ผู้บริหารเคทีซี ชี้หลายปัจจัยบวกช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้า

เดดซี 2 ม.ค.- ซีอีโอเคทีซี ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2566 มีหลายปัจจัยบวกช่วยกระตุ้นให้เติบโตได้ดี ทั้งกรณีจีนเปิดประเทศ ทำให้คาดจะมีนักท่องเที่ยวไหลเข้าไทยจำนวนมากและการจัดเลือกตั้งที่จะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ


นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเคทีซีหรือบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมา ประเทศไทยถือว่าวางตำแหน่งของตนเองได้อย่างถูกต้อง ด้วยการเปิดประเทศอย่างรวดเร็วก่อนหน้านี้ ทำให้การท่องเที่ยวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มาก นอกจากนี้กรณีที่จีนผ่อนคลายมาตรการโควิดและเปิดประเทศ จะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์ไปด้วย เนื่องจากประเทศไทยและจีนเป็นพันธมิตรและมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันมาตลอด ทำให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันในปี 2566 จะมีการเลือกตั้ง ส.ส.จะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ดีในปี 2566 รวมถึงการเปิดประเทศและการใช้จ่ายในกลุ่มต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นช่วงไตรมาส 4 ปี 2565 ช่วยทำให้ธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลช่วงปลายปีเติบโตได้ดี แม้ยังไม่เท่ากับปี 2562 แต่ก็เริ่มขยายตัวสูง และคาดว่าปี 2566 การใช้จ่ายในระบบจะยิ่งคึกคัก

สำหรับการดำเนินธุรกิจของเคทีซีในปี 2566 จะเน้นใน 3 ธุรกิจหลักคือ ธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อรถแลกเงิน (เคทีซีพี่เบิ้ม) โดยธุรกิจบัตรเครดิตจะเน้นกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง รายได้ 50,000 บาท/เดือน ขึ้นไปมากขึ้น ด้วยกลยุทธ์โปรโมชั่นกลุ่มร้านอาหาร ชอปปิ้งออนไลน์และท่องเที่ยวซึ่งกำลังเริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อรถแลกเงิน หลังจากเปิดประเทศความต้องการสินเชื่อก็เพิ่มขึ้นทั้งเพื่อการลงทุนและการใช้จ่าย จึงเป็นโอกาสขยายสินเชื่อดังกล่าว


ขณะที่ผลการดำเนินงานของเคทีซีในปี 2565 คาดว่ามีกำไรประมาณ 7,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทพยายามควบคุมคุณภาพลูกค้า โดยคัดกรองตั้งแต่เริ่มต้น การติดตามการชำระ หนี้ทำให้เคทีซีมีหนี้เสียต่ำกว่าหนี้เสียในตลาด อาทิ หนี้เสียบัตรเครดิตมีประมาณร้อยละ 1.2 ส่วนปี 2566 บริษัทเน้นการปรับตัวองค์กรใน 3 เรื่องสำคัญคือ เรื่องของการลงทุนด้านข้อมูลดาต้า การปรับปรุงด้านข้อมูลไอที ซอฟแวร์และการพัฒนาบุคลากร ส่งเสริมทักษะสำคัญที่สร้างความก้าวหน้าในหน้าที่การเงินและเป็นประโยชน์กับองค์กร โดยเคทีซีตั้งเป้าหมายใน 3 ปีข้างหน้าจะให้ผลการดำเนินงานของบริษัทมีกำไรระดับหมื่นล้านบาท. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งระดมสรรพกำลังแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5

นายกฯ ไม่นิ่งนอนใจปัญหา PM 2.5 วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากดาววอส สั่งการทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังแก้ปัญหา ทำทุกมาตรการให้เกิดผลโดยเร็ว

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่