ลุ้นออกสลากรูปแบบใหม่ 

พังงา 7 มี.ค.- ลุ้นออกสลากรูปแบบใหม่ “L6 -N3” หรือ “สลากดิจิทัล-สลาก2-3 ตัว” ก.คลัง ส่งเข้า ครม.พิจารณา 14 มี.ค.นี้ หวังแก้ปัญหาขายสลากเกิน 80 บาท-หวยใต้ดิน ยืนยันหากไม่ทันพร้อมดันรัฐบาลชุดหน้าสานต่อ 


นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการออกสลากรูปแบบใหม่ ลอตเตอรี่ 6 หรือ L6 และ สลากเลข 3 หลัก หรือ N3 โดยระบุว่าในสัปดาห์หน้า (14 มี.ค.66) ต้องติดตามว่าเรื่องดังกล่าวจะมีการนำเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาหรือไม่ ภายหลังสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ และได้นำเสนอข้อมูลทั้งหมดให้กระทรวงการคลังนำเข้าสู่การพิจารณาของครม.แล้ว

โดยเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะทันการพิจารณาของครม.ชุดนี้ อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถเข้าพิจารณาในครม.ชุดนี้ได้ทันสำนักงานสลากฯ ก็พร้อมที่จะเสนอรูปแบบการออกสลากใหม่ในครม.ชุดหน้า 


สำหรับ สาระสำคัญสำหรับสลากรูปแบบใหม่ประเภท L6 หรือ สลากดิจิทัล หากผ่านการอนุมัติจากครม.สำนักงานสลากฯ สามารถดำเนินการเพิ่มปริมาณสลาก เข้าสู่ระบบได้ทันที แต่จะเพิ่มจำนวนเท่าใด คณะกรรมการฯ จะมีการพิจารณา โดยค่อยๆทยอยเพิ่มจำนวนขึ้น จากปัจจุบันมีสลากดิจิทัลจำหน่ายแล้ว 17 ล้านฉบับ จะเพิ่มเป็น 18 ล้านฉบับและ 20 ล้านฉบับ จากนั้นจะเพิ่มถึง 30 ล้านฉบับภายในสิ้นปีนี้หรือกลางปีหน้า โดยมีเพดานสุดท้ายอยู่ที่ 40 ล้านฉบับ ซึ่งเชื่อว่า หากมีการจำหน่ายสลากดิจิทัล เกินกว่า 40-50% ของระบบ จากสลากทั้งหมด 100 ล้านใบจะช่วยแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคา 80 บาทได้อย่างรวดเร็ว และทำให้ราคาสลากแบ่งรัฐบาลที่จำหน่ายทั่วไปกลับมาขายในราคาใกล้เคียงกับ 80 บาทได้ 

“สำนักงานสลากฯ เห็นว่าประชาชนบางส่วนอาจจะไม่คุ้นเคยกับการซื้อสลากดิจิตอลผ่าน application เป๋าตังค์ ขณะที่บางคนยังมีพฤติกรรมต้องการเลือกซื้อสลากเป็นใบ จึงจะค่อยๆเพิ่มปริมาณสลากเข้าไปในระบบและเชื่อว่าน่าจะถึงจุดสมดุลย์ได้ในช่วงกลางปีหน้า”นายธนวรรธน์ กล่าว

กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังกล่าวอีกว่า ส่วนสลากประเภท รูปแบบใหม่ประเภท “N3” หรือ สลากเลข 3 หลัก ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคา รวมถึงปัญหาหวยใต้ดินนั้น หากผ่านการพิจารณาของครม.แล้ว สำนักงานสลากคาดว่าจะสามารถเริ่มจำหน่ายได้ภายใน 6 เดือน 


โดยเมื่อผ่านครม.คณะกรรมการผลิตภัณฑ์ใหม่ จะต้องพิจารณารายละเอียด และทางเลือกในการออกสลาก N3  คือ1.ราคาจำหน่ายสลาก จากเดิมที่มีการประชาพิจารย์พบว่าราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ 50 บาทต่อ 1 ใบแต่คณะกรรมการมีการตั้งข้อสังเกตว่าราคา 50 บาทอาจสูงเกินไปจึงอาจพิจารณาลดราคาเป็นในช่วง 20-40 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน ซื้อสลากที่ถูกกฎหมายในราคาที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้ประชาชนปฏิเสธสลากที่ขายเกินราคา  ขณะเดียวกันหากมีการจำหน่ายสลาก N 3 ราคาสูงเกินไป วัตถุประสงค์ที่จะดึงเงินจากหวยใต้ดิน ก็จะทำได้ยากขึ้น

2.การพิจารณาระบบการขาย ซึ่งระบบที่เร็วที่สุดคือการขายผ่าน application “เป๋าตัง” หากครม.อนุมัติก็สามารถดำเนินการได้ทันที  หรือ ระบบการขายผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่เหมือนมือถือ ซึ่งผู้ขายสามารถนำติดตัวไป ณ จุดขายหรือสามารถเดินเร่ขายได้ ซึ่งจะถูกจริตคนไทยเพราะสามารถเลือกซื้อที่ใดก็ได้ใกล้เคียงกับหวยใต้ดิน และสุดท้ายคือการขายผ่านทั้ง 2 ระบบ สำนักงานสลากจะต้องควบคุมว่าผู้ขาย 1 คนจะสามารถขายได้กี่หมายเลข เพื่อให้ผู้ขายสลาก L6 หรือ N3 มีรายได้ใกล้เคียงกัน หรือจะสามารถขายสลากได้ทั้ง 2 ชนิด

และ3.ระบบการคัดเลือกตัวแทนขายที่อาจต้องมีการเปิดลงทะเบียนใหม่ ซึ่งในส่วนนี้จะมีการพิจารณาภายหลังได้รับการอนุมัติจากครม.แต่ต้องดูว่าครม.มีข้อท้วงหรือข้อสังเกตอื่นใดหรือไม่ หากครม.อนุมัติก็ยืนยันว่าสำนักงานสลากพร้อมดำเนินการได้ทันที 

นอกจากนี้ คณะกรรมการ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ยังมีแนวคิดในการพิจารณาการออกรางวัลด้วยว่าจะใช้การออกรางวัลของสลากกินแบ่งรัฐบาลปกติโดยใช้รางวัลเลขท้าย 2-3 ตัวเหมือนเดิมหรือ จะแยกออกรางวัลออกมาเป็นรางวัลใหม่เพื่อทำให้ผู้ซื้อเห็นว่าเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างแท้จริง เหมือนซื้อหวยใต้ดินแต่ถูกกฎหมาย ซึ่งมีงานวิจัยชัดเจนว่า การขายสลาก2- 3 ตัวหรือหวยบนดินในอดีต ทำให้ประชาชน หันมาซื้อหวยบนดินเพราะเป็นเรื่องถูกกฎหมาย

ดังนั้น จึงเชื่อว่า สลากแบบ N3 จะได้ประโยชน์ ทั้งในส่วนของการช่วยตรึงราคาทำให้การขายสลากกินแบ่งรัฐบาลมีราคาไม่เกินราคา 80 บาท และช่วยทำให้การซื้อหวยใต้ดินลดลง เมื่อประชาชนเห็นว่า สลากแบบ N3 มีราคาใกล้เคียงกับหวยใต้ดิน แต่ถูกกฎหมายประชาชนจะหันมาเลือกซื้อมากขึ้นเพราะไม่ต้องกลัวว่าจะถูกเบี้ยวจากเจ้ามือหวยเถื่อน เพราะรัฐจ่ายเต็ม ขณะเดียวกันยังสามารถนำเงินที่ได้ 23% มาเป็นรายได้แผ่นดินใช้พัฒนาประเทศได้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

ทบ.ยันไม่พบทหารกัมพูชาปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต

กทม. 15 มิ.ย.-กองทัพบก ยืนยันไม่พบทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือ ปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต ขอฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น จากกรณีเพจแจ้งข่าวศรีสะเกษ เผยแพร่ข่าวทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธครบมือ ปิดถนนทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต บริเวณช่องบก ห้ามไม่ให้ทหารไทยขึ้นไปซ่อมแซมถนน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเวลา 12.45 น. ล่าสุด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ พบว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขอให้ฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเป็นหลัก หรือสามารถสอบถามกองทัพบกได้เป็นกรณีไป พร้อมระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการทำถนนไว้ส่งกำลังบำรุง แต่อยู่ในเขตเราทั้งหมด ซึ่งทางกัมพูชาเข้าใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]