EXIM BANK เปิดตัวโครงการ “EXIM เพื่อคนตัวเล็ก”

กรุงเทพฯ 17 ก.พ.-EXIM BANK ฉลองครบรอบ 29 ปี ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 30 เปิดตัวโครงการ “EXIM เพื่อคนตัวเล็ก” ตอกย้ำบทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนาประเทศไทย” โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเร่งสร้าง SMEs ให้แข็งแกร่ง ขับเคลื่อนภาคการส่งออกและเศรษฐกิจไทย เตรียมวงเงินปล่อยกู้โครงการนี้ไว้ 5,000 ล้านบาท เชื่อปี 67 คนตัวเล็กขยายตลาดอาเซียนนับหมื่นราย


ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบ 29 ปี ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 30 ของการเปิดดำเนินงาน EXIM BANK ได้เปิดโครงการ “EXIM เพื่อคนตัวเล็ก” ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยเหลือและเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้สามารถเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจระหว่างประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน หรือผู้ประกอบการ SMEs ที่ทำธุรกิจเชื่อมโยงกับ Supply Chain การส่งออก โดย SMEs ถือเป็นรากแก้วของประเทศไทยที่มีจำนวนมากถึง 99.6% ของผู้ประกอบการไทยทั้งหมด สร้างการจ้างงานได้มากถึง 12.6 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน 72% ของทั้งระบบ และมีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจไทยอยู่ที่ 35% ของ GDP ดังนั้น EXIM BANK จึงให้ความสำคัญในการดูแลให้รากแก้วของประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยใช้เครื่องมือ “3 เติม” ได้แก่ “เติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงิน” และชูบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ดูแลให้คำปรึกษา บ่มเพาะ สร้างโอกาส และเติมเงินทุนอย่างใกล้ชิดและครบวงจร

ทั้งนี้  EXIM BANK เริ่มต้นจากการให้คำปรึกษาแนะนำ ทั้งทางออนไลน์และการสัญจรลงพื้นที่ แก้ไขปัญหาให้ธุรกิจระดับครัวเรือนและชุมชน หมายรวมถึงการแก้ปัญหาหนี้ภาคธุรกิจ ซึ่งข้อมูล ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2565 พบว่า หนี้ภาคธุรกิจอยู่ในระดับกว่า 13.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งอยู่ที่ 11.4 ล้านล้านบาท โดยวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมาได้ซ้ำเติมภาคธุรกิจยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้ NPLs ของ SMEs ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2565 อยู่ในระดับสูงถึง 6.8% สวนทางกับ NPLs ของธุรกิจขนาดใหญ่ที่เริ่มลดลงมาอยู่ที่ 1.9% สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก SMEs ไทยขายแต่ในประเทศเป็นหลัก ซึ่งเศรษฐกิจไทยมีขนาดเล็ก โตเฉลี่ย 10 ปีเพียง 2.3% หนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ระดับสูงถึง 88.2% ต่อ GDP ยิ่งบั่นทอนกำลังซื้อภายในประเทศขึ้นไปอีก นอกจากนี้ EXIM BANK มีโครงการอบรมบ่มเพาะความรู้และทักษะของผู้ประกอบการ ประกอบกับการพัฒนาช่องทางใหม่ๆ อาทิ แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเป็นช่องทางลัดให้ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพสามารถเข้าสู่การค้าไร้พรมแดนได้โดยเร็ว ตลอดจนเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายและครบวงจร ทั้งสินเชื่อและบริการประกันการส่งออก เพื่อเสริมสภาพคล่องและคุ้มครองความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศให้ธุรกิจ SMEs ไทยเดินต่อไปได้อย่างไม่สะดุด เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน


