นนทบุรี 2 ก.พ. – รองอธิบดีกรมการค้าภายในจัดสายตรวจเฉพาะกิจและบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ตรวจเข้มการขนย้ายกระเทียมและหอมหัวใหญ่ ก่อนช่วงผลผลิตออกสู่ตลาด ไม่ให้มีการลักลอบขนย้าย เพื่อป้องกันมิให้ส่งผลต่อราคาสินค้าเกษตรในประเทศ
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยหลังจากตรวจเยี่ยมการขนย้ายสินค้าเกษตร ณ ท่าเรือแหลมฉบัง ว่า กรมฯจะเข้มตรวจขนย้ายสินค้าเกษตร โดยเฉพาะกระเทียมและหอมหัวใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศซึ่งขณะนี้เป็นช่วงที่ผลผลิตหอมหัวใหญ่และกระเทียมของไทยเริ่มออกสู่ตลาด เพื่อรักษาเสถียรภาพระบบตลาดสินค้าเกษตรภายในประเทศให้เกิดความเป็นธรรมและยกระดับรายได้ให้เกษตรกร จึงได้ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจกรมการค้าภายใน สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานชั่งตวงวัด ตำรวจทางหลวง ขนส่งทางบก กรมศุลกากรและการท่าเรือ ตรวจสอบการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรหรือการขนย้ายที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเข้มงวด และสุ่มตรวจสินค้าหลายช่องทาง เพื่อป้องกันมิให้ส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตของเกษตรกรและทำให้ผลผลิตราคาตกต่ำ
ทั้งนี้ มุ่งเน้นพื้นที่ต้นทางการขนย้าย อาทิ ท่าเรือแหลมฉบัง เขตผ่านแดนประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นจุดผ่านขนย้ายสินค้าเกษตรและตรวจสอบปลายทางการขนย้ายในแหล่งการค้าที่สำคัญ ขณะนี้ กรมฯ ยังได้บูรณาการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้ากับศุลกากรแบบเรียลไทม์ เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลตรวจสอบควบคุมปริมาณการขนย้ายสินค้าเกษตรให้ถูกต้องตามปริมาณการนำเข้าของกรมศุลกากร ป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรระหว่างหน่วยงานภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ หากมีการขนย้ายสินค้าเกษตรต้องได้รับอนุญาตก่อนทำการขนย้าย ฝ่าฝืนต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 และหากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการเอาเปรียบเกษตรกร สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย