BTS ยืนยันไม่เคยฮั้วประมูลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสีเขียว

กรุงเทพฯ 14 มี.ค.- “คีรี กาญจนพาสน์” นำทีมผู้บริหาร BTS ชี้แจงไม่เคยฮั้วประมูลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ย้ำทำตามกฎหมายทุกขั้นตอน ชี้ ป.ป.ช. ปล่อยเอกสารหลุดผิดปกติ เชื่อเกี่ยวข้องประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม 


นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือรถไฟฟ้า BTS พร้อมด้วยนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฯ และ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ที่ปรึกษาประธานกรรมการฯ ร่วมกันแถลงชี้แจงข้อเท็จจริง กรณี ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด 

ผู้บริหารรถไฟฟ้า BTS ผู้บริหารบริษัท กรุงเทพธนาคม และอดีตผู้ว่ฯ กทม. รวม13 ราย กระทำการทุจริตในสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท อ่อนนุช-แบริ่ง, สายสีลม ตากสิน-วงเวียนใหญ่ และต่อสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าเส้นทางหมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน ซึ่งจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2572 ออกไปอีก 13 ปี เพื่อให้ทั้ง 3 เส้นทางสิ้นสุดพร้อมกันในปี 2585


นายสุรพงษ์ ระบุว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการแจ้งข้อกล่าวหาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เท่านั้น BTS ยังไม่ถูกฟ้องร้องหรือดำเนินคดีแต่อย่างใด ยืนยันว่าที่ผ่านมาบริษัททำสัญญาเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีการฮั้วประมูลใดๆ 

นายสุรพงษ์ยังชี้แจงสรุปว่า สัญญาว่าจ้างที่เกิดขึ้นไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ เพราะมีการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนตามกฎหมายแล้ว แต่ไม่มีคนมาประมูล เพราะเอกชนต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเองทั้งหมด จึงมีการเสนอให้ ครม. ในปี 2543 พิจารณา และเป็นจุดเริ่มให้มีการเจรจาจ้างตรงผ่านความเห็นชอบของ ครม.

จากนั้น กทม. ได้ทำการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ก่อนทำสัญญาว่าจ้างการเดินรถ กับบีทีเอส โดย กทม. มีการหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว มีคำวินิจฉัยว่าการว่าจ้างดังกล่าวไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุน และมีการลงนามร่วมกันในปี 2555 ต่อมามีผู้ร้องเรียนไปที่ DSI ทำการสอบสวนเรื่องดังกล่าว กระทั่งได้ข้อสรุปในปี 2556 ว่าบีทีเอสไม่มีความผิด ขณะที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้อง


ด้าน พ.ต.อ.สุชาติ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวมีการนำเอกสารซึ่งเป็นรายงานการสอบสวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นเอกสารลับมาเผยแพร่โดยมิชอบ ซึ่งส่งผลต่อสำนวนการสอบสวน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดการไต่สวนเรื่องดังกล่าวซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2555 วันนี้ครบ 11 ปีแล้ว จึงเพิ่งถูกหยิบยกมาพิจารณา เหตุใดใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวนยาวนานขนาดนี้ และการแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวมาเกิดขึ้นในช่วงที่นายคีรีกำลังต่อสู้เรื่องการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

ขณะที่การนำเอกสารลับดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ทั้งที่ผลการสอบสวนแจ้งข้อหาผู้เกี่ยวข้องผ่านมา 2 เดือนแล้ว ส่งผลให้หุ้นของบริษัท BTS ราคาปรับตัวต่ำติดฟลอร์ จึงตั้งคำถามว่าต้องการทำลาย BTS หรือไม่ และประธาน ป.ป.ช. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นได้หรือไม่

ด้านนายคีรี ระบุว่า รู้สึกแปลกใจที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินคดี เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ตนประมูลการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยมีอำนาจบางอย่างใช้เรื่องนี้เป็นชนักปักหลังให้ตนหยุดเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม พร้อมระบุว่ามีขบวนการที่ต้องการสร้างความเสียหายให้กับ BTS ถึงขนาดล้มละลาย เริ่มตั้งแต่การไม่จ่ายเงินค่าจ้างเดินรถและค่าระบบจำนวนกว่า 4 หมื่นล้านบาท จนต้องฟ้องศาลบังคับ แม้ศาลปกครองกลางพิพากษาให้ชำระหนี้แล้วแต่ถึงวันนี้ยังไม่มีการชำระ ปล่อยให้ยอดเงินเพิ่มเป็นเกือบ 50,000 ล้านบาทแล้ว แต่ยืนยันว่าจะพยายามทุกวิถีทางในการไม่หยุดเดินรถ หรือเอาประชาชนเป็นตัวประกัน

นายคีรียังยืนยันด้วยว่า ไม่กลัวเรื่องการต่อสู้ทางคดี เพราะตนเป็นนักสู้ สู้เพื่อระบบโครงสร้างพื้นฐานของประชาชนมาตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว และทำงานบนพื้นฐานความถูกต้องชอบธรรม พร้อมฝากไปถึงภาครัฐว่าเอาแต่ได้หรือไม่ เพราะเก็บเงินค่าโดยสารส่วนต่อขยายทุกวัน แต่กลับจะให้เอกชนควักทุนในการเดินรถ ไม่ยอมจ่ายเงิน หากข่าวนี้เผยแพร่ออกไปทั่วโลกจะสร้างความไม่มั่นใจให้กับนักลงทุนได้ พร้อมย้ำว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ดีน่าลงทุนมาก แต่สิ่งนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับบริษัทของตน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มพนักงานรถไฟฟ้าบีทีเอส นำโดยนายเศกศักดิ์ หุ่นสะอาด รวมตัวกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาแก้ไขปัญหาหนี้สินจากการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ทั้งนี้ รถไฟฟ้าบีทีเอสให้บริการมา 20 กว่าปี โดยไม่เคยหยุดการเดินรถ แต่วันนี้พนักงานที่หยุดงานได้ใช้วันหยุดพร้อมใจกันมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นคำขาดให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินในการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่ง บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นคู่สัญญากับ บมจ.กรุงเทพธนาคม (KT) ทั้งส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่สอง 2 และ 3 ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า คสช. มีคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 3/2562 เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับหนี้บริการสาธารณะ แต่ผ่านมาจนถึงวันนี้กว่า 4 ปีแล้วหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น KT หรือหน่วยงานใดก็ตาม ไม่ได้ดำเนินการตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี แม้บริษัทจะฟ้องศาลปกครองจนมีคำสั่งให้จ่ายเงินแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไม่จ่ายหนี้ค่าจ้างเดินรถสะสมจะทำให้ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงิน และการใช้จ่ายของบริษัท และทำให้พนักงานทั้งหมดกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานพนักงานในอนาคต แม้ขณะนี้บริษัทจะยังมีเงินจ่ายพนักงานได้ตามปกติก็ตาม ดังนั้น จึงขอให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลนี้ก่อนการยุบสภาฯ เพราะกังวลว่าหากยุบสภาฯ และหากรัฐบาลใหม่จะไม่ดำเนินการแก้ปัญหา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ “ครม.แพทองธาร 1/2” นายกฯ ควบเก้าอี้ วธ.

กรุงเทพฯ 1 ก.ค.- โปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่ “แพทองธาร 1/2” นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม ขณะที่ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 วันนี้ (1 ก.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี  พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 16 สิงหาคม พุทธศักราช 2567 แล้ว นั้น บัดนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ กราบบังคมทูลว่า ได้มีรัฐมนตรีลาออกบางตำแหน่ง สมควรแต่งตั้งรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่าง และปรังปรุงรัฐมนตรีบางตำแหน่งเพื่อความเหมาะสม และบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน โดยอาศัยอำนาจ ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้น จากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ และให้แต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป […]

คุมได้แล้วเพลิงไหม้โรงงานผลิตทิชชู ตาย 8 สูญหาย 2

สระบุรี 1 ก.ค. – เหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตทิชชูใน อ.หนองแค จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ได้ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย สูญหาย 2 ราย เบื้องต้นอาคารโรงงานเสียหายทั้งหมด ส่วนสาเหตุต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง ช่วงเที่ยงวานนี้ (30 มิ.ย.) เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงในโรงงานผลิตทิชชู ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราช อ.หนองแค จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงกว่า 50 คัน ช่วยควบคุมสถานการณ์ พบเพลิงลุกไหม้ภายในโรงงาน และได้รับแจ้งว่ามีพนักงานอยู่ภายในสำนักงานชั้น 2 และชั้น 3 รวม 10 คน ยังไม่สามารถออกมาได้ จึงเร่งฉีดน้ำสกัด แต่เนื่องจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี กระทั่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด จากนั้นได้รับรายงานว่ามีผู้สูญหาย 10 คน ทั้งหมดเป็นพนักงาน ก่อนเกิดเหตุทำงานอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ของโรงงานและเป็นห้องกระจก แต่จุดเกิดเพลิงไหม้อยู่ชั้นล่าง อาจไม่ได้ยินหรือไม่รู้ว่าเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งจุดที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดคือชั้น 2 […]

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 […]