ยินดีปัญหาผู้ประกอบการกิจการประมงฯ ได้รับการแก้ไข

กทม. 25 ก.พ.- โฆษกรัฐบาลเผย นายกรัฐมนตรียินดีที่ปัญหาของผู้ประกอบการกิจการประมงฯ ได้รับการแก้ไข ยืนยันนายกฯ ต้องการให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพ อยู่ดีมีสุข เป็นธรรมและเท่าเทียม


วันนี้ (25 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 21 ก.พ. 66 มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลางฯ รวม 163,363,400 บาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายช่วยเหลือเยียวยาซื้อเรือประมงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตามโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีเร่งด่วน (เรือชุดที่ 1) จำนวน 96 ลำ เพื่อสนับสนุนมาตรการลดจำนวนเรือประมงของรัฐบาล และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการกิจการประมง และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการประมงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เสนอ โดยเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา สมาคมการประมงจังหวัดปัตตานีและกลุ่มผู้ประกอบการประมงภาคใต้ได้เข้าพบนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ เพื่อขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้สั่งการโดยตรงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาทั้งหมด ทำให้ผู้ประกอบการกิจการประมงและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการประมงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาล นั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความยินดีที่ปัญหาของผู้ประกอบการกิจการประมงฯ ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วตามความตั้งใจของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพ มีความเป็นอยู่อย่างมีความสุข เป็นธรรม และเท่าเทียม

“เรื่องความเดือดร้อนของชาวประมง เป็นหนึ่งในความเดือดร้อนของประชาชนที่นายกรัฐมนตรีกำชับให้เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน และปัญหาของสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานีก็เป็นหนึ่งในปัญหาที่นายกรัฐมนตรีห่วงใย สั่งการให้คลี่คลายความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน ซึ่งความสำเร็จในการช่วยเหลือให้พี่น้องชาวประมงภาคใต้ได้รับเงินเยียวยาตามโครงการฯ นับเป็นหนึ่งในความสำเร็จในการคลี่คลายปัญหาให้กับประชาชนอีกจำนวนมาก และเป็นการช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็วตามความตั้งใจของนายกฯ ที่ต้องการให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพ อยู่ดีมีสุข เป็นธรรม และเท่าเทียม ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนในภาพรวมของประเทศ นายกรัฐมนตรีให้ ศอ.บต.ปฏิบัติตามมติคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติในการดำเนินโครงการฯ ที่กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลัก ให้พิจารณาถึงความเท่าเทียมและเสมอภาคในพื้นที่ดำเนินงาน เพื่อป้องกันความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมในการช่วยเหลือเยียวยา ที่ควรพิจารณาในภาพรวมของประเทศไทย ไม่เฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และย้ำว่ารัฐบาลได้ขับเคลื่อนนโยบายประมงบนหลักกฎหมาย คำนึงถึงความอยู่รอดของประมงพื้นบ้าน และผลประโยชน์ของทรัพยากรทางทะเลที่ยั่งยืนร่วมกันเป็นสำคัญ” นายอนุชา กล่าว


อนึ่ง ครม. อนุมัติให้ ศอ.บต. ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน 163,363,400 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกรณีเร่งด่วน (เรือชุดที่ 1) ในการชดเชยเยียวยาเจ้าของเรือประมงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ปี 2558 โดยเป็นกลุ่มเรือพื้นที่จังหวัดปัตตานี ที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ไม่พบการกระทำความผิด (กลุ่มขาว) และประสงค์จะเลิกอาชีพทำการประมง จำนวน 96 ลำ สำหรับอัตราค่าใช้จ่ายในการชดเชยเยียวยาดังกล่าว ซึ่งเป็นลักษณะงบดำเนินการให้เป็นไปตามการพิจารณาความเหมาะสมของอัตราค่าใช้จ่ายของกระทรวงการคลัง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี พ.ศ. 2559 โดยโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะทำให้ประเทศไทยสามารถบริหารจัดการกองเรือให้มีความเหมาะสมกับปริมาณสัตว์น้ำ เพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน สามารถจัดสรรปริมาณสัตว์น้ำให้กับเรือประมงที่อยู่ในระบบเหมาะสมกับปริมาณสัตว์น้ำทั้งหมดที่อนุญาตให้ทำการประมง ลดความเสี่ยงที่จะเกิดการทำประมงผิดกฎหมายจากการใช้เรือประมงที่ไม่มีใบอนุญาตทำการประมง รวมทั้งชาวประมงที่ไม่ประสงค์จะประกอบอาชีพประมงสามารถนำเงินที่ได้รับไปเป็นทุนประกอบอาชีพอื่น ๆ ได้ตามที่ต้องการ .-สำนักข่าวไไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น