กรมโรงงานฯ เข้มนำเข้า-ส่งออก-นำผ่านวัตถุอันตราย

กรุงเทพฯ 17 ก.พ.- กรมโรงงานฯ คุมเข้มนำเข้า-ส่งออก-นำผ่านวัตถุอันตราย หากพบไม่ขออนุญาต สั่งดำเนินคดีทุกราย


นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วานนี้ (16 ก.พ.) กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) พร้อมด้วย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทหาร ตรวจยึดสารเบนซิลไซยาไนด์ จำนวน 120 ถัง น้ำหนักรวม 24,000 กิโลกรัม บรรจุภายในตู้คอนเทนเนอร์ ที่ด่านศุลกากรแม่สอด จังหวัดตาก ก่อนจะถูกส่งข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสารเคมีดังกล่าวเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 จากการตรวจสอบพบว่า สารดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตนำผ่านจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงแจ้งข้อกล่าวหา “นำของเข้าเพื่อการผ่านแดนโดยหลีกเลี่ยงข้อห้ามข้อจำกัด ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560” และ “ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 20/2 วรรคสอง ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 70/2 แห่ง พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม”

นายจุลพงษ์ กล่าวว่า กรอ.ได้ออกประกาศ เรื่อง ระงับการส่งออกและชะลอการนำเข้าวัตถุอันตรายบางรายการไว้ชั่วคราว เพื่อดำเนินการกำหนดแนวทางการควบคุมมิให้มีการนำวัตถุอันตรายไปใช้ในกระบวนการผลิตยาเสพติด เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เพื่อระงับการอนุญาตส่งออกและชะลอการนำเข้าสารโซเดียมไซยาไนด์และสารเบนซิลไซยาไนด์ โดยให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนยืนยันตัวตน ผ่านระบบแจ้งข้อมูลการซื้อ-ขาย วัตถุอันตรายควบคุมพิเศษ และจะพิจารณาอนุญาตให้นำเข้าสารดังกล่าวตามปริมาณการใช้จริงเป็นรายๆ พร้อมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ของผู้นำเข้า-ส่งออกและผู้ซื้อ (End user) สารโซเดียมไซยาไนด์ สารเบนซิลไซยาไนด์ และสารเบนซิลคลอไรด์ เพื่อให้สามารถควบคุมและติดตามการใช้สารดังกล่าว ตั้งแต่การนำเข้าจนถึงผู้ใช้ปลายทาง


อย่างไรก็ตาม กรอ.ได้ออกประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตให้นำเข้าสารโซเดียมไซยาไนด์ สารเบนซิลไซยาไนด์ และสารเบนซิลคลอไรด์ เข้ามาใช้หรือจำหน่ายเพื่อใช้ภายในประเทศ เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2566 จึงขอให้ผู้นำเข้า และผู้ซื้อ (End user) ปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยต้องแจ้งข้อมูลการซื้อ-ขายวัตถุอันตรายควบคุมพิเศษ ผ่านระบบออนไลน์ที่ https://haz7.diw.go.th/h-chem/page.jsp ทุกครั้งที่มีการซื้อ-ขาย และผู้ซื้อ ต้องจัดทำรายงานการใช้สารเป็นประจำทุกเดือน รวมทั้งต้องแจ้งข้อเท็จจริงฯ วอ./อก.7 ผ่านระบบออนไลน์ที่ https://cutly.fun/woaoaoko7.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง