จับมือ GoWabi แพลตฟอร์มด้านสุขภาพและความงาม

นนทบุรี 16 มี.ค.-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือกับ โกวาบิ (ไทยแลนด์) เจ้าของ GoWabi แพลตฟอร์มด้านสุขภาพและความงามชั้นนำ จัดกิจกรรมส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจกลุ่มความงามและสุขภาพ (Wellness) โดยดึงผู้เชี่ยวชาญมาเป็นพี่เลี้ยงในการเพิ่มช่องทางสร้างโอกาสบนตลาดออนไลน์ พร้อมจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขาย สร้างรายได้ขยายฐานลูกค้า และสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจความงามของไทย


นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ธุรกิจภาคบริการมีบทบาทต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยและมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นทั้งในด้านมูลค่าเศรษฐกิจ จำนวนธุรกิจ และจำนวนการจ้างงาน นับเป็นแหล่งรายได้ที่ช่วยดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทยได้ไม่น้อยในแต่ละปี สร้างกระแสเงินหมุนเวียนภายในประเทศ เกิดการสร้างงานและกระจายความเจริญไปสู่ทุกภูมิภาค สามารถเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว  ที่กำลังเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยหนึ่งในธุรกิจบริการเป้าหมายที่

ทั้งนี้ กรมฯ ให้การส่งเสริม คือ ธุรกิจบริการที่มีมูลค่าสูง กลุ่ม Health & Wellness : สปา นวดเพื่อสุขภาพและความงามที่มีโอกาสและแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภาคธุรกิจจึงจำเป็นต้องมีความพร้อมในทุกด้านเพื่อรองรับปริมาณผู้มาใช้บริการ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการขยายช่องทางการตลาดให้มีความหลากหลายและครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด สร้างกลยุทธ์การตลาดและมูลเพิ่มให้แก่ธุรกิจ ที่สอดรับกับแนวโน้มพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ ต้องให้ความสำคัญในการสร้างพันธมิตรเครือข่ายธุรกิจ เพื่อเกิดการส่งต่อลูกค้าหรือผู้รับบริการ เกิดการรับรู้ ในแบรนด์ ซึ่งจะเป็นแรงส่งให้ผู้ใช้บริการเดินทางเข้ามารับบริการมากขึ้น 


“กรมฯ ให้ความสำคัญในการส่งเสริมกลุ่มธุรกิจ wellness เป็นอย่างมาก จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าธุรกิจบริการด้วยการตลาดดิจิทัล ซึ่งเป็นการเสริมสร้างศักยภาพและทักษะด้านการตลาด โดยพัฒนาเกี่ยวกับการบริหารจัดการร้านค้าบนแพลตฟอร์ม กิจกรรมส่งเสริมการตลาดดิจิทัล และการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยร่วมมือกับ บริษัท โกวาบิ (ไทยแลนด์) จำกัด และกลุ่มธุรกิจ Startup เพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยจะร่วมกันผลักดันผู้ประกอบธุรกิจ wellness เข้าสู่แพลตฟอร์ม GoWabi ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำในธุรกิจบริการ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด กระตุ้นการขาย     ด้วยกิจกรรมส่งเสริมการตลาดผ่านแคมเปญ “DBD Wellness Gift Fest กระตุ้นยอดขาย เพิ่มรายได้ธุรกิจ wellness    ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบธุรกิจ wellness และสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ”นายทศพล กล่าว

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมธุรกิจกลุ่ม Health & Wellness ไทยในครั้งนี้ กรมฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับประโยชน์ ความรู้และทักษะด้านการตลาด และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์ นำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น นำมาซึ่งรายได้ที่มั่นคงเริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 31  มีนาคม 2566 ผู้ประกอบธุรกิจบริการสุขภาพและความงามที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมและแคมเปญ สามารถติดตามข่าวสารการรับสมัครได้ทาง Facebook fanpage : DBD Wellness และเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หมายเลขโทรศัพท์ 0 2547 5954 ,082 3549946 หรือ Line official @dbdwellness” 

น.ส.วิภาวี วงศ์สิริศักดิ์” ผู้ร่วมก่อตั้ง โกวาบิ ไทยแลนด์ กล่าวว่า “GoWabi” เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัล    ที่ ให้บริการค้นหาและจองบริการต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม ที่รวบรวมร้านนวดสปา ออนเซ็น ทำเล็บ และเสริมความงามไว้อย่างครบครันเสมือนห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ลูกค้าสามารถเลือกจองใช้บริการในวันและเวลาที่สะดวกได้ง่ายเพียงการคลิกเท่านั้น โดยปัจจุบันถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้บริการสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มนี้ มีจำนวนผู้ใช้งานผ่านแพลตฟอร์ม (Monthly Active User: MAU) มากกว่า 500,000 รายต่อเดือน 


นอกจากนี้ มีร้านค้าที่ให้บริการผ่านแพลตฟอร์มกว่า 10,000 ร้าน ซึ่งทาง GoWabi มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในการร่วมส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ประกอบธุรกิจ wellness ได้เข้ามาเพิ่มโอกาสทางการตลาด กระตุ้นการขาย และขยายฐานลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มของเราให้มากขึ้นโดยทาง GoWabi จะมีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญดูแลและให้คำปรึกษาตลอดโครงการ รวมทั้ง  จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ และที่สำคัญจะได้ร่วมกันสร้างแคมเปญทางการตลาดที่จะกระตุ้นยอดขายให้ผู้ประกอบธุรกิจ  ให้สามารถสร้างรายได้ที่มากยิ่งขึ้น นอกจากในเรื่องของยอดขายที่มากขึ้นแล้ว ยังทำให้ทางร้านเป็นที่รู้จักและทำให้มีชื่อเสียงมากขึ้นอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย