BTS ยืนยันไม่เคยฮั้วประมูลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสีเขียว

กรุงเทพฯ 14 มี.ค.- “คีรี กาญจนพาสน์” นำทีมผู้บริหาร BTS ชี้แจงไม่เคยฮั้วประมูลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ย้ำทำตามกฎหมายทุกขั้นตอน ชี้ ป.ป.ช. ปล่อยเอกสารหลุดผิดปกติ เชื่อเกี่ยวข้องประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม 


นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือรถไฟฟ้า BTS พร้อมด้วยนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฯ และ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ที่ปรึกษาประธานกรรมการฯ ร่วมกันแถลงชี้แจงข้อเท็จจริง กรณี ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด 

ผู้บริหารรถไฟฟ้า BTS ผู้บริหารบริษัท กรุงเทพธนาคม และอดีตผู้ว่ฯ กทม. รวม13 ราย กระทำการทุจริตในสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท อ่อนนุช-แบริ่ง, สายสีลม ตากสิน-วงเวียนใหญ่ และต่อสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าเส้นทางหมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน ซึ่งจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2572 ออกไปอีก 13 ปี เพื่อให้ทั้ง 3 เส้นทางสิ้นสุดพร้อมกันในปี 2585


นายสุรพงษ์ ระบุว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการแจ้งข้อกล่าวหาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เท่านั้น BTS ยังไม่ถูกฟ้องร้องหรือดำเนินคดีแต่อย่างใด ยืนยันว่าที่ผ่านมาบริษัททำสัญญาเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีการฮั้วประมูลใดๆ 

นายสุรพงษ์ยังชี้แจงสรุปว่า สัญญาว่าจ้างที่เกิดขึ้นไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ เพราะมีการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนตามกฎหมายแล้ว แต่ไม่มีคนมาประมูล เพราะเอกชนต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเองทั้งหมด จึงมีการเสนอให้ ครม. ในปี 2543 พิจารณา และเป็นจุดเริ่มให้มีการเจรจาจ้างตรงผ่านความเห็นชอบของ ครม.

จากนั้น กทม. ได้ทำการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ก่อนทำสัญญาว่าจ้างการเดินรถ กับบีทีเอส โดย กทม. มีการหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว มีคำวินิจฉัยว่าการว่าจ้างดังกล่าวไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุน และมีการลงนามร่วมกันในปี 2555 ต่อมามีผู้ร้องเรียนไปที่ DSI ทำการสอบสวนเรื่องดังกล่าว กระทั่งได้ข้อสรุปในปี 2556 ว่าบีทีเอสไม่มีความผิด ขณะที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้อง


ด้าน พ.ต.อ.สุชาติ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวมีการนำเอกสารซึ่งเป็นรายงานการสอบสวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นเอกสารลับมาเผยแพร่โดยมิชอบ ซึ่งส่งผลต่อสำนวนการสอบสวน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดการไต่สวนเรื่องดังกล่าวซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2555 วันนี้ครบ 11 ปีแล้ว จึงเพิ่งถูกหยิบยกมาพิจารณา เหตุใดใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวนยาวนานขนาดนี้ และการแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวมาเกิดขึ้นในช่วงที่นายคีรีกำลังต่อสู้เรื่องการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

ขณะที่การนำเอกสารลับดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ทั้งที่ผลการสอบสวนแจ้งข้อหาผู้เกี่ยวข้องผ่านมา 2 เดือนแล้ว ส่งผลให้หุ้นของบริษัท BTS ราคาปรับตัวต่ำติดฟลอร์ จึงตั้งคำถามว่าต้องการทำลาย BTS หรือไม่ และประธาน ป.ป.ช. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นได้หรือไม่

ด้านนายคีรี ระบุว่า รู้สึกแปลกใจที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินคดี เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ตนประมูลการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยมีอำนาจบางอย่างใช้เรื่องนี้เป็นชนักปักหลังให้ตนหยุดเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม พร้อมระบุว่ามีขบวนการที่ต้องการสร้างความเสียหายให้กับ BTS ถึงขนาดล้มละลาย เริ่มตั้งแต่การไม่จ่ายเงินค่าจ้างเดินรถและค่าระบบจำนวนกว่า 4 หมื่นล้านบาท จนต้องฟ้องศาลบังคับ แม้ศาลปกครองกลางพิพากษาให้ชำระหนี้แล้วแต่ถึงวันนี้ยังไม่มีการชำระ ปล่อยให้ยอดเงินเพิ่มเป็นเกือบ 50,000 ล้านบาทแล้ว แต่ยืนยันว่าจะพยายามทุกวิถีทางในการไม่หยุดเดินรถ หรือเอาประชาชนเป็นตัวประกัน

นายคีรียังยืนยันด้วยว่า ไม่กลัวเรื่องการต่อสู้ทางคดี เพราะตนเป็นนักสู้ สู้เพื่อระบบโครงสร้างพื้นฐานของประชาชนมาตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว และทำงานบนพื้นฐานความถูกต้องชอบธรรม พร้อมฝากไปถึงภาครัฐว่าเอาแต่ได้หรือไม่ เพราะเก็บเงินค่าโดยสารส่วนต่อขยายทุกวัน แต่กลับจะให้เอกชนควักทุนในการเดินรถ ไม่ยอมจ่ายเงิน หากข่าวนี้เผยแพร่ออกไปทั่วโลกจะสร้างความไม่มั่นใจให้กับนักลงทุนได้ พร้อมย้ำว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ดีน่าลงทุนมาก แต่สิ่งนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับบริษัทของตน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มพนักงานรถไฟฟ้าบีทีเอส นำโดยนายเศกศักดิ์ หุ่นสะอาด รวมตัวกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาแก้ไขปัญหาหนี้สินจากการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ทั้งนี้ รถไฟฟ้าบีทีเอสให้บริการมา 20 กว่าปี โดยไม่เคยหยุดการเดินรถ แต่วันนี้พนักงานที่หยุดงานได้ใช้วันหยุดพร้อมใจกันมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นคำขาดให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินในการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่ง บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นคู่สัญญากับ บมจ.กรุงเทพธนาคม (KT) ทั้งส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่สอง 2 และ 3 ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า คสช. มีคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 3/2562 เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับหนี้บริการสาธารณะ แต่ผ่านมาจนถึงวันนี้กว่า 4 ปีแล้วหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น KT หรือหน่วยงานใดก็ตาม ไม่ได้ดำเนินการตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี แม้บริษัทจะฟ้องศาลปกครองจนมีคำสั่งให้จ่ายเงินแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไม่จ่ายหนี้ค่าจ้างเดินรถสะสมจะทำให้ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงิน และการใช้จ่ายของบริษัท และทำให้พนักงานทั้งหมดกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานพนักงานในอนาคต แม้ขณะนี้บริษัทจะยังมีเงินจ่ายพนักงานได้ตามปกติก็ตาม ดังนั้น จึงขอให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลนี้ก่อนการยุบสภาฯ เพราะกังวลว่าหากยุบสภาฯ และหากรัฐบาลใหม่จะไม่ดำเนินการแก้ปัญหา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย