นนทบุรี 7 ก.พ.-อธิบดีกรมการค้าภายในเอาจริงผู้ลักลอบนำเข้าพืช 3 หัว ย้ำ 2 ปีส่งดำเนินคดีไปแล้ว 15 ราย เตือนอย่าได้ลักลอบนำเข้าเด็ดขาด พร้อมใช้“อมก๋อยโมเดล”เข้ารับซื้อพืช 3 หัว ดันราคาให้สูงขึ้น ส่วนราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคส่วนใหญ่ทรงตัวและมีราคาเริ่มลดลง เช่น เนื้อหมูลดลง 2-4 % ไก่สดลดลง 3-4 % พร้อมขอบคุณผู้ผลิตสินค้าที่ช่วยตรึงสินค้าไว้ให้ได้นานสุดแม้ว่าต้นทุนยังอยู่ในระดับสูง
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในช่วงปี 64-65 ที่ผ่านมาการกำกับดูแลการขนย้ายและการนำเข้าพืช 3 หัว เช่น หอมหัวใหญ่ หอมแดง กระเทียม เพื่อไม่ให้นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามากดราคาในประเทศ โดยกรมฯร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสกัดจับผู้ลักลอบนำเข้าพืช 3 หัวมาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ซึ่งสามารถจับกุมรวม 15 ราย คิดเป็นปริมาณกว่า 384,000 ตัน หรือมีมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท รวมไปถึงยังสกัดการนำเข้ามะพร้าวอีก 5 ราย ได้ส่งผู้กระทำความผิดทำเนินคดีทางกฎหมายแล้วเช่นกัน โดยในส่วนมะพร้าว กรมฯได้ประกาศไปแล้ว ผู้ที่ต้องการขนย้ายมะพร้าวจะต้องทำเรื่องขออนุญาติก่อน และในปีนี้ กรมการค้าภายในยังจะเข้าไปดำเนินการรับซื้อพืช 3 หัว จากกลุ่มเกษตรกรเป็นการล่วงหน้าตั้งแต่ต้นฤดูกาลผลิต เพื่อเป็นหลักประกันให้กับพี่น้องเกษตรกรว่าจะมีตลาดรองรับผลผลิต สามารถขายสินค้าเกษตรได้ในเกณฑ์ดีตลอดฤดูกาล รวมทั้งเตรียมมาตรการต่างๆ รองรับและให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ มาตรการเชิงรุกในปี 65 ที่กรมฯ ได้ดำเนินการเชื่อมโยงผู้ประกอบการรับซื้อผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกร ภายใต้มาตรการ “อมก๋อยโมเดล” ในปริมาณรวม 9,000 ตัน ประกอบด้วย หอมหัวใหญ่ 3,400 ตัน กระเทียม 5,400 หอมแดง 200 ตัน สามารถช่วยดึงราคาของพืช 3 หัว ให้อยู่ในราคาที่สูง โดยราคาปี 65 หอมหัวใหญ่ อยู่ที่ 12 บ./กก. สูงกว่าปี 64 ที่ 8.66 บ./กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 หอมแดง อยู่ที่ 9.50 บ./กก. สูงกว่าปี 64 ที่ 9 บ./กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และกระเทียม อยู่ที่ 14 บ./กก. สูงกว่าปี 64 11.54 บ./กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 21
ในปี 66 นี้ คาดการณ์ว่าปริมาณผลผลิตในภาพรวมมีปริมาณรวม 257,135 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 65 ประมาณร้อยละ 10 แบ่งเป็น หอมหัวใหญ่ 36,479 ตัน หอมแดง 155,765 ตัน และกระเทียม 64,891 ตัน ซึ่งหอมหัวใหญ่และกระเทียมจะออกสู่ตลาดช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน กรมฯ ได้ขับเคลื่อนมาตรการ “อมก๋อยโมเดล” รับซื้อผลผลิตในราคานำตลาดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นฤดูกาลผลิต โดยผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรเครือข่ายภาคเอกชน 16 ราย ประกอบด้วย ผู้รวบรวม ผู้ส่งออก ตลาดกลาง อาทิ ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดศรีเมือง และตลาดล้านเมือง ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง อาทิ แม็คโคร โลตัส บิ๊กซี เดอะมอลล์ และท็อปส์ สถานีให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิง อาทิ พีที PTT Station บางจาก และเชลล์ เข้ารับซื้อผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกร โดยได้จัดให้มีพิธีลงนามสัญญาข้อตกลงมาตรฐาน และบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การรับซื้อพืช 3 หัว (หอมหัวใหญ่ หอมแดง กระเทียม) เพื่อเป็นกลไกในการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าตลอดฤดูกาล ภายใต้โครงการ “ขับเคลื่อนการบริหารจัดการพืช 3 หัว อมก๋อยโมเดล@เชียงใหม่” รับซื้อผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกร จำนวน 23 กลุ่ม 4 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน และศรีสะเกษ ปริมาณรับซื้อรวม 22,800 ตัน หอมหัวใหญ่ 7,300 ตัน หอมแดง 7,500 ตัน กระเทียม 8,000 ตัน รวมมูลค่ากว่า 350 ล้านบาท
รวมทั้งมีการ Kick off ปล่อยคาราวานหอมหัวใหญ่ ณ สหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่บ้านกาดพัฒนา จำกัด อ.แม่วางจ.เชียงใหม่ เพื่อส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อปลายทางในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมีความต้องการหอมหัวใหญ่ในปริมาณที่สูง ปัจจุบันเป็นช่วงต้นฤดูการผลิตราคาซื้อขายพืช 3 หัว ในตลาดอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าปีที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก โดยราคาแบบสดหอมหัวใหญ่ ปีนี้อยู่ที่ 16 บ./กก. สูงกว่าปีที่แล้วที่ 12 บ./กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 หอมแดง ปีนี้อยู่ที่ 12 บ./กก. สูงกว่าปีที่แล้วที่ 9.50 บ./กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 และกระเทียม ปีนี้อยู่ที่ 16 บ./กก. สูงกว่าปีที่แล้วที่ 14 บ./กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ14 โดยกรมฯยังได้เตรียมมาตรการบริหารจัดการต่างๆ รองรับผลผลิตควบคู่กับมาตรการดูดซับผลผลิตพืช 3 หัวออกจากแหล่งผลิต อาทิ โครงการบริหารจัดการตลาดพืชหัว การสนับสนุนค่าบริหารจัดการคุณภาพและเชื่อมโยงกระจายผลผลิต การสนับสนุนค่าบริหารจัดการซื้อและรวบรวม การแปรรูปผลผลิตพืช 3 หัว เพื่อกระจายเข้าสู่ร้านอาหารและร้านค้าธงฟ้า
นอกจากนี้ ในภาพรวมราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคนั้น โดยรวมถือว่ามีหลายรายการสินค้าลดลงและทรงตัวเป็นส่วนใหญ่ เช่น เรื้อหมูลดลง 2-4 % เฉลี่ยอยู่ที่ 149-168 บาทต่อกิโลกรัมไก่สดลดลง 3-4% หรือเฉลี่ย 54-75 บาทต่อตัว ชิ้นสวนไก่น่องติดสะโพก ราคาเฉลี่อยู่ที่กิโลกรัมละ 73 บาท /น่องติดสะโพกกิโลกรัมละ 76 บาท ขณะที่ไข่ไก่คละทั่วประเทศเฉลี่ยอยู่ที่ 3.40-3.90 บาทต่อฟอง ราคาน้ำมันปาล์มขวดเฉลี่ยอยู่ที่ 45-47 บาท แม้ราคาส่วนใหญ่เริ่มลดลง แต่ต้นทุนที่ผู้ผลิตรับอยู่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูง ดังนั้นกรมฯขอขอบคุณผู้ผลิตทุกรายที่ยังแบกรับต้นทุนเพื่อช่วยเหลือลดค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคมาได้ต่อเนื่อง แม้จะมีบางรายการสินค้าที่ต้องการปรับราคาขึ้น แต่กรมฯยังขอความร่วมมือที่จะช่วยให้ระดับราคาสินค้าไม่ให้สูงมากเกินไป
ส่วนราคาสินค้าประเภทข้าวบรรจุถุง อาจปรับราคาเพิ่มขึ้นไปบ้าง ถือเป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากขณะนี้ ราคาข้าวเปลือกโดยรวมสูงขึ้น เช่น ข้าวเปลือกเจ้าเฉลี่ย 9,500-10,200 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเหนียว 11,500-12,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกหอมมะลิเฉลี่ยอยู่ที่ 11,500 บาทต่อตัน ถือว่าเป็นช่วงที่เกษตรกรส่วนใหญ่ได้รับราคาข้าวเปลือกที่ดีและสูงขึ้น แม้จะส่งผลให้ราคาข้าวบรรจุถุงเพิ่มขึ้นไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่ราคายังอยู่ในเพดานที่กรมฯติดตามดูแลอยู่ ดังนั้น หากประชาชนพบเห็นราคาสินค้าที่ไม่เป็นธรรมและไม่มีการติดป้ายแสดงราคาสินค้าที่ชัดเจนร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ได้ทันที.-สำนักข่าวไทย