เพิ่มเงินพิเศษ 200 บาทให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ

ทำเนียบฯ 4 ม.ค. – โฆษกรัฐบาลย้ำ มาตรการของขวัญปีใหม่ เพิ่มเงินพิเศษ 200 บาทให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯในเดือนม.ค. นี้ เพื่อมุ่งช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าครองชีพ ให้แก่กลุ่มที่มีรายได้น้อยและได้รับผลกระทบโดยตรง จากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ยังอยู่ในระดับที่สูง 


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงการคลังใช้งบประมาณ 2.6 พันล้านบาท มอบของขวัญปีใหม่ 2566 ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.2 ล้านคน ด้วยการเพิ่มเงินพิเศษ 200 บาท ระยะเวลา 1 เดือนว่า การบรรเทาภาระค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งครอบคลุมประชากร จำนวนกว่า 13 ล้านคน 

โดยเริ่มมีการให้สวัสดิการตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งแบ่งเป็นสวัสดิการหลัก ได้แก่ บรรเทาค่าครองชีพ (วงเงินสิทธิค่าอุปโภค/บริโภค: จำนวน 200 บาท/คน/เดือน จำนวนประมาณ 3.5 ล้านคน และ 300 บาท/คน/เดือน จำนวนประมาณ 9.7 ล้านคน) บรรเทาค่าเดินทาง ได้แก่ ค่ารถเมล์ รถไฟฟ้า (500 บาท/คน/เดือน) ค่า บขส. (500 บาท/คน/เดือน) ค่ารถไฟ(500 บาท/คน/เดือน) ค่าก๊าซหุงต้ม (45 บาท/คน/3 เดือน) ค่าประปา 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน ค่าไฟฟ้า 230 บาท/ครัวเรือน/เดือน และสวัสดิการอื่น ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายปลายปี 2561 จำนวน 500 บาท ค่าใช้จ่ายปลายปี 2562 สำหรับผู้สูงอายุเกิน 60 ปี จำนวน 500 บาท สำหรับผู้มีบุตร จำนวน 300 บาท สำหรับคนพิการ จำนวน 200 บาท ผ่านช่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) 


แม้ปัจจุบันสถานการณ์ความรุนแรงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายประเทศได้คลี่คลายลงตามลำดับ แต่ยังมีผลกระทบจากความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซียกับยูเครนและมาตรการคว่ำบาตรต่าง ๆ ที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลกยังคงมีความเสี่ยงจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดเพื่อลดแรงกดดันของปัญหาเงินเฟ้อในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา รวมทั้งปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย และทำให้ภาคส่วนต่างๆ ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประชากรที่มีความเปราะบางทางด้านรายได้ ทรัพย์สินและหนี้สิน ถึงแม้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นบ้าง แต่ยังไม่เพียงพอกับรายจ่ายที่เพิ่มสูง และส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนกลุ่มดังกล่าว 

ทั้งนี้ คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม จึงได้มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเงินพิเศษแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือนมกราคม 2566 เป็นการชั่วคราวในระยะสั้น โดยช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นและร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรฯ) เพิ่มเติมจากเดิมอีกจำนวน 200 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 1 เดือน ในเดือนมกราคม 2566 (1) โดยผู้มีบัตรฯ ที่เดิมได้รับวงเงิน 200 บาท/คน/เดือน จะได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมเป็น 400 บาท/คน/เดือน (2) ผู้มีบัตรฯ ที่เดิมได้รับวงเงิน 300 บาท/คน/เดือน จะได้รับเพิ่มอีก 200 บาทรวมเป็น 500 บาท/คน/เดือน

“จะเห็นได้ว่ามาตรการช่วยเหลือเงินพิเศษฯ ของรัฐบาล มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนกว่า 13 ล้านคน เป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อย และได้รับผลกระทบโดยตรงจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ยังอยู่ในระดับที่สูง ประกอบกับราคาพลังงานที่ยังคงมีแนวโน้มอยู่ในระดับที่สูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อต้นทุนราคาสินค้าที่สูงขึ้น ทำให้มีผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มีความจำเป็นในการดำรงชีพของผู้มีบัตรฯ และทำให้กำลังซื้อของผู้มีบัตรฯ ลดลง ซึ่งการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มดังกล่าวเป็นความห่วงใยของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งดูแลและช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มตามศักยภาพ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและงบประมาณที่มีอยู่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างแท้จริงและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ยึดหลัก อยู่รอด ปลอดภัย พอเพียง” นายอนุชาฯ กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งระดมสรรพกำลังแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5

นายกฯ ไม่นิ่งนอนใจปัญหา PM 2.5 วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากดาววอส สั่งการทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังแก้ปัญหา ทำทุกมาตรการให้เกิดผลโดยเร็ว

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่