เปิดทำใบขับขี่สากล ไม่ต้องจองคิว

กรุงเทพฯ 22 ก.พ.-ขนส่งทางบก เชิญทำใบขับขี่สากล ไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า แนะใช้ใบขับขี่ของไทยแสดงควบคู่กันเมื่อใช้ในต่างประเทศ  


นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ในปี 2566 หลังจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ได้คลี่คลายลง การดำรงชีวิตและดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมกลับสู่สภาวะปกติ หลายๆประเทศได้มีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว รวมถึงมีประชาชนเดินทางไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศเพื่อเรียนหรือทำงาน ทำให้ประชาชนสนใจทำใบขับขี่สากลเพื่อการเช่ารถยนต์เพื่อท่องเที่ยวหรือขับรถยนต์ในต่างประเทศ 

ทั้งนี้ ใบขับขี่สากลที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามอนุสัญญา 2 ฉบับ นั่นคือ “อนุสัญญาเจนีวา 1949” และ “อนุสัญญาเวียนนา 1968” โดยรายละเอียดของอนุสัญญาดังกล่าวมีดังนี้   


อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ นครเจนีวา ค.ศ. 1949 หรือ อนุสัญญาเจนีวา 1949 มีอายุ 1 ปี นำไปใช้ได้ใน102 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เกาหลีใต้  นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เป็นต้น

อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ กรุงเวียนนา ค.ศ. 1968 หรือ อนุสัญญาเวียนนา 1968 มีอายุ 

3 ปีนับแต่วันออกใบขับขี่สากล หรือเท่ากับอายุของใบขับขี่ภายในประเทศที่ผู้ถือมีอยู่ นำไปใช้ได้ 86 ประเทศ 


เช่น บาห์เรน บราซิล เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น 

สำหรับประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาทั้งสองฉบับ เช่น สหราชอาณาจักร อิตาลี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวีเดนรวมถึงประเทศไทย สามารถใช้ใบขับขี่สากลที่ออกตามอนุสัญญาเวียนนา 1968 เพียงฉบับเดียวได้

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า ใบขับขี่ตามอนุสัญญาดังกล่าว มีส่วนสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยทางถนนและมาตรฐานใบขับขี่รถของประเทศไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล ทั้งยังเพิ่มโอกาสที่ใบขับขี่ระหว่างประเทศของไทยจะได้รับการยอมรับให้สามารถนำไปใช้ในต่างประเทศ และประเทศไทยก็สามารถยอมรับใบขับขี่ระหว่างประเทศที่ออกโดยประเทศที่เป็นภาคีตามอนุสัญญา รวมถึงส่งเสริมท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ สำหรับผู้ที่ต้องการขอรับใบขับขี่สากลสามารถเข้ารับบริการ ณ สำนักงานขนส่ง ได้โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า (walk in ) หรือจองคิวล่วงหน้าผ่าน แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue และแจ้งรายชื่อประเทศที่ต้องการนำใบขับขี่สากลไปใช้ต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบความเกี่ยวข้องในการร่วมเป็นภาคีตามอนุสัญญา หรือสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองที่ https://apps.dlt.go.th/ltpcenter/ 

หลักฐานที่ต้องใช้ในการขอรับใบขับขี่สากล (กรณีคนไทย) มีดังนี้ 

1.หนังสือเดินทาง (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ

2.บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ 

3.ใบขับขี่ไทย (5ปี,ตลอดชีพ,ขนส่ง) (ฉบับจริง) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ

4.รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ไม่เคลือบมัน (รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) 

หลักฐานที่ต้องใช้ในการขอรับใบขับขี่สากล (กรณีคนต่างชาติ) ได้แก่ 

1.หนังสือเดินทางและวีซ่า (ต้องไม่ใช่เพื่อการท่องเที่ยว เล่นกีฬา หรือเดินทางผ่านเมือง) (ฉบับจริงพร้อมสำเนา)

2.ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ ที่รับรองโดยสถานทูต หรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ฉบับจริง) หรือใบอนุญาตทำงาน 

(Work Permit) หรือใบอนุญาตทำงานอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Work Permit) ที่แสดงรายละเอียด ที่อยู่ และยังไม่สิ้นอายุ หรือหลักฐานที่แสดงว่าเป็นผู้ได้รับการตรวจลงตราพิเศษ (Smart Visa) ที่รับรองโดยสถานทูต หรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือหน่วยงานภาครัฐ หรือองค์กรระหว่างประเทศออกให้ (ฉบับจริงพร้อมสำเนา)

3.ใบขับขี่ไทย (5ปี หรือ ตลอดชีพ) (ฉบับจริงพร้อมสำเนา) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ

4.รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ไม่เคลือบมัน (รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) 

การทำใบขับขี่สากลสามารถมอบอำนาจได้ โดยเตรียมหลักฐานเพิ่มเติมได้แก่ 1.ใบมอบอำนาจ 2.บัตรประชาชน

ผู้รับมอบอำนาจ(ฉบับจริงพร้อมสำเนา) 3.หลักฐานของผู้มอบอำนาจที่จะใช้ในการขอรับใบขับขี่สากล (สำเนาพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง) 

ใบขับขี่สากลตามอนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับ มีค่าธรรมเนียมพร้อมค่าคำขอรวม 505 บาทเท่ากัน 

ทั้งนี้ สามารถยื่นขอทำใบขับขี่สากลได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่ง ทั้งนี้ การนำไปใช้ในต่างประเทศ กรมการขนส่งทางบกแนะนำว่าให้นำใบขับขี่ของประเทศไทยแสดงควบคู่กับใบขับขี่สากลด้วย.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง