คปภ.เผย 7 วันอันตรายปีนี้ จยย.แชมป์อุบัติเหตุ ไม่ทำประกัน พ.ร.บ. 44%

กรุงเทพฯ 6 ม.ค. – คปภ. เผยช่วง 7 วันอันตราย ปีนี้มอเตอร์ไซค์ยังครองแชมป์เกิดอุบัติเหตุสูงสุด พบไม่ทำประกันภัย พ.ร.บ. ถึง 44% เลขาธิการ คปภ. กำชับสำนักงาน คปภ.ทั่วประเทศ เร่งติดตามค่าสินไหมทดแทนเพื่อช่วยเหลือประชาชนด้านประกันภัยอย่างเต็มที่


ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมประกันภัย และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมาตลอด โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งเป็นสาเหตุที่คร่าชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวมาอย่างต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน เพื่อให้มีการนำระบบประกันภัยมาบริหารความเสี่ยงให้กับประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ

สำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 มีพี่น้องประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและเดินทางพบปะญาติมิตรตามประเพณี ส่งผลให้การใช้รถใช้ถนนมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมาก สำนักงาน คปภ. ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อช่วยเหลือประชาชนด้านการประกันภัย พร้อมสั่งการให้สำนักงาน คปภ. ภาค 1-9 ติดตามและรายงานความเสียหายด้านประกันภัยที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้ออก 7 มาตรการ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในช่วงก่อน ระหว่าง และหลังเทศกาลปีใหม่ และพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัยกับประชาชนผู้ประสบภัยได้ทันท่วงทีกรณีเกิดอุบัติเหตุ ประกอบด้วย


มาตรการแรก เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่กับศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนทั่วประเทศ เพื่อให้การสนับสนุน และให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยกับหน่วยงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง

มาตรการที่ 2 ร่วมกับจังหวัดตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ณ จุดตรวจร่วม/จุดบริการร่วม รวมทั้งประสานและประชุมกับเครือข่ายประกันภัยในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังและสนับสนุนข้อมูลด้านการประกันภัย การจัดการสินไหมทดแทนให้กับประชาชน หากมีเหตุหรือความจำเป็นที่จะต้องได้รับการเยียวยาช่วยเหลือด้านการประกันภัย พร้อมร่วมตั้งศูนย์บริการประกันภัยช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2566 เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการข้อมูลและให้คำปรึกษาด้านการประกันภัย ณ สำนักงาน คปภ.ภาค/จังหวัดทั่วประเทศ

มาตรการที่ 3 ประชาสัมพันธ์กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวไทยปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) เบี้ยประกันภัย 10 บาท ให้ประชาชนทราบถึงช่องทางการจำหน่าย รายชื่อหน่วยงาน บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วม และสาขาบริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยในพื้นที่ เป็นต้น เงื่อนไขการรับประกันภัย ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มคือ ผู้ประกอบการ ความคุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุด 100,000 บาท (ระยะเวลาการเอาประกันภัย 30 วัน) ช่วงอายุการรับประกันภัยตั้งแต่ 20-70 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย ช่วงเวลาทำสัญญาประกันภัยตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566


มาตรการที่ 4 ประชาสัมพันธ์กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ปีใหม่สุขใจ บ้านปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) เบี้ยประกันภัย 10 บาท ให้ประชาชนทราบถึงช่องทางการจำหน่าย รายชื่อหน่วยงาน บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วม และสาขาบริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยในพื้นที่ เป็นต้น เงื่อนไขการรับประกันภัย ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มคือ ผู้ประกอบการ ความคุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุด 30,000 บาท (ระยะเวลาการเอาประกันภัย 30 วัน) ช่วงอายุการรับประกันภัยตั้งแต่ 20-70 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย ช่วงเวลาทำสัญญาประกันภัยตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566

มาตรการที่ 5 จัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ผ่านสถานีวิทยุท้องถิ่น และ/หรือสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รวมถึงสื่อมวลชนในพื้นที่ และสอดแทรกการประชาสัมพันธ์ เรื่อง กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวไทยปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) และกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ปีใหม่สุขใจ บ้านปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) เบี้ยประกันภัย 10 บาท การประกันภัยรถตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 การรณรงค์ดื่มไม่ขับ การรณรงค์ให้ผู้ที่ใช้รถยนต์คาดเข็มขัดนิรภัย และรณรงค์ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย เป็นต้น

มาตรการที่ 6 ประชาสัมพันธ์ช่องทางที่จะใช้ในการติดต่อกับสำนักงาน คปภ. นอกเหนือจากสายด่วน คปภ. 1186 โดยในส่วนภูมิภาค ได้แจ้งหมายเลขโทรศัพท์มือถือแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) เพื่อการติดต่อประสานงานและบูรณาการร่วมกัน เป็นต้น

ทั้งนี้ จากข้อมูลในช่วง 7 วันอันตราย ได้มีประชาชนใช้บริการผ่านบริการสายด่วน คปภ. 1186 เป็นจำนวนมาก โดยประเด็นหารือที่มีประชาชนสอบถามเข้ามามากที่สุด 5 อันดับ ประกอบด้วย ตรวจสอบและสอบถามเงื่อนไขความคุ้มครองประกันภัยรถภาคบังคับ ตรวจสอบและสอบถามเกี่ยวกับประกันภัยรถภาคสมัครใจ ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับใบอนุญาต/สมัครสอบ/อบรม/การขอรับใบอนุญาตนายหน้าประกันภัย ประเภทนิติบุคคล ต้องการร้องเรียนด้านประกันภัย และขอคัด ตรวจสอบ ติดตามกรมธรรม์ประกันภัย ตามลำดับ

มาตรการที่ 7 กรณีเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่ สำนักงาน คปภ.ภาคและจังหวัด พร้อมลงพื้นที่โดยทันที เพื่อติดตามช่วยเหลือและตรวจสอบด้านการประกันภัยเบื้องต้นว่ามีผู้ประสบภัยจากรถมีการทำประกันภัยไว้กับบริษัทประกันภัยใด ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล ประสานผู้ประสบภัย ทายาทผู้ประสบภัย และบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกและเร่งติดตามให้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานในศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนที่จังหวัดจัดตั้งขึ้นในพื้นที่ เช่น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตำรวจ สำนักงานขนส่งจังหวัด รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมประกันภัย สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย สาขาบริษัทประกันภัย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ว่าผู้ประสบภัยได้มีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ไว้ด้วยหรือไม่ หากตรวจสอบพบว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก จะได้ประสานบริษัทประกันภัยเพื่อช่วยติดตามการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อไป

จากข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ในช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม – 4 มกราคม 2566 ของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 (ศปถ.) พบว่า สถิติอุบัติเหตุสะสม 2,440 ครั้ง เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว 2,707 ครั้ง ลดลง 267 ครั้ง (คิดเป็น -9.68%) จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (79 ครั้ง) รองลงมา ได้แก่ จังหวัดสงขลา (75 ครั้ง) และจังหวัดเชียงราย (73 ครั้ง) ส่วนผู้บาดเจ็บสะสม 2,437 คน เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว (2,672 คน) ลดลง 235 คน (คิดเป็น -8.79%) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (81 คน) รองลงมา ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (79 คน) และจังหวัดสงขลา (76 คน) และมีผู้เสียชีวิตสะสม จำนวน 317 ราย เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว (333 ราย) ลดลง 16 ราย (คิดเป็น -4.80%) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย (15 ราย) รองลงมา ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดปทุมธานี (13 ราย) และสุราษฎร์ธานี (11 ราย)

สำหรับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนด้านการประกันภัย สำนักงาน คปภ.ได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. ภาค 1-9 ณ วันที่ 5 มกราคม 2566 มีการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นและค่าสินไหมทดแทน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 – 4 มกราคม 2566 รวม 136 ราย เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว 163 ราย ลดลง 27 ราย (ลดลงร้อยละ 16.56) จำนวนเงิน 7,886,676 บาท เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว 6,037,281 บาท เพิ่มขึ้น 1,849,395 บาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.63) จึงได้สั่งการให้บริษัทประกันภัยเร่งประเมินความเสียหายและจ่ายค่าสินไหมทดแทนด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

นอกจากนี้ยังพบว่า มีรถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ร้อยละ 82.11 และในจำนวนรถจักรยานยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุ มีร้อยละ 44 ที่ไม่ได้ทำประกันภัย พ.ร.บ. จากตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่ายังมีรถที่อยู่นอกระบบการประกันภัย พ.ร.บ. อีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังมีเจ้าของรถจำนวนมากที่ยังขาดความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการมีประกันภัย พ.ร.บ. เพื่อนำไปเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงภัย หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นจากการใช้รถใช้ถนน ทั้งนี้ เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถทุกคันมีหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องจัดให้มีการประกันภัย พ.ร.บ. หากฝ่าฝืนไม่จัดให้มีการประกันภัย พ.ร.บ. จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท หรือหากเป็นผู้ใช้รถที่ไม่ทำประกันภัย พ.ร.บ. จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ดังนั้น หากเป็นทั้งเจ้าของรถที่ไม่ทำประกันภัย พ.ร.บ. และได้นำรถคันนั้นออกไปใช้เอง จะมีความผิดทั้ง 2 ข้อหา โดยมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

“แม้ว่าการทำประกันภัยไม่สามารถป้องกันอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่การทำประกันภัยจะเป็นเครื่องมือที่ใช้บริหารความเสี่ยงภัย หากเกิดอุบัติเหตุแล้ว การประกันภัยจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้ และฝากเตือนถึงเจ้าของรถ รวมถึงผู้ใช้รถ ขอให้ทำประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนด และหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์ด้วย เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึงและครบวงจร และถ้ามีกำลังซื้อ ขอให้ซื้อกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคสมัครใจเพิ่มเติม เพื่อจะได้รับความคุ้มครองที่มากขึ้น อย่างไรก็ดี จากการที่สำนักงาน คปภ.ได้รณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ ส่งผลทำให้การเกิดอุบัติเหตุปีนี้ลดลง จึงขอขอบคุณภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมา ณ โอกาสนี้” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]