จับขนย้ายและผู้ประกอบการรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน

นนทบุรี 12 ม.ค.-รองอธิบดีกรมการค้าภายในตรวจเข้ม ลุยจับขนย้ายและผู้ประกอบการรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน สร้างความเป็นธรรมเกษตรกร และขอย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบเกษตรกร หากพบว่ามีการกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่ากรมการค้าภายในได้ตรวจเข้มการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันและการลักลอบขนย้ายน้ำมันปาล์ม หลังจากที่ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรในการกดราคารับซื้ออย่างไม่เป็นธรรม อีกทั้งเพื่อรักษาเสถียรภาพระบบตลาดสินค้าเกษตรภายในประเทศให้เกิดความเป็นธรรม และยกระดับรายได้ให้เกษตรกร ได้สั่งการเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและเจ้าหน้าที่สำนักงานชั่งตวงวัด ดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเข้มงวดในทุกพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกปาล์มที่สำคัญ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 – 6 ม.ค.66 ได้นำทีมเจ้าหน้าที่สายตรวจ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบโรงสกัดน้ำมันปาล์ม ที่ได้รับรายงานว่า รับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรในราคาต่ำ พบผู้กระทำความผิด 1 ราย ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อปาล์มที่จุดรับซื้อ จึงได้ดำเนินการจับกุมและเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 3,000 บาท ส่วนด้านราคารับซื้อผลปาล์ม พบว่า โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรับซื้อผลปาล์มในราคาที่สูงกว่าป้ายราคารับซื้อที่แสดงไว้ และรับซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาที่กรมการค้าภายในได้รับรายงาน ซึ่งราคาที่รับซื้อเป็นไปตามราคาโครงสร้างปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ต่อมาวันที่ 8 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชุมพร สนธิกำลัง กอ.รมน. จังหวัดชุมพร และตำรวจทางหลวง ร่วมกันจับกุมผู้ลักลอบขนย้ายน้ำมันปาล์มโดยไม่ได้รับอนุญาตการขนย้าย จำนวน 2 ราย พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้นำผู้ขนย้ายและยานพาหนะ ทั้ง 2 ราย พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ และสภ.เมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ทั้งนี้ การดำเนินการตรวจสอบดังกล่าวเป็นแนวทางในการป้องกันการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรและเรื่องนี้ ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ได้กำชับให้กรมการค้าภายในและพาณิชย์จังหวัดเข้มงวด ตรวจสอบลักลอบ ขนสินค้าเกษตรและให้เฝ้าระวังอย่างจริงจังและเข้มงวด โดยหากตรวจพบการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ให้ดำเนินคดีโดยทันทีอย่างเคร่งครัด และขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบเกษตรกร หากพบว่ามีการกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งขอให้แสดงราคารับซื้อและรับซื้อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ มาตรการ เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด และหากมีการขนย้ายสินค้าต้องได้รับอนุญาตก่อนทำการขนย้าย หากผ่าฝืนต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 

ทั้งนี้ หากเกษตรกรรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการเอาเปรียบเกษตรกร สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า