ทำเนียบฯ 7 มี.ค.- ครม.อนุมัติยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและ VAT จากการขายโทเคนดิจิทัล ย้อนหลังถึง 14 พ.ค.61 คาดช่วง 2 ปี เอกชนเสนอขายโทเคนดิจิทัล 1.28 แสนล้านบาท
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล (รายได้จากการขายลบต้นทุน) สำหรับการขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่เสนอขายต่อประชาชน สำหรับการลงทุน ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป เพื่อให้มาตรการภาษีของโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนเท่าเทียมกับมาตรการภาษีของหลักทรัพย์ และส่งเสริมการลงทุน
เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจโดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการระดมทุน ทั้งนี้ โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) คือ โทเคนดิจิทัลที่กำหนดสิทธิของบุคคลในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือกิจการใด ๆ โดยผู้ถือโทเคนเพื่อการลงทุน จะได้ผลตอบแทนในรูปแบบของส่วนแบ่งของกำไรและส่วนแบ่งรายได้ ผู้ได้รับสิทธิประโยชน์ เมื่อขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนต่อประชาชนในตลาดแรก และบุคคลธรรมดา และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ซื้อขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน ในตลาดรอง
นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากฎหมายฉบับนี้ เป็นการเพิ่มทางเลือกในการระดมทุนของผู้ประกอบธุรกิจในประเทศไทยด้วยโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน เพิ่มเติมจากการระดมทุนด้วยเครื่องมือแบบดั้งเดิม เช่น กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ พันธบัตร และหุ้นกู้ อันจะส่งผลดีต่อการระดมทุน การลงทุน และการจ้างงานในประเทศ รวมทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้ง ยังส่งผลให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีที่เกี่ยวกับโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนได้มากขึ้นในระยะยาว โดยมาจากการเติบโตของผู้ประกอบธุรกิจและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ใช้โทเคนเพื่อการลงทุนเป็นเครื่องมือในการระดมทุนในประเทศไทย
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) คาดการณ์ว่าในช่วงปี 2566 ถึงปี 2567 ภาคเอกชนเตรียมออกและเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนมูลค่าประมาณ 128,000 ล้านบาท คิดเป็นภาษีเงินได้นิติบุคคล 25,600 ล้านบาท และภาษีมูลค่าเพิ่ม 8,960 ล้านบาท คาดว่ารัฐสูญเสียรายได้ ช่วง 2 ปี ประมาณ 35,279 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย