นนทบุรี 15 มี.ค.-รมว.พณ.แจ้งข่าวดีหลังหารือกลุ่มเอกชนยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นหลายรายสนใจและเล็งเห็นความอุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งวัตถุดิบ อาหาร-พลังงานทุกด้านดีและต่อเนื่อง เตรียมแผนที่จะลงทุนในไทยเพิ่มเติมเร็วๆนี้ผ่านการใช้กรอบสิทธิประโยชน์ด้าน FTA และ EEC เชื่อจะสร้างเงิน สร้างอนาคตของประเทศเพิ่มขึ้น
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวภายหลังหารือร่วมกับนายซูซูกิโยชิฮิสะ และดร.ซูซูกิ จุน ประธานคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจญี่ปุ่น–ไทย (Japan –Thailand Trade and Economic Committee) ภายใต้สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (เคดันเรน) ที่ได้นำคณะมาเยือนประเทศไทย ที่ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานที่ผ่านมา โดย ประธานคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจญี่ปุ่น-ไทย เพื่อหารือกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นมีความสำคัญทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนกับไทย โดยญี่ปุ่นมาลงทุนในอาเซียน 14,846 บริษัท ซึ่งมาลงทุนในไทยถึง 6,000 บริษัท และคาดว่าจะมีมากขึ้นในอนาคตนี้ โดยญี่ปุ่นถือเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 3 ของไทย รองจากจีนกับสหรัฐฯ ปี 2565 มีมูลค่าการค้าร่วมกันถึง 2 ล้านล้านบาท และไทยส่งออกไปญี่ปุ่นปีที่แล้ว 8.55 แสนล้านบาท ญี่ปุ่นถือเป็นตลาดใหญ่ตลาดหนึ่งของไทย
ทั้งนี้ ความร่วมมือทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคีทั้งภาครัฐและเอกชนของ 2 ฝ่าย สำหรับระดับทวิภาคี มีกรอบ JTEPA (ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA ที่ภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายจะใช้ประโยชน์ในการลดภาษี เปิดตลาดการค้าบริการและการลงทุนระหว่างกัน ในระดับพหุภาคี ไทยกับญี่ปุ่น เป็นสมาชิกRCEP (ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค) ซึ่งปัจจุบันเป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และไทย-ญี่ปุ่นกำลังเดินหน้าขับเคลื่อน RCEP ด้วยกันให้ได้รับประโยชน์ทางการค้าการลงทุนสูงสุด และมีกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) ซึ่งไทยกับญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนสำคัญ และยังมีเอเปคที่เป็นสมาชิกร่วมกันในระดับความร่วมมือที่ใกล้ชิดทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคีอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีทั้ง EEC (โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) และเขตเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ญี่ปุ่นสามารถเลือกลงทุนในไทยผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI จะเป็นกลไกหลักให้ความดูแลสนับสนุน รวมทั้งญี่ปุ่นมองว่าไทยมีศักยภาพในการเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญทางการผลิตและเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตให้กับญี่ปุ่น และในอนาคตนอกจากจีน ทั้งเรื่องอาหาร อุตสาหกรรมและอื่นๆที่เกี่ยวข้องซึ่งญี่ปุ่นนำเข้าไก่จากไทยอันดับ 1 ปีละกว่า 3 สามแสนตัน รวมทั้งวัตถุดิบชีวภาพเอาไปทำพลังงานในญี่ปุ่น โดยจากนี้ทางญี่ปุ่นจะมาประชุมกับ กกร.ของไทย(คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน) จะเป็นประโยชน์ในความส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเอกชนไทยกับญี่ปุ่นให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย