นนทบุรี 13 ก.พ.-ปลัดพาณิชย์เอาจริงดึงทุกส่วนงานลงพื้นที่ตรวจสอบนอมินีหลายชาติที่ลงทุนธุรกิจในไทยกระทำผิดกฎหมายไทยหรือไม่ เพื่อไม่ให้ไทยเป็นพื้นที่สีเทา พร้อมให้หลายธุรกิจกว่า 400 ราย มาชี้แจงทั้งข้อมูลและเอกชน ย้ำกระทรวงพาณิชย์ติดตามตลอด หากจะให้หมดไปต้องได้รับความร่วมมือคนในพื้นที่แจ้งเบาะแส เพื่อตรวจสอบเชิงลึกได้
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ต่อแนวทางการตรวจสอบนอมินีคนต่างชาติ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ไม่ใช่เฉพาะชาวจีนที่เข้ามาลงทุนธุรกิจในประเทศไทย โดยในช่วงที่ผ่านมา กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างจริงจัง ซึ่งกรมฯ จะเน้นดูการจดทะเบียนนิติบุคลของบุคคลต่างด้าว หลังเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจีนและประเทศต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหานอมินี โดยเฉพาะย่านท่องเที่ยว เช่น เยาวราช ห้วยขวาง ที่มีการลงทุนธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ร้านอาหาร อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
ทั้งนี้ ทางกรมฯ จะดูว่าการเข้ามาทำธุรกิจของนิติบุคคลที่เป็นคนต่างด้าว มีบริษัทใดที่เข้าข่ายถือหุ้นแทนคนต่างด้าวหรือนอมินี แม้การตรวจสอบจะเป็นเรื่องลำบาก เนื่องจากช่วงที่เข้ามาทำธุรกิจถูกต้อง เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย แต่การบริหารจริงมักจะเป็นบุคคลที่ลงทุนเป็นคนบริหาร ดังนั้น หากจะให้ได้ผลต้องอาศัยการแจ้งเบาะแสผู้เกี่ยวข้อง หรือคนในพื้นที่ เพื่อให้กรมฯ ตรวจสอบจากฐานข้อมูลการถือหุ้นของคนไทยและต่างด้าวได้อย่างเต็มที่ และจากข้อมูลพบว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่มอาศัยวีซ่านักท่องท่องเที่ยวเข้ามาทำธุรกิจ ส่วนใหญ่ด้านท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ร้านอาหาร สปา รถทัวร์ โรงแรม ร้านค้า อสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม หากพบพฤติกรรมที่อาจจะเข้าข่ายเป็นความผิดนอมินี ทางกรมฯ จะส่งข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษสืบสวนสอบสวน หรือหากพบว่ามีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการกระทำความผิดทางอาญา ตามกฎหมายประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จะดำเนินการตามกฎหมายด้วยเช่นกัน ซึ่งในแต่ละปีงบประมาณพบข้อมูลสงสัยและเชิญบริษัทต่างชาติเข้ามาชี้แจงต่อกรมฯ ปีละไม่ต่ำกว่า 400-500 ราย ตั้งแต่ปี 2558-2565 กรมฯ ได้ดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับนอมินีแล้ว จำนวน 66 ราย ซึ่งได้ส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายไปแล้ว หากดูตั้งแต่เดือนมีนาคม 2543 – ธันวาคม 2565 มีการออกใบอนุญาตและหนังสือรับรองให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจ 13,915 ราย โดยเป็นการออกใบอนุญาต 6,279 ราย ออกหนังสือสนธิสัญญา 2048 ราย ออกหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจตามที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน 5,588 ราย ขณะเดียวกัน คนต่างด้าวที่ได้รับใบอนุญาตและหนังสือรับรองมีการแจ้งเลิกประกอบธุรกิจและถูกเพิกถอนใบอนุญาต 3,509 ราย คงอยู่ 10,406 ราย เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย