เอาจริงลักลอบพืช 3 หัวส่งฟันแล้ว 15 รายใช้“อมก๋อยโมเดล”ดึงราคา

นนทบุรี 7 ก.พ.-อธิบดีกรมการค้าภายในเอาจริงผู้ลักลอบนำเข้าพืช 3 หัว ย้ำ 2 ปีส่งดำเนินคดีไปแล้ว 15 ราย เตือนอย่าได้ลักลอบนำเข้าเด็ดขาด พร้อมใช้“อมก๋อยโมเดล”เข้ารับซื้อพืช 3 หัว ดันราคาให้สูงขึ้น ส่วนราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคส่วนใหญ่ทรงตัวและมีราคาเริ่มลดลง เช่น เนื้อหมูลดลง 2-4 % ไก่สดลดลง 3-4 % พร้อมขอบคุณผู้ผลิตสินค้าที่ช่วยตรึงสินค้าไว้ให้ได้นานสุดแม้ว่าต้นทุนยังอยู่ในระดับสูง


นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในช่วงปี 64-65 ที่ผ่านมาการกำกับดูแลการขนย้ายและการนำเข้าพืช 3 หัว เช่น หอมหัวใหญ่ หอมแดง กระเทียม เพื่อไม่ให้นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามากดราคาในประเทศ โดยกรมฯร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสกัดจับผู้ลักลอบนำเข้าพืช 3 หัวมาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ซึ่งสามารถจับกุมรวม 15 ราย คิดเป็นปริมาณกว่า 384,000 ตัน หรือมีมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท รวมไปถึงยังสกัดการนำเข้ามะพร้าวอีก 5 ราย ได้ส่งผู้กระทำความผิดทำเนินคดีทางกฎหมายแล้วเช่นกัน โดยในส่วนมะพร้าว กรมฯได้ประกาศไปแล้ว ผู้ที่ต้องการขนย้ายมะพร้าวจะต้องทำเรื่องขออนุญาติก่อน และในปีนี้ กรมการค้าภายในยังจะเข้าไปดำเนินการรับซื้อพืช 3 หัว จากกลุ่มเกษตรกรเป็นการล่วงหน้าตั้งแต่ต้นฤดูกาลผลิต เพื่อเป็นหลักประกันให้กับพี่น้องเกษตรกรว่าจะมีตลาดรองรับผลผลิต สามารถขายสินค้าเกษตรได้ในเกณฑ์ดีตลอดฤดูกาล รวมทั้งเตรียมมาตรการต่างๆ รองรับและให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 

ทั้งนี้ มาตรการเชิงรุกในปี 65 ที่กรมฯ ได้ดำเนินการเชื่อมโยงผู้ประกอบการรับซื้อผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกร ภายใต้มาตรการ “อมก๋อยโมเดล” ในปริมาณรวม 9,000 ตัน ประกอบด้วย หอมหัวใหญ่ 3,400 ตัน กระเทียม 5,400 หอมแดง 200 ตัน สามารถช่วยดึงราคาของพืช 3 หัว ให้อยู่ในราคาที่สูง โดยราคาปี 65 หอมหัวใหญ่ อยู่ที่ 12 บ./กก. สูงกว่าปี 64 ที่ 8.66 บ./กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 หอมแดง อยู่ที่ 9.50 บ./กก. สูงกว่าปี 64 ที่ 9 บ./กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และกระเทียม อยู่ที่ 14 บ./กก. สูงกว่าปี 64 11.54 บ./กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 


ในปี 66 นี้ คาดการณ์ว่าปริมาณผลผลิตในภาพรวมมีปริมาณรวม 257,135 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 65 ประมาณร้อยละ 10 แบ่งเป็น หอมหัวใหญ่ 36,479 ตัน หอมแดง 155,765 ตัน และกระเทียม 64,891 ตัน ซึ่งหอมหัวใหญ่และกระเทียมจะออกสู่ตลาดช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน กรมฯ ได้ขับเคลื่อนมาตรการ “อมก๋อยโมเดล” รับซื้อผลผลิตในราคานำตลาดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นฤดูกาลผลิต โดยผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรเครือข่ายภาคเอกชน 16 ราย ประกอบด้วย ผู้รวบรวม ผู้ส่งออก ตลาดกลาง อาทิ ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดศรีเมือง และตลาดล้านเมือง ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง อาทิ แม็คโคร โลตัส บิ๊กซี เดอะมอลล์ และท็อปส์ สถานีให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิง อาทิ พีที PTT Station บางจาก และเชลล์ เข้ารับซื้อผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกร โดยได้จัดให้มีพิธีลงนามสัญญาข้อตกลงมาตรฐาน และบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การรับซื้อพืช 3 หัว (หอมหัวใหญ่ หอมแดง กระเทียม) เพื่อเป็นกลไกในการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าตลอดฤดูกาล ภายใต้โครงการ “ขับเคลื่อนการบริหารจัดการพืช 3 หัว อมก๋อยโมเดล@เชียงใหม่” รับซื้อผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกร จำนวน 23 กลุ่ม 4 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน และศรีสะเกษ ปริมาณรับซื้อรวม 22,800 ตัน หอมหัวใหญ่ 7,300 ตัน หอมแดง 7,500 ตัน กระเทียม 8,000 ตัน รวมมูลค่ากว่า 350 ล้านบาท 

รวมทั้งมีการ Kick off ปล่อยคาราวานหอมหัวใหญ่ ณ สหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่บ้านกาดพัฒนา จำกัด อ.แม่วางจ.เชียงใหม่ เพื่อส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อปลายทางในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมีความต้องการหอมหัวใหญ่ในปริมาณที่สูง ปัจจุบันเป็นช่วงต้นฤดูการผลิตราคาซื้อขายพืช 3 หัว ในตลาดอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าปีที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก โดยราคาแบบสดหอมหัวใหญ่ ปีนี้อยู่ที่ 16 บ./กก. สูงกว่าปีที่แล้วที่ 12 บ./กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 หอมแดง ปีนี้อยู่ที่ 12 บ./กก. สูงกว่าปีที่แล้วที่ 9.50 บ./กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 และกระเทียม ปีนี้อยู่ที่ 16 บ./กก. สูงกว่าปีที่แล้วที่ 14 บ./กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ14 โดยกรมฯยังได้เตรียมมาตรการบริหารจัดการต่างๆ รองรับผลผลิตควบคู่กับมาตรการดูดซับผลผลิตพืช 3 หัวออกจากแหล่งผลิต อาทิ โครงการบริหารจัดการตลาดพืชหัว การสนับสนุนค่าบริหารจัดการคุณภาพและเชื่อมโยงกระจายผลผลิต การสนับสนุนค่าบริหารจัดการซื้อและรวบรวม การแปรรูปผลผลิตพืช 3 หัว เพื่อกระจายเข้าสู่ร้านอาหารและร้านค้าธงฟ้า 

นอกจากนี้ ในภาพรวมราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคนั้น โดยรวมถือว่ามีหลายรายการสินค้าลดลงและทรงตัวเป็นส่วนใหญ่ เช่น เรื้อหมูลดลง 2-4 % เฉลี่ยอยู่ที่ 149-168 บาทต่อกิโลกรัมไก่สดลดลง 3-4% หรือเฉลี่ย 54-75 บาทต่อตัว ชิ้นสวนไก่น่องติดสะโพก ราคาเฉลี่อยู่ที่กิโลกรัมละ 73 บาท /น่องติดสะโพกกิโลกรัมละ 76 บาท ขณะที่ไข่ไก่คละทั่วประเทศเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40-3.90 บาทต่อฟอง ราคาน้ำมันปาล์มขวดเฉลี่ยอยู่ที่ 45-47 บาท แม้ราคาส่วนใหญ่เริ่มลดลง แต่ต้นทุนที่ผู้ผลิตรับอยู่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูง ดังนั้นกรมฯขอขอบคุณผู้ผลิตทุกรายที่ยังแบกรับต้นทุนเพื่อช่วยเหลือลดค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคมาได้ต่อเนื่อง แม้จะมีบางรายการสินค้าที่ต้องการปรับราคาขึ้น แต่กรมฯยังขอความร่วมมือที่จะช่วยให้ระดับราคาสินค้าไม่ให้สูงมากเกินไป


ส่วนราคาสินค้าประเภทข้าวบรรจุถุง อาจปรับราคาเพิ่มขึ้นไปบ้าง ถือเป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากขณะนี้ ราคาข้าวเปลือกโดยรวมสูงขึ้น เช่น ข้าวเปลือกเจ้าเฉลี่ย 9,500-10,200 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเหนียว 11,500-12,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกหอมมะลิเฉลี่ยอยู่ที่ 11,500 บาทต่อตัน ถือว่าเป็นช่วงที่เกษตรกรส่วนใหญ่ได้รับราคาข้าวเปลือกที่ดีและสูงขึ้น แม้จะส่งผลให้ราคาข้าวบรรจุถุงเพิ่มขึ้นไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่ราคายังอยู่ในเพดานที่กรมฯติดตามดูแลอยู่ ดังนั้น หากประชาชนพบเห็นราคาสินค้าที่ไม่เป็นธรรมและไม่มีการติดป้ายแสดงราคาสินค้าที่ชัดเจนร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ได้ทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]

คุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

สระแก้ว 26 ส.ค.- ฝ่ายความมั่นคงคุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานประกาศปิด 2 วัน (26-27 ส.ค.) เพื่อความปลอดภัย สถานการณ์บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนกัมพูชา และเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดเมื่อวานนี้ ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานได้ประกาศปิดเรียน 2 วัน ในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ เพื่อความปลอดภัย ด้านฝ่ายความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและปฏิบัติการตามขั้นตอน เพื่อยืนยันการรักษาอธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของประชาชน ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุในช่วงนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชายังคงมีชาวบ้านนอนเฝ้าอยู่บริเวณรั้วตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่มีการก่อความวุ่นวายใดๆ