ดร.รักษ์ กล่าวว่า ภายใต้โครงการ EXIM เพื่อคนตัวเล็ก EXIM BANK จะเร่งเดินหน้าปั้นคนตัวเล็กเป็นผู้ส่งออก อาทิ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ซึ่งผลิตและจำหน่ายสินค้าในประเทศหรือจำหน่ายให้แก่ผู้ส่งออกอยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยเริ่มต้นส่งออกเอง และกลุ่มผู้ส่งออกทางอ้อม (Indirect Exporters) อาทิ พ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากจะสร้างรายได้จากการขายแล้ว ยังเป็นการสร้างพลัง Soft Power ให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักและนิยมในตลาดโลกมากขึ้นด้วย โดยรูปแบบของการให้คำปรึกษาจะมีทั้งทางออนไลน์และลงพื้นที่ในตลาดหรือชุมชน ซึ่งที่ผ่านมาเราได้นำร่องจัด “คลินิก EXIM เพื่อคนตัวเล็ก” ไปแล้ว เพื่อต่อยอดจากมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ที่กระทรวงการคลังร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันการเงินของรัฐ 9 แห่งเพิ่งจัดเสร็จไปทั้งสิ้น 5 ครั้งในช่วงปลายปี 2565-2566 โดยมีเป้าหมายเพื่อตรวจสุขภาพทางการเงินและให้คำปรึกษาด้านการปรับแผนธุรกิจ การบริหารจัดการทางการเงิน การปรับโครงสร้างหนี้และแก้ไขหนี้เสีย และการเติมเงินทุน ในระยะข้างหน้า EXIM BANK มีโครงการจะพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ใหม่ ๆ เพื่อสร้างโอกาสให้คนตัวเล็กเข้าสู่ตลาดโลกได้มากขึ้น รวมทั้งเร่งใช้โมเดล “พี่จูงน้อง” เชื่อมโยง Supply Chain การค้าระหว่างประเทศ

“ปัจจุบันกลุ่มเอสเอ็มอีรายเล็กของไทยมีอยู่ประมาณท3.17 ล้านราย และจำนวนนี้เพียง 1% หรือ 300 รายที่เป็นเอสเอ็มทีที่มีความเข้มแข็ง และที่เหลืออยู่จำนวนไม่น้อยที่มีหนีเสียอยู่มากพอสมควร ดังนั้น จะทำอย่างไรให้กลุ่มนี้กลับมาเข้มแข็งและยืนอยู่ต่อไปได้ จึงได้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีตัวเล็กของไทยกลับมาดำเนินธุรกิจของตนเองได้อีกครั้งหนึ่ง และทาง EXIM BANK และพันธมิตรจึงร่วมกันจัดทำโครงการนี้ขึ้นมา โดยได้เตรียมวงเงินปล่อยกู้แบบไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ต้องมาอยู่ในโครงการนี้ก่อน ซึ่งเตรียมจัดวงเงินกู้ไว้ 5,000 ล้านบาท แต่ละรายสามารถขอสินเชื่อตั้งแต่ 2 แสนบาทถึง 2 ล้านบาทคิดดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 6 และหากประกอบธุรกิจดีสามารถขยายวงเงินกู้ได้ โดยEXIM BANK มีเป้าหมายกลุ่มเอสเอ็มอีตัวเล็กจะเข้มแข็งขึ้นในปี 67 มากกว่า 40,000 ราย และจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดย EXIM BANK ยังจะเป็นพี่เลี้ยงที่จะนำพาเอสเอ็มอีกลุ่มนี้ไปเจาะตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดอาเซียนและตลาดอื่นๆได้เพิ่มเติมอีกด้วย” ดร.รักษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาสั่งแบนหนัง-ละครไทย

พนมเปญ 13 มิ.ย. – เว็บไวต์ขแมร์ไทม์ส ของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา เรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชายกเลิกการออกอากาศละครไทย เลิกฉายหนังไทย และอาจจะยกเลิกการนำเข้าสินค้าจากไทยด้วยเพื่อรักษาอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศในยามที่เผชิญแรงกดดัน กระทรวงข่าวสารกัมพูชาได้ออกหนังสือถึงเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งแจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทุกสถานีของกัมพูชาต้องงดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภทเพื่อความเหมาะสมของสถานการณ์และรักษาความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้กระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชายังออกประกาศแจ้งเตือนให้ระงับการฉายและห้ามนำเข้าภาพยนตร์ไทยทุกประเภทในกัมพูชาตั้งแต่ 12 นาฬิกาวันนี้เป็นต้นไป.-816.-สำนักข่าวไทย

 อิสราเอลระบุเปิดฉากโจมตีอิหร่าน

เยรูซาเล็ม 13 มิ.ย. – กองกำลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อขัดขวางมิให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ สื่อของอิหร่านและผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดหลายครั้งที่โรงงานเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม อิสราเอลเรียกปฏิบัติการโจมตีนี้ว่า “สิงห์ผงาด” (Rising Lion) โดยระบุว่าการโจมตียังพุ่งเป้าไปที่บรรดาผู้บัญชาการของอิหร่านและโรงงานผลิตขีปนาวุธ พร้อมกันนั้น อิสราเอลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมือกับการโจมตีตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและโดรนจากเตหะราน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้กล่าวผ่านข้อความวิดีโอที่บันทึกไว้ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ชี้ขาดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล นายเนทันยาฮูเขากล่าวด้วยว่า อิสราเอลเล็งเป้าโจมตีไปที่นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โครงการขีปนาวุธนำวิถี และโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่เมืองนาทานซ์ (Natanz) ในปฏิบัติการที่จะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน เจ้าหน้าที่กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลกำลังโจมตีเป้าหมายทางนิวเคลียร์และทางทหาร ‘หลายสิบแห่ง’ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอิหร่านมีวัสดุเพียงพอที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 15 ลูกภายในไม่กี่วัน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า อิสราเอลได้ดำเนินการฝ่ายเดียวเนื่องจากเชื่อว่าปฏิบัติการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการป้องกันตนเอง พร้อมกับย้ำว่า สหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฎิบัติการครั้งนี้ของอิสราเอล ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากข่าวนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

“ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา

ศาลฎีกาฯ 13 มิ.ย.-“ทักษิณ” ไม่มาศาลฎีกา​ “ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี​ เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประมาณ 8.30 น. พร้อมทีมทนาย 4-5 คน โดยไม่ปรากฏนายทักษิณ เดินทางมาศาลแต่อย่างใด นายวิญญัติ เปิดเผยถึงกรณีศาลฯได้นัดไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ได้รับการเข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ วันนี้ว่า​ เป็นการนัดของศาลฎีกาฯ เพื่อจะดำเนินการกระบวนการไต่สวน​ ซึ่งต้องรอดู ตนในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของนายทักษิณ​ มาทำหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นว่า กระบวนการพิจารณาคดีจากนี้ไป จะกำหนดหรือวางแนวทางอย่างไร ยังไม่สามารถตอบได้ ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ ขอให้สัมภาษณ​์หลังจากที่เสร็จกระบวนการก่อน เนื่องจากว่ายังไม่ทราบ ว่าจะมีกระบวนการอย่างไรบ้าง ทั้งนี้การเป็นทนายความมาพอจะคาดเดาได้ ส่วนในคดีนี้มีโอกาสที่นายทักษิณจะมาหรือไม่​ นายวิญญัติ​ กล่าวว่ายังตอบไม่ได้ และการพิจารณาวันนี้ไม่น่านาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ ต้องดูว่า เราจะทำคำชี้แจงอย่างไร และหน่วยงานต่างๆ บุคคลที่ได้รับหมายได้ยื่นคำชี้แจงมาหรือไม่ ต้องมาดูว่ามีใครยื่นมาบ้าง หลังจากนั้นศาลจะให้โอกาสทุกฝ่าย ในการชี้แจง.-319​.-สำนักข่าวไทย

เครื่องบินตกอินเดีย

นายกฯ แสดงความเสียใจเครื่องบินตกที่อินเดีย

กทม. 13 มิ.ย.-นายกฯ แสดงความเสียใจโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเมื่อคืนที่ผ่านมา แสดงความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด ในนามของประชาชนและรัฐบาลไทย ขอแสดงความเสียใจไปยังท่านนายกรัฐมนตรีโมที @NarendraModi และผู้ที่ประสบความสูญเสียจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ I am deeply saddened by the tragic plane crash in Ahmedabad earlier today. On behalf of the people and Government of Thailand, I extend our heartfelt condolences to PM @NarendraModi and all those who suffered loss in this tragedy.-314.-สำนักข่าวไทย