คปภ.เผย 7 วันอันตรายปีนี้ จยย.แชมป์อุบัติเหตุ ไม่ทำประกัน พ.ร.บ. 44%

กรุงเทพฯ 6 ม.ค. – คปภ. เผยช่วง 7 วันอันตราย ปีนี้มอเตอร์ไซค์ยังครองแชมป์เกิดอุบัติเหตุสูงสุด พบไม่ทำประกันภัย พ.ร.บ. ถึง 44% เลขาธิการ คปภ. กำชับสำนักงาน คปภ.ทั่วประเทศ เร่งติดตามค่าสินไหมทดแทนเพื่อช่วยเหลือประชาชนด้านประกันภัยอย่างเต็มที่


ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมประกันภัย และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมาตลอด โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งเป็นสาเหตุที่คร่าชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวมาอย่างต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน เพื่อให้มีการนำระบบประกันภัยมาบริหารความเสี่ยงให้กับประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ

สำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 มีพี่น้องประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและเดินทางพบปะญาติมิตรตามประเพณี ส่งผลให้การใช้รถใช้ถนนมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมาก สำนักงาน คปภ. ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อช่วยเหลือประชาชนด้านการประกันภัย พร้อมสั่งการให้สำนักงาน คปภ. ภาค 1-9 ติดตามและรายงานความเสียหายด้านประกันภัยที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้ออก 7 มาตรการ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในช่วงก่อน ระหว่าง และหลังเทศกาลปีใหม่ และพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัยกับประชาชนผู้ประสบภัยได้ทันท่วงทีกรณีเกิดอุบัติเหตุ ประกอบด้วย


มาตรการแรก เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่กับศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนทั่วประเทศ เพื่อให้การสนับสนุน และให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยกับหน่วยงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง

มาตรการที่ 2 ร่วมกับจังหวัดตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ณ จุดตรวจร่วม/จุดบริการร่วม รวมทั้งประสานและประชุมกับเครือข่ายประกันภัยในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังและสนับสนุนข้อมูลด้านการประกันภัย การจัดการสินไหมทดแทนให้กับประชาชน หากมีเหตุหรือความจำเป็นที่จะต้องได้รับการเยียวยาช่วยเหลือด้านการประกันภัย พร้อมร่วมตั้งศูนย์บริการประกันภัยช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2566 เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการข้อมูลและให้คำปรึกษาด้านการประกันภัย ณ สำนักงาน คปภ.ภาค/จังหวัดทั่วประเทศ

มาตรการที่ 3 ประชาสัมพันธ์กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวไทยปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) เบี้ยประกันภัย 10 บาท ให้ประชาชนทราบถึงช่องทางการจำหน่าย รายชื่อหน่วยงาน บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วม และสาขาบริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยในพื้นที่ เป็นต้น เงื่อนไขการรับประกันภัย ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มคือ ผู้ประกอบการ ความคุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุด 100,000 บาท (ระยะเวลาการเอาประกันภัย 30 วัน) ช่วงอายุการรับประกันภัยตั้งแต่ 20-70 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย ช่วงเวลาทำสัญญาประกันภัยตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566


มาตรการที่ 4 ประชาสัมพันธ์กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ปีใหม่สุขใจ บ้านปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) เบี้ยประกันภัย 10 บาท ให้ประชาชนทราบถึงช่องทางการจำหน่าย รายชื่อหน่วยงาน บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วม และสาขาบริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยในพื้นที่ เป็นต้น เงื่อนไขการรับประกันภัย ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มคือ ผู้ประกอบการ ความคุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุด 30,000 บาท (ระยะเวลาการเอาประกันภัย 30 วัน) ช่วงอายุการรับประกันภัยตั้งแต่ 20-70 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย ช่วงเวลาทำสัญญาประกันภัยตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566

มาตรการที่ 5 จัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ผ่านสถานีวิทยุท้องถิ่น และ/หรือสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รวมถึงสื่อมวลชนในพื้นที่ และสอดแทรกการประชาสัมพันธ์ เรื่อง กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวไทยปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) และกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ปีใหม่สุขใจ บ้านปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) เบี้ยประกันภัย 10 บาท การประกันภัยรถตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 การรณรงค์ดื่มไม่ขับ การรณรงค์ให้ผู้ที่ใช้รถยนต์คาดเข็มขัดนิรภัย และรณรงค์ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย เป็นต้น

มาตรการที่ 6 ประชาสัมพันธ์ช่องทางที่จะใช้ในการติดต่อกับสำนักงาน คปภ. นอกเหนือจากสายด่วน คปภ. 1186 โดยในส่วนภูมิภาค ได้แจ้งหมายเลขโทรศัพท์มือถือแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) เพื่อการติดต่อประสานงานและบูรณาการร่วมกัน เป็นต้น

ทั้งนี้ จากข้อมูลในช่วง 7 วันอันตราย ได้มีประชาชนใช้บริการผ่านบริการสายด่วน คปภ. 1186 เป็นจำนวนมาก โดยประเด็นหารือที่มีประชาชนสอบถามเข้ามามากที่สุด 5 อันดับ ประกอบด้วย ตรวจสอบและสอบถามเงื่อนไขความคุ้มครองประกันภัยรถภาคบังคับ ตรวจสอบและสอบถามเกี่ยวกับประกันภัยรถภาคสมัครใจ ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับใบอนุญาต/สมัครสอบ/อบรม/การขอรับใบอนุญาตนายหน้าประกันภัย ประเภทนิติบุคคล ต้องการร้องเรียนด้านประกันภัย และขอคัด ตรวจสอบ ติดตามกรมธรรม์ประกันภัย ตามลำดับ

มาตรการที่ 7 กรณีเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่ สำนักงาน คปภ.ภาคและจังหวัด พร้อมลงพื้นที่โดยทันที เพื่อติดตามช่วยเหลือและตรวจสอบด้านการประกันภัยเบื้องต้นว่ามีผู้ประสบภัยจากรถมีการทำประกันภัยไว้กับบริษัทประกันภัยใด ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล ประสานผู้ประสบภัย ทายาทผู้ประสบภัย และบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกและเร่งติดตามให้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานในศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนที่จังหวัดจัดตั้งขึ้นในพื้นที่ เช่น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตำรวจ สำนักงานขนส่งจังหวัด รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมประกันภัย สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย สาขาบริษัทประกันภัย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ว่าผู้ประสบภัยได้มีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ไว้ด้วยหรือไม่ หากตรวจสอบพบว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก จะได้ประสานบริษัทประกันภัยเพื่อช่วยติดตามการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อไป

จากข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ในช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม – 4 มกราคม 2566 ของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 (ศปถ.) พบว่า สถิติอุบัติเหตุสะสม 2,440 ครั้ง เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว 2,707 ครั้ง ลดลง 267 ครั้ง (คิดเป็น -9.68%) จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (79 ครั้ง) รองลงมา ได้แก่ จังหวัดสงขลา (75 ครั้ง) และจังหวัดเชียงราย (73 ครั้ง) ส่วนผู้บาดเจ็บสะสม 2,437 คน เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว (2,672 คน) ลดลง 235 คน (คิดเป็น -8.79%) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (81 คน) รองลงมา ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (79 คน) และจังหวัดสงขลา (76 คน) และมีผู้เสียชีวิตสะสม จำนวน 317 ราย เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว (333 ราย) ลดลง 16 ราย (คิดเป็น -4.80%) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย (15 ราย) รองลงมา ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดปทุมธานี (13 ราย) และสุราษฎร์ธานี (11 ราย)

สำหรับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนด้านการประกันภัย สำนักงาน คปภ.ได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. ภาค 1-9 ณ วันที่ 5 มกราคม 2566 มีการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นและค่าสินไหมทดแทน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 – 4 มกราคม 2566 รวม 136 ราย เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว 163 ราย ลดลง 27 ราย (ลดลงร้อยละ 16.56) จำนวนเงิน 7,886,676 บาท เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว 6,037,281 บาท เพิ่มขึ้น 1,849,395 บาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.63) จึงได้สั่งการให้บริษัทประกันภัยเร่งประเมินความเสียหายและจ่ายค่าสินไหมทดแทนด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

นอกจากนี้ยังพบว่า มีรถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ร้อยละ 82.11 และในจำนวนรถจักรยานยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุ มีร้อยละ 44 ที่ไม่ได้ทำประกันภัย พ.ร.บ. จากตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่ายังมีรถที่อยู่นอกระบบการประกันภัย พ.ร.บ. อีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังมีเจ้าของรถจำนวนมากที่ยังขาดความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการมีประกันภัย พ.ร.บ. เพื่อนำไปเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงภัย หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นจากการใช้รถใช้ถนน ทั้งนี้ เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถทุกคันมีหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องจัดให้มีการประกันภัย พ.ร.บ. หากฝ่าฝืนไม่จัดให้มีการประกันภัย พ.ร.บ. จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท หรือหากเป็นผู้ใช้รถที่ไม่ทำประกันภัย พ.ร.บ. จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ดังนั้น หากเป็นทั้งเจ้าของรถที่ไม่ทำประกันภัย พ.ร.บ. และได้นำรถคันนั้นออกไปใช้เอง จะมีความผิดทั้ง 2 ข้อหา โดยมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

“แม้ว่าการทำประกันภัยไม่สามารถป้องกันอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่การทำประกันภัยจะเป็นเครื่องมือที่ใช้บริหารความเสี่ยงภัย หากเกิดอุบัติเหตุแล้ว การประกันภัยจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้ และฝากเตือนถึงเจ้าของรถ รวมถึงผู้ใช้รถ ขอให้ทำประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนด และหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์ด้วย เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึงและครบวงจร และถ้ามีกำลังซื้อ ขอให้ซื้อกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคสมัครใจเพิ่มเติม เพื่อจะได้รับความคุ้มครองที่มากขึ้น อย่างไรก็ดี จากการที่สำนักงาน คปภ.ได้รณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ ส่งผลทำให้การเกิดอุบัติเหตุปีนี้ลดลง จึงขอขอบคุณภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมา ณ โอกาสนี้” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย