รฟท.พร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสารขบวนรถไฟทางไกล 52 ขบวน

กรุงเทพฯ 19 ม.ค.-รฟท. พร้อมอำนวยความสะดวกและบริการผู้โดยสารขบวนรถไฟทางไกล 52 ขบวน วันนี้ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง มาที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์


การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมแล้ว สำหรับอำนวยความสะดวกและบริการผู้โดยสารขบวนรถไฟทางไกล 52 ขบวนโดยขบวนรถไฟทางไกลทั้ง 52 ขบวนจะเป็นกลุ่มขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว ที่จะเปลี่ยนสถานีต้นทาง ปลายทาง มาที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ นั้น ประกอบด้วย  สายเหนือ  14 ขบวน /สายตะวันออกเฉียงเหนือ 18 ขบวน /และ สายใต้ 20 ขบวน ส่วนขบวนรถธรรมดายังใช้สถานีต้นทาง-ปลายทางที่หัวลำโพงเช่นเดิม

ขณะที่ ขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์ ในเวลา 13.19 น. เป็นขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศ KIHA  เพื่อการท่องเที่ยวต้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ปลายทางสถานีอยุธยา ซึ่งวันนี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะเดินทางมาขึ้นขบวนรถไฟเที่ยวนี้ด้วย และมีข้อย้ำเตือนกันอีกสักนิด  สำหรับขบวนรถไฟทางไกลทั้ง 52 ขบวน ที่มีการปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทางในวันนี้หากเป็นรถออกจากต้นทางต่างจังหวัด และขบวนที่มี สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ก่อนเวลา 13:00 น. จะยังใช้สถานีต้นทางและปลายทางที่หัวลำโพงเช่นเดิม และตั้งแต่หลังเวลา13:00 น. เป็นต้นไปจะเปลี่ยนมาใช้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์


ขณะที่ 4.จุดรอรถเมล์ ประตู10 มาถึงแล้วไม่ต้องกังวล สำหรับประชาชนที่จะเดินทางต่อไปยังจุดต่างๆ เพราะทาง การรถไฟ ประสาน ขสมก เดินรถ Shuttle Bus และรถเฉพาะกิจ ให้บริการฟรี 2 เส้นทาง จาก “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์- สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)” จำนวน 6 คัน และยังจัดเดินรถเฉพาะกิจให้บริการฟรี เส้นทางปกติ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในการเดินทางเชื่อมต่อระหว่าง สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สถานีรถไฟสามเสน สถานีรถไฟโรงพยาบาลรามาธิบดี สถานีรถไฟยมราช และ (หัวลำโพง) มีทั้งรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู จำนวน 10 คัน เฉพะวันนี้ตั้งแต่เวลา 12.00 – 23.00 น. ส่วนวันต่อๆไป  จัดเดินรถโดยสาร ตั้งแต่เวลา 04.30 – 23.00 น. โดยมีความถี่ในการปล่อยรถ ทุก ๆ 15 นาที

ทั้งนี้ ทางเข้าประตู 4 ของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งผู้โดยสารที่จะใช้บริการรถไฟทางไกล จะต้องเข้ามาที่ประตูนี้หลายคนมาแล้ว แล้วจะเข้ามาเจอกับจุดจำหน่ายตั๋วโดยสาร ที่มีมากกว่า 20 ช่อง เมื่อซื้อตั๋วแล้วก็เดินเข้าไปด้านในซึ่งจะมีจุดพักคอยให้ผู้โดยสารนั่งพักตากแอร์รออยู่ที่ชั้นนี้ โดยก่อนถึงเวลาขบวนออกประมาณ 20 นาทีก็จะเปิดให้ขึ้นไปรอข้างบนรถไฟที่ชานชาลา ซึ่งอยู่บริเวณชั้นสามของสถานี โดยส่วนใครเข้ามา กลัวจะไปไม่ถูกก ไม่ต้องกังวลเพราะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายเดินรถ ของการรถไฟฯ และฝ่ายประชาสัมพันธ์ สังเกตุเสื้อสีแดงๆ จะมาคอยช่วยให้แนะนำการเดินทาง

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังเตรียมพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ทั้งรถเข็นสัมภาระ เก้าอี้วีลแชร์ ป้ายบอกทาง ลานจอดรถ เพื่อรองรับการใช้บริการที่สะดวกสบาย ปลอดภัย คลอบคลุมสำหรับผู้ใช้บริการทุกเพศ ทุกวัย  ส่วนผู้โดยสารขาเข้า ลงจากชานชาลาแล้วจะออกไปต่อรถ ใช้ประตู 10 ของสถานี  โดยการรถไฟ ประสาน ขสมก จัดเดินรถ Shuttle Bus และรถเฉพาะกิจ ให้บริการฟรี 2 เส้นทาง โดยจัด shuttle bus 6 คัน วิ่งตรงจาก “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – หัวลำโพง” /ส่วนรถเฉพาะกิจ อีก 10 คัน ให้บริการฟรี เส้นทางปกติ เชื่อมต่อ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สถานีรถไฟสามเสน สถานีรถไฟโรงพยาบาลรามาธิบดี สถานีรถไฟยมราช และ (หัวลำโพง) มีทั้งรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู เฉพาะวันนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 – 23.00 น. ส่วนตั้งแต่วันพรุ่งนี้   จัดเดินรถโดยสาร ตั้งแต่เวลา 04.30 – 23.00 น. ปล่อยรถ ทุก ๆ 15 นาที


อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ย้ำความจำเป็นในการย้ายรถไฟทางไกล เพื่อแก้ปัญหาการจราจรพื้นที่ชั้นในของ กรุงเทพฯลดปัญหาจราจรติดขัดและอุบัติเหตุจุดตัดทางรถไฟรถยนต์ เพราะรถไฟทุกขบวน จะวิ่งบนโครงสร้างทางยกระดับ เช่นเดียวกับรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ – รังสิต ตั้งแต่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จนถึงสถานีดอนเมือง จะไม่มีขบวนรถโดยสารวิ่งระดับพื้นดิน ทำให้ขบวนรถไฟสามารถเดินตรงตามเวลาได้มากขึ้น

ทั้งนี้ ขบวนรถเที่ยวปฐมฤกษ์ 13.19 น เป็นขบวนรถนำเที่ยว ปลายทาง สถานีอยุธยา ส่วนขบวนรถโดยสารเที่ยวแรก คือ ขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพ – สุไหงโกลก เวลา ประชาชนบางส่วนมารอขึ้นรถไฟกันแล้ว บอกว่าสถานีกลางกรุงเทพวิวัฒน์ เมื่อเทียบกับสถานีหัวลำโพง มีความสะดวกสบาย กว้างขวาง ไม่แออัด

นายศักดิ์สยามกล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการขบวนรถไฟทางไกล และปล่อยขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์ เส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – ที่หยุดรถมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) ว่า  ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.66 เป็นต้นไป รฟท. จะย้ายการให้บริการขบวนรถไฟทางไกลทั้ง สายเหนือ สายอีสาน แบะ สายใต้ รวมกว่า 52 ขบวนมาเปิดให้บริการ ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ทั้งนี้การย้ายดังกล่าวเนื่องจากรัฐบาลได้สร้างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ขึ้น ใช้งบประมาณกว่า 30,000 ล้านบาท ดังนั้นเพื่อใช้ให้ประสิทธิภาพ จึงมีนโยบายที่จะพัฒนาและเพิ่มขึดความสามารถ รวมถึงเพื่อลดภาระความแออัดการให้บริการของสถานีกรุงเทพหรือหัวลำโพง และลดปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานครบริเวณจุดตัดทางรถไฟ รวมทั้งลดปัญหามลภาวะทางสิ่งแวดล้อมPM 2.5 และเพิ่มประสิทธิภาพการเดินรถไฟให้มีความตรงต่อเวลามากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ขบวนรถไฟธรรมดา รถไฟชานเมือง และขบวนรถไฟนำเที่ยว จำนวน 62 ขบวน จะยังคงให้บริการที่สถานีต้นทางและสถานีปลายทางที่สถานีหัวลำโพงตามเดิม

“ขณะนี้ ให้ รฟท . และ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ไปสำรวจความพึงพอใจการให้บริการ ทั้งที่สถานีกลางบางซื่อ และ การให้บริการรถชัทเตอร์บัส รอบสถานี เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงเพื่อตอบโจทย์การให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้การให้บริการเน้นย้ำการขนถ่ายสัมภาระ ให้เตรียมพร้อมบริการประชาชนอย่างสะดวก เข่นรถเข็นหรือ จุดรับฝากสัมภาระ และสิ่งอำนวยความสะดวกประขาขน ทั้งร้านอาหารเครื่องดื่ม ให้พร้อม ในระหว่างที่ดำเนินการประมูลพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตามข่วงนี้เป็นข่วงเปลี่ยนผ่าน รฟท. ต้องสร้าง ความรับรู้และความเข้าใจให้กับผู้ใช้บริการรวมถึงภาคส่วนต่างๆ ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลา แต่ รฟท. ต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นทุกช่องทางเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงการให้บริการที่ดีขึ้นและมีคุณภาพ”นายศักดิ์สยามกล่าว

ทั้งนี้ ในการเปิดให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์จะเปิดให้บริการขบวนรถไฟทางไกล ณ บริเวณประตู 4 ชั้น 2 จำนวน 8 ชานชาลา รวม 52 ขบวน แบ่งเป็น รถไฟสายเหนือ 14 ขบวน รถไฟสายใต้ 20 ขบวน และรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ 18 ขบวน โดยในวันนี้ (19 มกราคม 2566) มีขบวนรถไฟเข้า-ออก สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์จำนวน 27  ขบวน แบ่งเป็น สายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ขาออก จำนวน 10 ขบวน ขาเข้า จำนวน 7 ขบวน และรถไฟสายใต้ ขาเข้า จำนวน 1 ขบวน ขาออก จำนวน 9 ขบวน

นอกจากนั้นทาง รฟท.ยังได้คาดการณ์ว่า ภายหลังการเปิดให้บริการขบวนรถไฟทางไกล จะส่งผลให้มีผู้ใช้บริการสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เพิ่มขึ้นอีก 10,000 คนต่อวัน ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมได้มีมาตรการรองรับและมีความพร้อมในการให้บริการแก่ผู้โดยสารรถไฟทางไกล ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ทั้งป้ายบอกทาง จุดพักคอยผู้โดยสาร รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) จัดรถโดยสารปรับอากาศให้บริการเส้นทางระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และสถานีหัวลำโพง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งมีความถี่ทุก ๆ 30 นาที หรือตามจำนวนเที่ยวที่ขบวนรถไฟมาถึงสถานี และการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ ได้แก่ รถไฟชานเมืองสายสีแดง รถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล ซึ่งในอนาคตจะมีการเชื่อมต่อการเดินทางทางอากาศผ่านระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน โดยการดำเนินงานในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประชาชนได้รับความสะดวก สบาย ปลอดภัย ตรงต่อเวลา ในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม รวมทั้งเป็นการพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งทางรางของประเทศในระยะยาว

สำหรับผู้ที่จะมาใช้บริการรถไฟที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ นั้น ขบวนรถไฟสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ ทุกขบวน ได้ปรับมาใช้การเดินรถบนโครงสร้างทางยกระดับเช่นเดียวกับรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ – รังสิต) ตั้งแต่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์จนถึงสถานีดอนเมือง โดยยกเลิกการให้บริการรับ – ส่ง ผู้โดยสารป้ายหยุดรถไฟ กม.11 สถานีบางเขน ที่หยุดรถไฟทุ่งสองห้อง สถานีหลักสี่ และที่หยุดรถการเคหะ กม.19 ซึ่งผู้ใช้บริการขบวนรถด่วนพิเศษรถด่วน รถเร็ว รถธรรมดา และตั๋วเดือน สามารถใช้ตั๋วโดยสารเข้าใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ภายในระยะเวลา 1 ปี ตามเงื่อนไขที่ระบุบนตั๋วโดยสาร ส่วนขบวนรถไฟธรรมดา รถไฟชานเมือง และขบวนรถไหนำเที่ยว จำนวน 62 ขบวน ยังคงให้บริการที่สถานีต้นทางและสถานีปลายทางที่สถานีหัวลำโพงตามเดิม

ปัจจุบันสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เปิดให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ – ตลิ่งชัน) และรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ – รังสิต) เพื่อยกระดับคุณภาพในการให้บริการของรถไฟชานเมือง ในการบริการขนส่งผู้โดยสารที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชานเมืองให้สามารถเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพมหานครได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งเชื่อมโยงการเดินทางไปยังทุกภูมิภาคทั่วประเทศด้วยการเปิดให้บริการขบวนรถไฟทางไกล และในอนาคตเตรียมเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูง 

นอกจากนี้  รฟท. ยังมีแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตามหลักการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (TOD) โดยพัฒนาเมืองควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมและการขนส่งทางรางของประเทศ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการอย่างบูรณาการเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ โดยแผนล่าสุดทาง รฟท. และบริษัท  เอสอาร์ที แอสเสทจำกัด หรือ เอสอาร์ทีเอ ซึ่งเป็นบริษัทลูก รฟท. เพื่อบริหารสินทรัพย์ รฟท. อยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าจะศึกษาแล้วเสร็จในปี66 ซึ่งตามแผนจะนำพื้นที่ แปลง เอ และ แปลง  อี นำมาเปิดประมูลก่อน

สำหรับการพัฒนาเป็นจุดเชื่อมต่อขบวนรถไฟทางไกล และรถไฟชานเมืองสายสีแดง โดยกระทรวงคมนาคมมีแผนการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ส่วนต่อขยาย ช่วงรังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตเพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางให้แก่นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งมาใช้บริการของมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาล เพื่อให้การพัฒนาโครงข่ายและการคมนาคมบริเวณพื้นที่รังสิต เป็นไปด้วยความสะดวก ปลอดภัยและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในภาพรวม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

ทิศทางการเมืองหลังคดี “ยิ่งลักษณ์” บวกปมฮั้ว สว.

24 พ.ค. – ทิศทางการเมืองไทย ไปทางไหน ? หลังศาลสั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้าน ปิดคดีจำนำข้าว ส่วนปมคดีฮั้วเลือก สว. จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พูดคุยกับ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมชายแดนแม่สาย หวั่นสารพิษท่วม

เชียงราย 24 เม.ย. – เพิ่งเริ่มต้นฤดูฝน แต่ฝนตกหนักในเมียนมา ทำให้แม่น้ำสายไหลทะลักท่วมชายแดนแม่สาย ที่เชียงราย ชาวบ้านขนของหนีน้ำอลหม่าน หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้ว และยังต้องกังวลกับสารพิษปนเปื้อนมากับน้ำท่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย