋ย สามารถรวบรวมความต้องการของสมาชิก และติดต่อสั่งซื้อจากโรงงานตามรายชื่อและเบอร์โทรที่กรมการค้าภายในได้เผยแพร่บนเว็บไซต์กรมฯ (www.dit.go.th) กรณีมีข้อสงสัยสามารถติดต่อกรมการค้าภายในหรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด และหากต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการรวมกลุ่มสามารถสอบถามได้จากเกษตรจังหวัดหรือสหกรณ์จังหวัดในพื้นที่ต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง