8 ม.ค. – พรุ่งนี้ (9 ม.ค.66) อาจมีข่าวดี กรณีนักท่องเที่ยวจีนได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศของจีนเดินทางถึงไทย แต่มีความเห็นจากสมาคมท่องเที่ยวภูเก็ต ที่ส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี อ้างได้รับข้อมูลจากบริษัทนำเที่ยวหลายประเทศ ระบุถึงผลกระทบจากการออกมาตรการเข้าประเทศของต่างชาติในระยะเวลาที่กระชั้นชิด ทำให้ผู้ประกอบการปรับเตรียมตัวไม่ทัน
ภายหลังกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาตรการในการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาตั้งแต่วันพรุ่งนี้ คือ ผู้เดินทางต้องรับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 2 เข็ม, หากประเทศต้นทางมีเงื่อนไขผลตรวจ RT- PCR เป็นลบก่อนกลับ ต้องซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการตรวจรักษาโรคโควิด-19 ด้วย พร้อมแนะนำให้ผู้เดินทางป้องกันตนเองตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศ เช่น สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ/ขนส่งสาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ หากมีอาการของโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK และหากมีอาการป่วยรุนแรงขึ้นให้ไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาล และแนะนำให้พักในโรงแรม SHA+ สำหรับผู้ต้องการทำ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับประเทศ
จากมาตรการดังกล่าว ทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นำโดยนายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้ส่งเอกสาร เรื่อง ผลกระทบจากการออกมาตรการของเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2566 ถึงสื่อมวลชน โดยเป็นเอกสารถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และสำเนาถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงวันที่ 7 มกราคม 2566

โดยเนื้อหาระบุว่า แนวทางควบคุมผู้เดินทางเข้าประเทศดังกล่าว สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตได้รับการติดต่อและประสานงานจากผู้ประกอบการนำเที่ยวในหลายประเทศ แสดงความกังวลว่าการปรับเปลี่ยนนโยบายการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย จะส่งผลกระทบ อาทิ บริษัทนำเที่ยวประเทศอังกฤษ ระบุว่าประกาศฉบับนี้ออกมาแบบเร่งด่วนเกินไป ควรมีเวลาแจ้งล่วงหน้า เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ได้ออกเดินทางเพื่อไปขึ้นเครื่อง และอาจไม่ได้นำใบรับรองการฉีดวัคซีนมา จึงอาจทำให้โดนปฏิเสธการขึ้นเครื่องได้ กังวลว่าลูกค้าที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะไม่สามารถเดินทางได้ และเอเย่นต์ต้องทำการคืนเงิน,
บริษัทนำเที่ยวประเทศภาคพื้นสแกนดิเนเวีย ระบุว่า ไม่สามารถแจ้งลูกค้าได้ทัน เรื่องการตรวจใบรับรองการฉีดวันซีน ขณะที่บริษัทนำเที่ยวประเทศเยอรมนี บอกว่า เป็นการออกกฎที่ไม่ควรออก เป็นการสร้างปัญหา และลดความเชื่อมั่นของการท่องเที่ยวไทยอย่างมาก ทันทีที่มีข่าวการเปลี่ยนมาตรการการเดินทาง บริษัทได้รับการยกเลิกจากลูกค้าถึงขณะนี้กว่าพัน room nights แล้ว
ทั้งนี้ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต มีความห่วงใย เนื่องจากบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ได้แสดงความไม่พอใจ และนักท่องเที่ยวจำนวนมากจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎการเดินทางในครั้งนี้ ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการโดยเร็วที่สุด เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาและหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับประเทศ
ขณะที่นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ ATTA เผยว่า การเปิดประเทศของจีนจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนได้ทางมาท่องเที่ยวไทยมากขึ้น จากปีที่แล้วที่มีชาวจีนซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจเดินทางเข้าไทยประมาณ 270,000 คน อย่างไรก็ตาม ในระยะแรกของการเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวจีนอาจยังเดินทางมาไทยไม่มาก เพราะยังไม่พร้อมออกท่องเที่ยวต่างประเทศ แม้ไทยจะเป็นจุดหมายอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวจีนก็ตาม ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ยาวนาน สร้างความบอบช้ำให้กับเศรษฐกิจจีนอย่างมาก และช่วงนี้เรียกว่าเป็นช่วงพีคของการระบาดในจีน ประกอบกับจำนวนสายการบินเข้าไทยก็ยังมีไม่มาก เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด อีกทั้งชาวจีนบางส่วนพาสปอร์ตหมดอายุ การจะทำพาสปอร์ตใหม่อาจต้องใช้เวลาเกือง 2 สัปดาห์ ดังนั้น นักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางเข้ามาในช่วงตรุษจีนนี้จึงยังมีไม่มาก โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 คาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 40,000-50,000 คนต่อเดือน จากปีที่แล้วที่เฉลี่ยตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 20,000 คนต่อเดือน ส่วนการจะกลับไปคึกคักเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิดระบาด อาจต้องรออีกสักระยะ คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยมากขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ของปี
ด้านนายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวถึงความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวจีนที่เปิดประเทศ และจะมีเที่ยวบินมมไทยไฟลต์แรกวันพรุ่งนี้ (9 ม.ค.66) ว่าค่อนข้างพร้อมอยู่แล้ว ขณะนี้รับได้ 20,000 คนวัน ปัญหาที่ยังมีคือ เรื่องแรงงานยังไม่กลับมาเต็มที่ ทำให้หลายโรงแรมยังไม่เปิดบริการปกติ เพราะขาดแรงงาน จึงแก้ปัญหาด้วยการให้พนักงานทำโอทีเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยวจีนกลับมา คาดว่าเดือนนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยประมาณ 60,000 คน ซึ่งไม่ได้กระจุกเฉพาะข้าวสาร แต่กระจายไปจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ อีก จึงยังมีเวลาในการจัดหาแรงงานให้เต็มสมบูรณ์
สำหรับเทศกาลตรุษจีน 22 ม.ค.นี้ ยอดจองห้องพักย่านข้าวสาร อยู่ที่ 70% โดย 20% เป็นเอเชีย อีก 50 % เป็นยุโรป . – สำนักข่าวไทย