“วิกรม กรมดิษฐ์” มอบสินทรัพย์ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อประโยชน์สาธารณะ

กรุงเทพฯ 17 มี.ค. – ครบรอบ 70 ปี “วิกรม กรมดิษฐ์” มอบทรัพย์สินราว 2 หมื่นล้านบาท เข้ามูลนิธิอมตะ หวังสานต่อเจตนารมณ์ ยกระดับคุณภาพสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ


นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) และประธานมูลนิธิอมตะ เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ 70 นับเป็นวาระสำคัญของการวางแผนชีวิตเพื่อส่งต่อความมั่นคงต่อการดำเนินงานของมูลนิธิอมตะอย่างไม่สิ้นสุด จึงได้ทำพินัยกรรมมอบทรัพย์สินส่วนตัวให้กับมูลนิธิอมตะ มูลค่ากว่า 95% ของทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน อาคาร คอนโดมิเนียม หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ตลอดจนทรัพย์สินส่วนตัวอื่นๆ เพื่อให้เป็นสาธารณประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้ง คิดเป็นมูลค่ารวว 20,000 ล้านบาท จะนำไปสู่หนึ่งในกลไกการยกระดับคุณภาพสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้ มูลนิธิอมตะได้ก่อตั้งเมื่อ 27 ปีที่แล้ว โดยคุณวิกรม กรมดิษฐ์ มีโครงการภายใต้วัตถุประสงค์ เช่น โครงการรางวัล “นักเขียนอมตะ”, โครงการทุนเรียนดี, โครงการประกวดศิลปกรรม “อมตะ อาร์ต อวอร์ด” โครงการด้านนวัตกรรม, โครงการหนังสือดีมีประโยชน์สร้างการเปลี่ยนแปลง และโครงการปรับปรุงอุทยานฯ เขาใหญ่สู่อุทยานมาตรฐานโลกภายในเวลา 10 ปี


“ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นสู่ธุรกิจ ผมยึดมั่นในเป้าหมาย All Win และความมุ่งมั่นของการทำแต่สิ่งดีงามให้ไว้กับทุกคนมาโดยตลอด โดยเฉพาะเมื่อประสบความสำเร็จในธุรกิจการงานแล้วก็ควรแบ่งผลกำไรกลับคืนสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมที่มีคุณภาพน่าอยู่เช่นประเทศที่เจริญแล้ว ซึ่งผมได้นำประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่วัยเด็กมาเรียบเรียง มาถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือพิมพ์เผยแพร่ไปแล้วกว่า 11.6 ล้านเล่ม เพื่อให้สังคมสามารถเรียนรู้และนำไปปรับใช้ได้ในโอกาสต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้น การทำพินัยกรรมมอบทรัพย์สินในครั้งนี้นับเป็นความตั้งใจของผม หลังจากที่ได้เรียนรู้ ฝึกฝนชีวิตกับวิกฤติต่างๆ จนขับเคลื่อนให้ธุรกิจกลุ่มอมตะประสบความสำเร็จในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมให้เป็นเมืองนวัตกรรมเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ด้วยแนวคิดที่เห็นว่าเราเกิดมาจากศูนย์และจากไปเป็นศูนย์ ระหว่างศูนย์เราควรสร้างสรรค์สิ่งที่มีประโยชน์และคุณค่าฝากไว้ให้กับสังคมในระยะยาวตลอดไป” นายวิกรม กล่าว

นายวิกรม ยืนยันว่าไม่เข้าไปเล่นการเมือง แต่หากภาครัฐหรือหน่วยงานภาครัฐขอคำปรึกษาในเรื่องการพัฒนาและเสริมศักยภาพให้กับเศรษฐกิจไทย ยินดีที่จะให้คำปรึกษา เพราะมองว่านโยบายที่สำคัญในการเข้ามาทำงานของรัฐบาลชุดใหม่มองว่าการผลักดันเศรษฐกิจให้มีการเติบโตสูง 7-8% เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะสร้างศักยภาพและโอกาสในการพัฒนาให้กับประเทศไทยได้ โดยเฉพาะในเรื่องของการส่งเสริมเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมใหม่ แต่เป็นการพัฒนาควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยบทบาทของกระทรวงที่สำคัญในการผลักดันประเทศไทยมี 2 กระทรวง คือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ โลกในระยะต่อไปยังคงมีความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงหลายด้านที่ทุกฝ่าย รวมทั้งกลุ่มอมตะจำเป็นต้องปรับตัวรองรับ โดยอมตะได้วางเป้าหมายการพัฒนาภายใต้แนวคิดเมืองอัจฉริยะอมตะ (AMATA Smart City) เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจที่สอดรับอนาคตการเปลี่ยนแปลงของโลกที่มุ่งเน้นนวัตกรรมที่ทันสมัย ขณะที่มูลนิธิอมตะพร้อมแบ่งปันให้กับสังคมไทยในช่วงสถานการณ์ยากลำบาก เช่น ช่วงที่โควิด-19 ระบาด พวกเราชาวอมตะได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบความช่วยเหลือ รวมทั้งยังจัดทำโครงการบริจาคโลหิต 100 ล้านซีซี กับสภากาชาดไทย เชื่อว่าจากนี้ไปไม่ว่าจะกี่วิกฤติก็พร้อมที่จะช่วยเหลือสนับสนุนสังคม เพื่อก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าอย่างยั่งยืนตลอดไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]