“อิ่มบุญ อิ่มอร่อย ช้อปคุ้ม”นั่งรถไฟเที่ยววันเด็กแห่งชาติ 

กรุงเทพฯ 10 ม.ค.-กลับมาอีกครั้งกับทริป “อิ่มบุญ อิ่มอร่อย ช้อปคุ้ม ไปกับขบวนรถ KIHA 183” สัมผัสประสบการณ์ใหม่เที่ยวไทย ผสานกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่น วันเดย์ทริป “กรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ” 14 และ 15 มกราคมนี้ 1,999 บาทต่อท่าน วันละ 200 ที่นั่งเท่านั้น 


นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดทริป “อิ่มบุญ อิ่มอร่อย ช้อปคุ้ม ไปกับขบวนรถ KIHA 183” แบบเช้าไปเย็นกลับ (วันเดย์ทริป) เส้นทางกรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ สามารถพาบุตรหลานท่องเที่ยวในช่วงวันเด็กแห่งชาติ  รอบพิเศษ 2 เที่ยว ในวันเสาร์ที่14 และอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2566  ซึ่งถือเป็นรอบพิเศษ เริ่มจำหน่ายตั๋วโดยสารพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป อัตราค่าบริการ 1,999 บาท วันละ 200 ที่นั่งเท่านั้น

ทริป “อิ่มบุญ อิ่มอร่อย ช้อปคุ้ม ไปกับขบวนรถ KIHA 183” เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างการรถไฟฯ กับมูลนิธิฉะเชิงเทราเพื่อการพัฒนา พร้อมด้วยสมาชิกและภาคีเครือข่ายของมูลนิธิฯ ประกอบด้วยหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา ตำรวจภูธรฉะเชิงเทรา และมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต่อยอดส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ ระหว่างการรถไฟฯ กับจังหวัด รวมถึงหน่วยราชการ และผู้ประกอบการในพื้นที่เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางในรูปแบบของการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยว ในการเที่ยวเมืองไทยด้วยขบวนรถไฟ KIHA 183 และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ตลอดจนกระตุ้นเศรษฐกิจ และเกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และคนในชุมชน เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากเติบโต และเป็นแรงผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตตามไปด้วยอย่างยั่งยืน 


การเดินทางในทริปนี้ การรถไฟฯ ถือทริปไหว้พระตามแบบฉบับคนอิ่มบุญ เพื่อเสริมสิริมงคลในแบบฉบับของไทยผสมผสานการเดินทางอย่างอบอุ่น ด้วยเสน่ห์ และกลิ่นอายญี่ปุ่นไปกับขบวนรถไฟ KIHA 183 ซึ่งนอกจากผู้ร่วมทริปทุกคนจะได้อิ่มบุญ ไปกับการเดินทางไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังในจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเสริมสิริมงคลแล้ว ยังจะได้อิ่มอร่อยไปกับอาหารร้านดัง และช้อปสุดคุ้มกับสินค้าขึ้นชื่อต่าง ๆ มากมายของชุมชน โดยขบวนรถ KIHA 183 เที่ยวพิเศษรอบบนี้ จะออกเดินทางจากสถานีกรุงเทพ(หัวลำโพง) ในเวลา 07.40 น. และกลับถึงสถานีกรุงเทพ ในเวลา 19.00 น.

สำหรับทริปนี้พร้อมบริการอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่น “เบนโตะ” ให้กับผู้โดยสารทุกคนในระหว่างการเดินทางด้วย ภายในขบวนรถ KIHA 183 จะมีวิทยากรบรรยาย เล่าเรื่องราวเส้นทางการเดินทางของขบวนรถ KIHA 183 รวมทั้ง ข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ ผู้โดยสารจะได้พบกับจุดแลนด์มาร์กใหม่ที่มีความ Unseen ในเส้นทางรถไฟสายตะวันออก ซึ่งขบวนรถไฟจะจอดให้ผู้โดยสารได้แวะชมวิวทิวทัศน์บริเวณกลางสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง 20 นาที มีลักษณะคล้ายรถไฟลอยน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากนั้นเมื่อถึงสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา จะเดินทางกันต่อโดยรถบัสปรับอากาศ เพื่อไปสักการะ “หลวงพ่อโสธร” ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร แล้วไปเติม เสริมสิริมงคล  ต่อกันที่ วัดจีนประชาสโมสร (เล่งฮกยี่) วัดจีนในพุทธศาสนามหายาน มีอายุกว่า 100 ปี ผู้คนเรียกว่า “วัดมังกรวาสนา” หรือ “วัดมังกรแห่งโชค” ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดที่ประกอบกันขึ้นเป็นตัวมังกร ส่วนหัว ท้อง และหางมังกร และท้องมังกรนั้นอยู่ที่วัดจีนประชาสโมสร (เล่งฮกยี่) แห่งนี้ 

และแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ “ร้านเดอะริเวอร์บาร์น” แวะช้อปปิ้งที่ตลาดโบราณ 100 ปี จากนั้น ล่องเรือรอบเกาะลัด ชมธรรมชาติและความสวยงามของสองฝั่งแม่น้ำบางปะกงที่ตลาดน้ำบางคล้า แวะที่อุทยานพระพิฆเนศ สักการะพระพิฆเนศเนื้อสำริดองค์ยืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และวัดสมานรัตนาราม สักการะพระพิฆเนศสีชมพูปางนอนเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ พร้อมกันนี้จะได้เข้าขอพรปีใหม่จากพระผู้ใหญ่ พร้อมรับวัตถุมงคลเป็นสิริมงคล เพื่อความสำเร็จอีกด้วย 


นายเอกรัช กล่าวว่า การจัดกิจกรรมนี้ สามารถพาบุตรหลานท่องเที่ยวในช่วงวันเด็กแห่งชาติ ไหว้พระตามแบบฉบับคนอิ่มบุญ เสริมสิริมงคล เป็นอย่างยิ่ง ใครอยากสัมผัสประสบการณ์ดี ๆ กับทริป “อิ่มบุญ อิ่มอร่อย ช้อปคุ้ม ไปกับขบวนรถ KIHA 183”  สามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่สถานีรถไฟ และช่องทางจำหน่ายตั๋วในระบบออนไลน์ของการรถไฟฯ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย