กรุงเทพฯ 9 ม.ค. – สภาพัฒน์ เตรียมประเมินจีดีพีปี 66 เดิมคาดนักท่องเที่ยวเข้าไทย 23 ล้านคน หลังนักท่องเที่ยวจีนทยอยเยือนไทย ส่งผลต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่องหลายสาขา แนะทุกหน่วยงานเน้นการท่องเที่ยวคุณภาพ ขณะที่ สศช. เดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ มุ่งเน้น สงขลา ปัตตานี
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า หลังจากนักท่องเที่ยวจีน ทยอยเดินทางเข้าไทย เมื่อคนไทยได้ฉีดวัคซีนร้อยละ 70 ของประชากร ฉีดวัคซีนเฉลี่ยคนละ 2-5 เข็ม น่าจะคลายความกังวลในการประกอบธุรกิจ จากการติดเชื้อโควิด-19 ลงได้บ้าง จากเดิม สศช.คาดการณ์ว่าจีนจะเริ่มเดินทางเข้าไทยครึ่งปีหลัง จึงมองว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยในปีนี้ 23 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 1.2 ล้านล้านบาท หลังจากนั้นต้องติดตามดูตัวเลขอย่างใกล้ชิด 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า จากนั้นจะทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 66 จากเดิมคาดการณ์จีดีพีไทยในปี 66 ขยายตัวร้อยละ 3-4 และยอดนักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างไรบ้าง
ยอมรับว่า เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย จะส่งผลไปยังอีกหลายสาขา ทั้งโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท ร้านอาหาร สินค้าชุมชน จึงเป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นเศรษฐกิจไทย ที่สำคัญอยากให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ร่วมกันดูแลภาคท่องเที่ยวแบบคุณภาพ เพื่อรักษามาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ดูแลความปลอดภัย ทำธุรกิจอย่างตรงไป ตรงมา รักษาชื่อเสียง เพราะต่างชาติหลายประเทศ สนใจเข้ามาท่องเที่ยวไทยจำนวนมาก เพื่อไปชดเชยการส่งออกชะลอตัวสนปีนี้ เนื่องจากหลายประเทศเศรษฐกิจสำคัญเผชิญปัญหาเศรษฐกิจถดถอย ไทยจึงต้องหาทางส่งออกสินค้าเกษตร และอาหารไปยังกลุ่มประเทศที่มีความต้องการ
สำหรับการจัดทำโครงการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) เพื่อจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและปัตตานี ช่วงที่ผ่านมาได้นำความเห็นจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน มาทำการศึกษา เพื่อกำหนดพื้นที่พัฒนาทั้งสองจังหวัด เพราะเห็นว่าจังหวัดสงขลาเป็นพื้นที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ส่วนจังหวัดปัตตานียังมีโอกาสเติบโตได้อีก ในเดือนกุมภาพันธ์ 66 จะเร่ิมเห็นความชัดเจนในการจัดทำแผนพัฒนา ทั้งด้านอุตสมหกรรม ด้านสังคม สิ่งแวดล้อม อย่างไรบ้าง เพื่อนำพื้นที่มีศักยภาพมายกระดับเศรษฐกิจภาคใต้.-สำนักข่าวไทย