ครม.อนุมัติ 3,946 ล้านบาท เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5

ทำเนียบฯ 24 ม.ค. – ครม.อนุมัติ 3,946 ล้านบาท กระตุ้นท่องเที่ยว และ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” เริ่ม ก.พ.-ก.ย.66 จำนวน 560,000 สิทธิ


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี อนุมัติ 3,946 ล้านบาท เพื่อใช้ใน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 วงเงินรวม 2,016 ล้านบาท และโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ วงเงิน 1,930 ล้านบาท ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ รวมทั้งภาคแรงงาน อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกว่า 11 ล้านคน คาดว่า “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” ก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 12,539 ล้านบาท

1. โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 มีแนวทางดำเนินการ (1) การลงทะเบียนใช้สิทธิเข้าโรงแรมที่พัก จำนวนห้องพัก 560,000 สิทธิ/ห้อง รัฐสนับสนุนร้อยละ 40 แต่ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน สูงสุด 5 ห้อง (2) คูปองอาหาร/ท่องเที่ยว (e-voucher) 600 บาท/วัน (3) พื้นที่ดำเนินการ : ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย (4) ระยะเวลาดำเนินการ : เดือนกุมภาพันธ์-กันยายน 2566 (5) ผู้รับประโยชน์จากโครงการ : ประชาชนไทยที่เข้าร่วมโครงการและใช้สิทธิ และผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยวที่เข้าร่วม

สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการฯ มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com พร้อมติดตั้งแอปฯ เป๋าตัง โดยต้องจองห้องพักล่วงหน้าก่อนเดินทาง 7 วัน ทั้งนี้ ผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ จำนวน 5 สิทธิ สำหรับประชาชนที่เคยใช้สิทธิแล้ว สามารถกดให้ความยินยอม consent ในระบบได้เลย โดย 5 สิทธิดังกล่าว ไม่นับรวมสิทธิที่ใช้แล้วในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคล เช่นเดียวกับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายและการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งเป็นการบรรเทาภาระของประชาชน


โครงการดังกล่าวยังป้องกันการทุจริต โดยธนาคารกรุงไทย จัดให้มีระบบแสดงจำนวนห้องพักของแต่ละโรงแรม/ที่พัก หากมีการจองเกินจำนวนห้องที่แจ้งไว้ ระบบจะสามารถจำกัดการจองได้ โดยมอบให้ ททท. สำนักงานสาขาในประเทศ เป็นผู้ดำเนินการ และเพื่อป้องกันการขึ้นราคาห้องพักเกินจริง จึงให้ระบุในแบบฟอร์มยินยอม (consent) ให้ชัดเจน หากโรงแรมที่พักเจตนาขึ้นราคาห้องพักเกินจริง สามารถเอาผิดเรียกเงินคืน และระงับการจ่ายได้ อีกทั้งต้องได้รับโทษถึงการตัดสิทธิในการเข้าร่วมทุกโครงการของรัฐบาล รวมทั้งใช้ระบบสแกนใบหน้าของผู้ใช้สิทธิเช็กอินเข้าพัก และการใช้ e-voucher เพื่อป้องกันการใช้บัตรประชาชนผู้อื่นสวมสิทธิ

2. โครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ประกอบด้วย (1) การกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย โดยเน้นการนำเสนอ Soft Power ผ่าน Digital Market และกิจกรรมทางการตลาด (2) กระตุ้นท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ (ไทยเที่ยวไทย) ให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวบ่อยครั้งขึ้น (3) การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ภายใต้แคมเปญ Amazing Thailand, Amazing New Chapters (4) การยกระดับคุณภาพสินค้าเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว

ทั้งสองมาตรการใช้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ระยะเวลาดำเนินการในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-กันยายน 2566 หวังสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 2.38 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทศกาลสงกรานต์ และวันหยุดต่อเนื่องจากนักขัตฤกษ์ในเดือนพฤษภาคม มิถุนายน และสิงหาคม ช่วยกระตุ้นรายได้ให้กับประเทศ ทำให้ระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อเนื่อง. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปมเหตุเผาพ่อค้าแตงโมเสียชีวิต กลางลานจอดรถ

เผยปมเหตุเผาพ่อค้าขายแตงโมกลางลานจอดรถวัดดังย่านยานนาวา ล่าสุดลูกสาวโพสต์เศร้า หลังพ่อเสียชีวิต พบประวัติผู้ก่อเหตุเพิ่งพ้นโทษคดีพยายามฆ่าเมื่อ 4 ปีก่อน

ระงับทุนการศึกษาเมียนมา

VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : “ทรัมป์” ระงับทุนการศึกษา นศ.เมียนมา

นักเรียนทุนเมียนมาตกใจเมื่อพบว่าทุนการศึกษาของพวกเขาถูกยกเลิกไปกะทันหัน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งระงับงบประมาณ 45 ล้านดอลลาร์ที่ให้กับนักศึกษาเมียนมากว่า 400 ชีวิต ภายใต้องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐ หรือ USAID คุณคมสัน ศรีธนวิบุญชัย ผู้สื่อข่าววีโอเอไทย ส่งรายงานมาจากสหรัฐ

ฆ่ายัดกระเป๋า

พบเบาะแสคนร้าย คดีฆ่าสาวยัดกระเป๋าถ่วงน้ำ

พบเบาะแสคดีฆ่าสาวปริศนา ยัดกระเป๋าถ่วงน้ำ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยเห็นรถต้องสงสัยบริเวณจุดทิ้งศพ เชื่อวนกลับมาดูว่าศพลอยน้ำหรือไม่

สาดน้ำร้อน

คุมตัว “พีม-โอชิ” มือสาดน้ำซุปรังสิต ดำเนินคดีเพิ่ม

ตำรวจ คุมตัว “พีม-โอชิ” มือสาดน้ำซุปรังสิต มาโรงพัก แม่ผู้เสียหายร้องไห้ถาม “ทำแบบนี้กับลูกของแม่ทำไม สำนึกผิดบ้างไหม”

ข่าวแนะนำ

ยุทธการอรัญฯ 68 SEAL BORDER

วันนี้ตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ กสทช. ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เปิดยุทธการอรัญฯ 68 SEAL BORDER สกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบฯ รับ “นาโอมิ แคมป์เบลล์”

นายกฯ เปิดทำเนียบฯ รับ “นาโอมิ แคมป์เบลล์” นางแบบดังระดับโลก บอกดีใจที่ได้เจอ ก่อนหารือ อุตสาหกรรมแฟชั่น หวังต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ ด้าน “นาโอมิ” บอกตื่นเต้นที่จะได้ช่วยงาน ชมนายกฯ ชอบแฟชั่นที่แตกต่าง เป็นเรื่องที่ดี

Myawaddy City Fuel Shortage, Cars Have to Travel to Mae Sot to Buy

เปิดภาพรถข้ามมาเติมน้ำมันที่แม่สอด จนติดยาวเหยียด

เมียวดี 10 ก.พ.- สื่ออิสระของเมียนมาโพสต์ภาพยวดยานจำนวนมากในเมืองเมียวดี พากันข้ามพรมแดนมายังอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของไทยในเช้าวันนี้ เพื่อเติมน้ำมัน จนรถติดขัดยาวเหยียด เฟซบุ๊กของสำนักข่าวท่าขี้เหล็ก (Tachileik News Agency) ซึ่งเป็นสื่ออิสระที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ของสหรัฐรายงานบรรยากาศในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมาในเช้าวันนี้ว่า หลังจากทางการไทยจำกัดการส่งกระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังพื้นที่พรมแดน 5 จุดในเมียนมาตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ โดยมุ่งเน้นเป้าหมายในเมียวดีและกวาดล้างแก๊งอาชญากรชาวจีน ขณะนี้ประชาชนบริเวณพรมแดนในฝั่งเมียนมากำลังประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ยวดยานจำนวนมากต้องเดินทางข้ามพรมแดนไปเติมน้ำมันที่ฝั่งไทย ชาวเมียวดีคนหนึ่งเผยว่า สามารถขับรถข้ามไปเติมน้ำมันในฝั่งไทยได้ แต่ห้ามเติมเป็นถังแกลลอน ที่ผ่านมารถในเมียวดีขับไปเติมน้ำมันที่ไทยอยู่เป็นปกติ แต่ขณะนี้มีรถจำนวนมากขึ้น และเข้าออกบ่อยครั้งขึ้น สิ่งที่ชาวเมียวดีต้องการคือน้ำมัน เมื่อเติมเสร็จก็ข้ามกลับ ชณะที่ชาวเมียวดีอีกคนคิดว่า ในอนาคตไทยอาจจะจำกัดจำนวนครั้งที่อนุญาตให้รถแต่ละคันข้ามไปเติมน้ำมัน สำนักข่าวท่าขี้เหล็กรายงานด้วยว่า รัฐมนตรีกลาโหมของไทยกล่าวกับสื่อเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ว่า ไทยจะห้ามการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปเมียวดี ท่าขี้เหล็ก และพญาตองซู เป็นเวลา 6 เดือน.-814.-สำนักข่าวไทย