กรุงเทพฯ 24 ม.ค.-สรุปผลตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ มูลค่า 33 ล้านบาท ชี้วัสดุมีคุณภาพได้มาตรฐาน แต่สามารถปรับลด-ใช้อักษรเดิมได้บางส่วน ส่วนวิธีจัดซื้อจัดจ้างเฉพาะ แม้ทำตามกรอบกฎหมาย แต่ควรประกาศเชิญชวนทั่วไปให้เกิดการแข่งขัน เตรียมเสนอบอร์ดการรถไฟพิจารณายกเลิกหรือเดินหน้าโครงการต่อ
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้าง”โครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย” มูลค่า 33 ล้านบาท แถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ตั้งขึ้นหลังถูกหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม โดยสรุปว่า ในส่วนขอบเขตงานซึ่งการรถไฟประเทศไทย (รฟท.) ได้ชี้แจงด้วยวาจาและเอกสาร อ้างอิงแบบโครงสร้างรายละเอียดเทคนิควิธีการและวัสดุจากงานที่กำหนดไว้เดิม ปรากฏว่าไม่พบการดำเนินการที่เชื่อได้ว่า รฟท. ดำเนินการนอกเหนือจากขอบเขตงานแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นไปตามรายละเอียดของงานติดตั้งป้ายเดิมที่มีการตรวจสอบและรับรองทางวิศวกรรมรวมทั้งมีการติดตั้งไปแล้ว มีความปลอดภัยและแข็งแรงตามมาตรฐาน เป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาชีพ ที่สามารถตรวจสอบได้
คณะกรรมการฯ มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเสนอให้ รฟท. อาจทบทวนโครงการ เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพและประหยัดงบประมาณได้มากที่สุด เช่น การทบทวนรายละเอียดในส่วนของวัสดุ เทคนิค ที่อาจเปลี่ยนแปลงจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ที่ทำให้การออกแบบเลือกใช้วัสดุและวิธีการจัดทำมีประสิทธิภาพสูงกว่า หรือมีต้นทุนที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ ป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ พร้อมทบทวนค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน โดยรฟท.อาจพิจารณาความเป็นไปได้ในการใช้ตัวอักษรเดิม คำว่า “สถานีกลาง” มาติดตั้งและปรับปรุงแทนที่จะทำขึ้นใหม่ทั้งหมดเนื่องจากอักษรเดิมยังอยู่ในสภาพดี และอาจบทวนค่างานออกแบบที่สามารถกำหนดอัตราส่วนของราคางานได้ต่ำกว่างานปกติเนื่องจากเป็นงานออกแบบที่ทำไว้เดิมหรือ ทบทวนงานเผื่อเลือกที่อาจสามารถปรับลดได้เช่นความจำเป็นที่จะต้องใช้วัสดุมาปิดทดแทนกระจกในขณะที่มีการเลือกรื้อถอน
ส่วนความถูกต้องในการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงนั้น คณะกรรมการตรวจสอบฯ เห็นว่ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง แม้จะมีการชี้แจงว่าเป็นการจัดซื้อจัดจ้างตามพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ปี2560 แต่สมควรมีการหารือผู้เชี่ยวชาญด้านพัสดุของกรมบัญชีกลางให้ชัดเจน นอกจากนี้ยังควรทบทวนวิธีการจัดซื้อจัดจ้างให้เหมาะสมรอบคอบโดยอาจพิจารณาแนวทางจัดซื้อจัดจ้างตามหลักกฎหมายที่เห็นควรให้ใช้วิธีการพิจารณาเลือกประกาศเชิญชวนทั่วไปเป็นลำดับแรกก่อนเพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเปิดกว้าง และจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นถึงความโปร่งใสเป็นธรรมและเป็นที่ยอมรับของประชาชน
ขณะเดียวกันเห็นควรให้รฟท.พิจารณาทบทวนการตรวจสอบกระบวนการสืบราคาให้เกิดความชัดเจนครบถ้วนและดำเนินการให้สอดคล้องกับคู่มือแนวทางการประกาศรายละเอียดข้อมูลราคากลางและการคำนวณราคากลางเกี่ยวกับการขอจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐตามหนังสือของกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุดลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 ตามขั้นตอน
รองปลัดกระทรวงคมนาคมยังย้ำด้วยว่า คณะกรรมการตรวจสอบ ดำเนินการตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย หลังจากนี้จะเสนอความเห็นให้ บอร์ดการรถไฟฯ พิจารณาว่าจะดำเนินโครงการการต่อหรือยกเลิก เนื่องจากเป็นโครงการที่มีการทำสัญญากับเอกชน ซึ่งทุกขั้นตอนจะต้องดำเนินการไปตามกรอบของกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย