fbpx

ขนส่งฯ ตรวจวัดควันดำทั่วประเทศลด PM2.5

กรุงเทพฯ 3 ก.พ. – กรมการขนส่งทางบก เดินหน้าแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จัดชุดออกตรวจควันดำทั่วประเทศ ตามเกณฑ์ใหม่ พร้อมสั่งพักใช้รถไปแล้วเกือบ 800 คัน แนะเจ้าของรถตรวจเช็กและซ่อมเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ


นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ขณะนี้ ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เป็นปัญหาสำคัญที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่และส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยของประชาชน ซึ่งหนึ่งในสาเหตุสำคัญมาจากควันดำของท่อไอเสียรถยนต์ การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งมีสาเหตุหลายประการ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพต่ำ กรองอากาศอุดตัน ทำให้อากาศเข้าไม่เพียงพอ ปรับแต่งปั๊มหัวฉีดไม่เหมาะสม หัวฉีดปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงชำรุด ทำให้การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงไม่เป็นฝอยละเอียด การออกแบบห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และการบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำให้รถยนต์แต่ละคันอาจมีควันดำออกมามาก ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกในฐานะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการดำเนินการตามมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยจัดผู้ตรวจการออกตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียของรถบรรทุกและรถโดยสาร ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงการตรวจวัดควันดำบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ

ขณะเดียวกันกรมการขนส่งทางบกยังดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกและกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ให้สอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำและวิธีการตรวจวัดที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนด โดยการปรับปรุงมาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำมีสาระสำคัญดังนี้ กรณีการตรวจวัดควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำระบบวัดความทึบแสง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 (เดิม ร้อยละ 45) และหากตรวจวัดควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำระบบกระดาษกรอง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 40 (เดิม ร้อยละ 50) ซึ่งเกณฑ์การตรวจควันดำใหม่ ได้มีผลบังคับใช้กับการตรวจวัดควันดำรถที่มาดำเนินการตรวจสภาพรถก่อนจดทะเบียน หรือตรวจสภาพรถก่อนชำระภาษีประจำปีที่สำนักงานขนส่ง และสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ทุกแห่งแล้ว


รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า กรมการขนส่งทางบกติดตามการปฏิบัติหน้าที่และการบังคับใช้กฎหมายของผู้ตรวจการในการออกตรวจวัดควันดำอย่างต่อเนื่อง พร้อมเก็บผลการตรวจสอบวัดควันดำในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 65 – 31 ม.ค. 66 กองตรวจการขนส่งทางบกได้ตรวจรถบรรทุกและรถโดยสารทั้งหมด จำนวน 40,861 คัน ทั้งนี้มีรถบรรทุกและรถโดยสารที่มีค่าควันดำที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดและถูกสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” จำนวน 171 คัน โดยผลการตรวจสอบวัดควันดำทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 65 – 31 ม.ค. 66  สำนักงานขนส่งแต่ละจังหวัดได้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจควันดำ โดยได้มีการตรวจรถบรรทุกและรถโดยสาร จำนวน 84,076 คัน ซึ่งมีรถบรรทุกและรถโดยสารที่มีค่าควันดำที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดและถูกสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” จำนวน 611 คัน

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกแนะให้เจ้าของรถตรวจเช็กและซ่อมเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ โดยวิธีแก้ไขรถที่ปล่อยควันดำเบื้องต้น 1.ให้ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนกรองอากาศใหม่ 2.เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามระยะเวลา 3.เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา 4.ปรับตั้งปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งจังหวะการฉีดเชื้อเพลิงให้ถูกต้อง 5.ตรวจเช็กและปรับตั้งหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นละออง และมีแรงดัน เป็นต้น เตือนหากตรวจวัดควันดำด้วยระบบวัดความทึบแสง แล้วมีค่าควันดำเกินร้อยละ 30 หรือตรวจวัดควันดำด้วยระบบกระดาษกรอง แล้วมีค่าควันดำ เกินร้อยละ 40 จะถูกเปรียบเทียบปรับสูงสุด 5,000 บาท และสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” จนกว่าเจ้าของรถจะนำรถไปแก้ไขสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดำเกินกำหนด และนำมาตรวจสภาพอีกครั้งจนผ่านการตรวจวัดจึงจะนำไปใช้งานได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Made in Thailand แดนไทยเท่ : เสน่ห์ผ้าทอชาวเขา สู่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเชียงใหม่

ผ้าทอชาวเขาและเครื่องแต่งกายชนเผ่าต่างๆ ของไทยที่มีลวดลายสวยงามแปลกตาไม่เหมือนใคร ทำให้ดีไซเนอร์ชาวเชียงใหม่ นำมาออกแบบตัดเย็บ กลายเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่ทันสมัย

ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้องกรณีนักศึกษาไม่ได้รับเงิน

กรุงเทพฯ 3 พ.ค.-ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้อง กรณีนักศึกษา ไม่ได้รับเงิน ยืนยันโอนเงินให้เแล้ว 

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลจัดงานสโมสรสันนิบาต เฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในวันฉัตรมงคล

รัฐบาลจัดงานสโมสรสันนิบาต เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2567

ผู้บริหาร-พนักงาน กฟน. ร่วมพิธีรดน้ำศพ “นายกำธร” ยืนยันไม่ทอดทิ้ง

ผู้บริหารและพนักงาน กฟน. ร่วมพิธีรดน้ำศพ “นายกำธร” เสียชีวิตจากการเดินข้ามถนนตกท่อร้อยสายไฟฟ้า บริเวณเกาะกลางถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 49 พร้อมมอบเงินสด 50,000 บาท น้องชายผู้เสียชีวิต ผู้ว่าการ กฟน. เผยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ยืนยัน กฟน. ไม่ทอดทิ้ง

เหล่าทัพพร้อมใจยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในพระราชพิธีฉัตรมงคล

กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีฉัตรมงคล

เพลิงไหม้โกดังโรงงานกระดาษรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร

เพลิงไหม้โกดังโรงงานกระดาษใน ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ไฟโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงในตัวอาคาร ขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ เสียหายแล้วประมาณ 10 ไร่