ทำเนียบฯ 28 ก.พ. -ครม.จัดสรรงบกลาง 1,000 ล้านบาท นำร่องโมเดลเศรษฐกิจ BCG กองทุนหมู่บ้านฯ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 26 ก.พ. 66 ได้ เห็นชอบการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 1,037.48 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในโครงการนำร่องตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ตามที่สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง(สทบ.) เสนอ
ทั้งนี้ สทบ. ได้ริเริ่มโครงการนี้เนื่องจากได้เล็งเห็นความเดือดร้อนของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ตลอดจนประชาชนที่อาศัยในหมู่บ้านและชุมชนที่ต้องแบกรับภาระเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น แต่ผลผลิตหรือรายได้ลดลง จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินโครงการโดยนำโมเดลเศรษฐกิจแบบ BCG เข้ามาขับเคลื่อน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตามโครงการจะสนับสนุนให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 786 กองทุนดำเนินการติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจแบบ BCG 5 รูปแบบกิจกรรม ได้แก่
1.เทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะ แบบกลางแจ้ง/ระบบเปิด เช่น การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์และจัดทำระบบจ่ายน้ำอัตโนมัติด้วยโดรน
2.เทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะ แบบในร่ม/ระบบปิด เช่น การติดตั้งระบบการใช้น้ำอย่างประหยัดด้วยระบบน้ำหยด
3.เทคโนโลยีผลิตส่งเสริมทางด้านการเกษตรและอาหารครบวงจร เช่น การใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดต้นทุนการผลิต และการผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยพลังงานทดแทน
4.เทคโนโลยีการผลิตเชื้อเพลิงพลังงาน ผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรหรือขยะ เช่น การนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาทำปุ๋ยหมัก/จุลินทรีย์
5.เทคโนโลยีผลิตน้ำดื่ม แบบครบวงจร เช่น การใช้ระบบโซล่าเซลล์เข้ามาช่วยในกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิตน้ำดื่ม
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สทบ.ประเมินว่าโครงการจะสามารถยกระดับการผลิต การค้าและการบริการในระดับชุมชน และยังเป็นการกระตุ้นการบริโภคและลงทุนของชุมชนจากผลผลิตตามโครงการ เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เข้มแข็ง และโครงการนี้จะเป็นการนำร่องตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG กระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบใหม่ในระดับฐานรากที่ต่อเนื่องต่อไป
สำหรับขั้นตอนการดำเนินโครงการ สทบ. จะประกาศให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทราบในรายละเอียดต่อไป .-สำนักข่าวไทย