KKP Research ชี้การขยายตลาดรถ EV ในไทยยังยากเหตุราคาสูง

กรุงเทพฯ 9 ก.พ.-KKP Research ชี้ในช่วงปีที่ผ่านมาเป็นปีทองของรถยนต์ไฟฟ้าไทย มีทั้งการเข้ามาตั้งโรงงานของค่ายรถไฟฟ้าจีนตามมาตรการสนับสนุนของรัฐ ขณะที่ค่ายใหญ่ Tesla เปิดตลาดในไทย ช่วยเพิ่มการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทยและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ EV ในไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่ในระยะยาวการขยายตลาดรถยนต์ EV มายังตลาดรถยนต์ใหญ่ของไทยยังทำได้ยากเนื่องจากราคารถยนต์ EV ที่ยังสูง


KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร วิเคราะห์ว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาเป็นปีทองของรถยนต์ไฟฟ้าไทย ไม่ว่าจะเป็น การเข้ามาตั้งโรงงานของค่ายรถไฟฟ้าจีนตามมาตรการสนับสนุนของรัฐ หรือข่าวใหญ่ปลายปีเมื่อ Tesla ตัดสินใจเปิดตลาดในไทย อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างสำคัญ คือ กลยุทธ์ในการบุกตลาดไทยของค่ายจีน และ Tesla คือ บริษัท EV จีนมีการตัดสินใจเปิดโรงงานและตั้งฐานการผลิตในไทย ในขณะที่ค่ายรถยนต์ระดับโลกอย่าง Tesla เลือกนำเข้ารถยนต์จากจีนมาขายในไทยและยังไม่มีการพิจารณาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในไทย

การเปลี่ยนแปลงของตลาดยานยนต์ที่เห็นภาพชัดเจนขึ้นเป็นสัญญาณสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย KKP Research ประเมินว่า ถึงแม้แนวโน้มการลงทุนทางตรงเพื่อผลิตรถยนต์ EV ของบริษัทจีนจะปรับตัวดีขึ้นในปีที่ผ่านมา แต่ผลบวกต่อเศรษฐกิจจะมีไม่มากจากยอดการลงทุนที่มีขนาดเล็ก และมูลค่าเพิ่มในการผลิตรถยนต์ EV ในประเทศไทยที่ลดลง อย่างไรก็ตาม การเข้ามาของค่ายรถยนต์ EV ใหม่ๆ ทั้ง Tesla และค่ายจีนยังสามารถช่วยเพิ่มการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทยและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ EV ในไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง  แต่คำถามที่สำคัญกว่า คือ ในช่วงหลังจากนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญจะยังคงรักษาสถานะผู้นำในภูมิภาคต่อไปได้หรือไม่ การเข้ามาของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะกระทบกับตลาดรถยนต์เดิมอย่างไร และไทยมีความสามารถอะไรที่จะดึงดูดการลงทุนเพื่อผลิต EV ในเวลาที่อุตสาหกรรมนี้กลายเป็นเป้าหมายที่ภาครัฐทั่วโลกต้องการผลักดันเพื่อเป็นผู้นำ


KKP Research ยังประเมินว่า ไทยกำลังน่าสนใจน้อยลงในฐานะฐานการผลิตรถยนต์ EV เมื่อมองจากมุมของ Tesla ที่เป็นผู้เล่นสำคัญของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโลก จาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1) ไทยมีตลาดที่ค่อนข้างเล็กจากกำลังซื้อภายในประเทศที่มีจำกัด โดยราคา Tesla ในปัจจุบันสามารถเจาะตลาดไทยได้เพียง 30,000 คันต่อปี หรือคิดเป็น 4.5% ของตลาดรถยนต์ไทย 2) การนำเข้าจากโรงงานจีนมีต้นทุนที่ถูกกว่าเพราะไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าและโอกาสถึงจุดคุ้มทุนจากการตั้งโรงงานผลิตขายในตลาดไทยมีน้อย 3) การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างการผลิตโลก โดยมีความพยายามของนโยบายรัฐในประเทศพัฒนาแล้วในการดึงการสร้างฐานการผลิตกลับไปยังประเทศต้นทางมากขึ้น (Reshoring) ทำให้ความจำเป็นในการพึ่งพาตลาดเกิดใหม่มีน้อยลง

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าไทยหมดโอกาสเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพราะประเด็นการตัดสินใจตั้งฐานการผลิตของค่ายรถยนต์จีนในไทยแตกต่างจาก Tesla และทำให้ไทยมีโอกาสดึงดูดค่ายจีนบางกลุ่มได้ เนื่องจากค่ายรถยนต์จีนมีสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยมากกว่า ตัวอย่างเช่น ราคาที่ถูกกว่า Tesla จนมีฐานผู้บริโภคให้ทำตลาดที่กว้างกว่า ทำให้การตั้งโรงงานมีโอกาสถึงจุดคุ้มทุนเร็วกว่า และเป็นการกระจายความเสี่ยงจากประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐที่อาจจะทำให้การขยายธุรกิจไปยังอเมริกาและยุโรปยังมีอุปสรรคในอนาคต

การเข้ามาลงทุนทางตรงการเข้ามาของโรงงานจีนในช่วงที่ผ่านมาในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้ายังสร้างผลบวกต่อเศรษฐกิจได้น้อยจาก 2 ประเด็นสำคัญ คือ 1.ขนาดการลงทุนยานยนต์ EV จากจีนยังมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ และยังน้อยกว่าการลงทุนทางตรงจากญี่ปุ่นเพื่อตั้งฐานการผลิตรถยนต์ในอดีต 2.มูลค่าเพิ่มที่ไทยสร้างได้จากการผลิตรถยนต์ EV มีน้อยลง และจำเป็นต้องนำเข้าชิ้นส่วนมากขึ้น อาจทำให้มูลค่าเพิ่มที่ไทยเคยสร้างได้ในประเทศหายไปมากกว่าครึ่ง ในขณะที่การเข้ามาของทำธุรกิจขายรถยนต์ของ Tesla แม้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่มีตัวเลือกหลากหลายขึ้น แต่ไม่ได้มีผลบวกต่อเศรษฐกิจมากนัก และสร้างความท้าทายมากขึ้นในระยะยาวต่อค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นที่มีฐานการผลิตอยู่ในไทย 


“ในภาพรวมแม้ว่าการเข้ามาของโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนจะเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่งใหม่ๆ อย่างอินโดนีเซีย ขนาดการลงทุนจากจีนมาไทยยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ โดยขนาดการลงทุนจากบริษัทจีนในอินโดนีเซียอย่าง CATL ที่เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่อันดับหนึ่งของโลกเพียงบริษัทเดียวมีมูลค่าการลงทุนมากกว่าครึ่งของมูลค่าการลงทุนในอุตสาหกรรม EV ทั้งหมดของไทย และมูลค่าการลงทุนในอุตสาหกรรม EV ในอินโดนีเซียในช่วงที่ผ่านมามากกว่าไทยถึง 2 เท่า สะท้อนว่าไทยกำลังจะเจอการแข่งขันที่มากขึ้น และการดึงดูดให้เกิดการลงทุนในไทยจะเป็นโจทย์ที่มีความท้าทายอย่างมาก”

ส่วนการเข้ามาของ Tesla สร้างแรงกระเพื่อมกับตลาดรถยนต์ไทย แม้จะยังไม่สามารถจับตลาดยานยนต์ทั่วไปของไทยได้ แต่ก็สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อตลาดรถยนต์ในบางกลุ่ม โดยกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบทันทีในระยะสั้น คือตลาดรถหรู และตลาดรถหรูมือสอง และในระยะยาวค่ายรถจีนและญี่ปุ่นจะได้รับแรงกดดันมากขึ้น ดังนี้

1. ตลาดรถหรู กลุ่มผู้ใช้รถหรูมีแนวโน้มเปลี่ยนมาใช้ EV เร็วกว่ากลุ่มผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปถึง 5 เท่าจากการเพิ่มขึ้นของตัวเลือกรถยนต์ในตลาดที่มีระดับราคาใกล้เคียงกับผู้ใช้กลุ่มนี้ และ Tesla ที่เข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของตลาดไทยจะเป็นคู่แข่งสำคัญของค่ายรถหรู จากราคาที่ใกล้เคียงกันและเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่มีความทันสมัยกว่า 

2.ตลาดรถหรูมือสอง มูลค่าการขายต่อรถหรูมีแนวโน้มลดลงจากระดับราคาซื้อ-ขายที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ใหม่ Tesla ซึ่งเริ่มเห็นผลกระทบบ้างแล้วในช่วงที่ผ่านมา

3.รถไฟฟ้าจากค่ายจีน Tesla มีข้อได้เปรียบแบรนด์จีนด้านภาพลักษณ์ที่โดดเด่นกว่าและได้รับความไว้วางใจมากกว่า ซึ่งมีแนวโน้มกดดันให้ราคา EV จีนลดลงได้ 

4.ค่ายรถญี่ปุ่น การขยับตัวที่ช้าของค่ายญี่ปุ่นเปิดโอกาสให้ค่ายรถ EV อย่าง Tesla ขยายตลาดได้ง่ายขึ้น และมีความเสี่ยงเสียส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นจากระดับราคารถยนต์ Hybrid และ BEV ที่ใกล้เคียงกับ Tesla 

ตลาด EV ในไทยมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมาจากมาตรการภาครัฐที่สนับสนุนผ่านส่วนลดภาษีและเงินอุดหนุน และเติบโตได้เร็วกว่าหลายประเทศในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวการขยายตลาดรถยนต์ EV มายังตลาดรถยนต์ใหญ่ของไทยยังทำได้ยากเนื่องจากราคารถยนต์ EV ที่ยังสูง อีกทั้งปัจจัยด้านอุปทานยังเป็นปัจจัยที่กำหนดความเร็วของตลาด EV ไม่ว่าจะเป็นสถานีอัดประจุรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังไม่ครอบคลุม ภาวะขาดแคลนแผงวงจรไฟฟ้าทั่วโลกที่ทำให้ส่งมอบ EV ได้ช้า และที่สำคัญที่สุด คือการขาดแคลนสินแร่ที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ EV

ในระยะต่อไป ประเด็นที่ต้องติดตามสำหรับยานยนต์ไทย คือ 1) สงครามราคาที่กดดันให้ราคา EV ถูกลงอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่เร่งให้ตลาดไทยเปลี่ยนมาใช้ EV ได้เร็วขึ้น 2) การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง 3) นโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่อาจส่งผลต่อความสามารถในการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรม EV ไทย -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน “ทักษิณ” ออกนอกเส้นทางไปไหน ?

4 ก.ย. – ไปไหน? เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” เลี้ยวออกนอกเส้นทาง หลังบินออกจากดอนเมือง ระบุปลายทางสิงคโปร์ พบบินวนอยู่ 2 รอบ ก่อนไปต่อ จับตามุ่งหน้า “ดูไบ” ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่. – สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกไหว้พ่อแม่ก่อนโหวตนายกฯ

รัฐสภา 4 ก.ย.- “อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกยังไม่มี เผยตั้งใจไหว้พ่อ-แม่ เป็นสิริมงคลก่อนโหวตนายกฯ คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางกลับเข้ามาที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง ช่วงเย็นวันนี้ (4 ก.ย.) โดยผู้สื่อข่าวพยามสอบถามถึงโผ “ครม.อนุทิน 1” ว่า มีการจัดเตรียมให้ใครนั่งตำแหน่งใดและนายอนุทิน จะควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ร้องหูย ก่อนจะบอกว่ายังไม่มี ข่าวก็ลงไปเรื่อย ยังไม่ได้จัดอะไร ขนาดหัวหน้ายังไม่ได้เลย ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรุ่งนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก่อนจะเข้าอาคารรัฐสภา จะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเพื่อความเป็นสิริมงคลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไหว้พ่อไหว้แม่นี่แหละ เป็นสิริมงคลที่สุดแล้ว -สำนักข่าวไทย

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่นไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป กลับมา […]