ธอส. จัดประกวดแบบบ้านประหยัดพลังงาน

กรุงเทพฯ 15 ก.พ.-ธอส.จัด “ประกวดแบบบ้านประหยัดพลังงาน” ภายใต้โครงการบ้านอยู่เย็น เป็นสุข เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป หรือคณะบุคคลที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปนิกทั่วประเทศ ร่วมส่งผลงานการออกแบบบ้านมุ่งเน้นความคิดสร้างสรรค์ด้านการออกแบบที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและประหยัดพลังงาน ชิงทุนการศึกษาและเงินรางวัลมูลค่ารวมมากกว่า 1 ล้านบาท 


นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานการตลาด ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่มีพันธกิจ ทำให้คนไทยมีบ้าน ขอเชิญชวนนิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป หรือคณะบุคคลที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปนิกทั่วประเทศ ที่สนใจส่งผลงานเข้า “ประกวดแบบบ้านประหยัดพลังงาน” ภายใต้โครงการบ้านอยู่เย็น เป็นสุข ซึ่ง ธอส. ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนวิสัยทัศน์ของธนาคาร “ธนาคารที่ดีที่สุด สำหรับการมีบ้าน” ที่มุ่งสู่การเป็นธนาคารที่มีความยั่งยืนในระยะยาว 

ทั้งนี้ มุ่งมั่นส่งเสริมให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสังคมด้วยการมอบผลิตภัณฑ์ บริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของลูกค้าประชาชน  โดยเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในสายวิชาสถาปัตยกรรม และบุคคล คณะบุคคลที่ประกอบอาชีพสถาปนิก ที่มีใบประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมทั่วประเทศ ได้สร้างสรรค์ผลงานแบบบ้านประหยัดพลังงานและใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่ทุกคนเข้าถึงได้ รวมถึงสอดคล้องกับพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัยของประชาชนและครอบครัวคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ด้วยการใช้วัสดุก่อสร้างที่ประหยัดพลังงาน 


ประชาชนทั่วไปยังสามารถดาวน์โหลดแบบบ้านที่ได้รับการคัดเลือกจากการประกวดในครั้งนี้ได้ฟรี!! เพื่อนำไปใช้ในการปลูกสร้างและยื่นคำขอสินเชื่อกับธนาคารได้อีกด้วย สำหรับผลงานที่ส่งเข้าประกวด จะได้รับการตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสภาวิศวกร สภาสถาปนิก สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ สถาบันอาคารเขียวไทย และผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม  สำหรับการประกวดจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.ประเภทนิสิต นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในสายวิชาสถาปัตยกรรม (แบบเดี่ยว หรือแบบกลุ่มไม่เกิน 3 คน) : สามารถส่งผลงานการออกแบบบ้านประหยัดพลังงานขนาดเล็ก พื้นที่ใช้สอยไม่เกิน 150 ตารางเมตร งบประมาณการก่อสร้างไม่เกิน 3 ล้านบาท และ 2.ประเภทบุคคล คณะบุคคลที่ประกอบอาชีพสถาปนิก ที่มีใบประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมทั่วประเทศ (แบบเดี่ยว หรือแบบกลุ่มไม่เกิน 3 คน) : ส่งผลงานออกแบบบ้านประหยัดพลังงานขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอย 150 ตารางเมตรขึ้นไป งบประมาณการก่อสร้างไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยมีเงินรางวัลรวม 1,040,000 บาท แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

1.นิสิต นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในสายวิชาสถาปัตยกรรม 

– รางวัลที่ 1 จำนวน 1 รางวัล   ได้รับเงินรางวัล 150,000 บาท   พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ


– รางวัล ที่ 2  จำนวน 1 รางวัล  ได้รับเงินรางวัล  100,000  บาท    พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ

– รางวัล ที่ 3  จำนวน 1 รางวัล   ได้รับเงินรางวัล    50,000 บาท     พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ

– รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล  ได้รับเงินรางวัล  20,000 บาท    พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ

2.กลุ่มบุคคล คณะบุคคลที่มีใบประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม

– รางวัลที่ 1 จำนวน 1 รางวัล  ได้รับเงินรางวัล  300,000 บาท  พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ

– รางวัล ที่ 2  จำนวน 1 รางวัล  ได้รับเงินรางวัล     200,000 บาท   พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ

– รางวัล ที่ 3  จำนวน 1 รางวัล  ได้รับเงินรางวัล     100,000 บาท   พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ

– รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล  ได้รับเงินรางวัล    50,000 บาท  พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ

ภายในงานธนาคารยังได้จัดเสวนาในหัวข้อ “ทิศทางการสร้างที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานในประเทศไทย”  โดย นายสมศักย์ ปรางทอง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารด้านการใช้ไฟฟ้าและกิจการเพื่อสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยนายกิตติพงษ์ วีระโพธิ์ประสิทธิ์ อุปนายกสภาวิศวกร นายคมสัน สกุลอำนวยพงศา นายทะเบียนสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ศ.ดร.กิจชัย จิตขจรวานิช กรรมการสถาบันอาคารเขียวไทย ผศ.ศุภวัฒน์ หิรัญธนวิวัฒน์อาจารย์และสถาปนิก นายณัฏฐ์ กิจจริต สถาปนิกและนักแสดง เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานในประเทศไทยให้แก่ผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้าประกวดอีกด้วย

สำหรับผลงานที่ชนะการประกวดจะถูกนำไปเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ธนาคาร ให้ประชาชนทั่วไปที่ต้องการสร้างบ้านสามารถดาวน์โหลดแบบบ้านประหยัดพลังงาน ฟรี!!!! เพื่อช่วยให้ลูกค้าธนาคารประหยัดค่าใช้จ่ายในการออกแบบบ้านและยังได้

แบบบ้านที่มีคุณภาพตามหลักสถาปัตยกรรม อีกทั้งธนาคารยังได้ช่วยส่งเสริมให้ลูกค้าใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้วัสดุก่อสร้างที่ประหยัดพลังงาน โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดหลักเกณฑ์และการส่งผลงานเข้าประกวดได้ที่ Facebook “โครงการประกวดแบบบ้านประหยัดพลังงาน บ้านอยู่เย็นเป็นสุข ธนาคารอาคารสงเคราะห์” หรือ ส่งผลงานเข้าประกวดได้ทาง  https://forms.gle/tLtf4fSzqK26aUpKA ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2566 โดยธนาคารจะประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบ 10 ทีม ในวันที่ 7 เมษายน 2566 นำเสนอผลงานรอบสุดท้ายและประกาศผลการตัดสินในวันที่ 12 พฤษภาคม 2566  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคาร ได้ที่ Mobile Application : GHB ALL, GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]