อินทนิลฉลองครบ 1,000 สาขา ตั้งเป้าขยายร้านกาแฟสีเขียว 

กรุงเทพฯ 22 ธ.ค. -อินทนิลประกาศครบ 1,000 สาขาแล้วในเดือนธันวาคม 2565 พร้อมตั้งเป้าขยายสาขาต่อเนื่องผ่านเครือข่ายแฟรนไชส์ทั่วประเทศ ชูรูปแบบ “ร้านกาแฟสีเขียว” จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยนโยบายที่เป็นมิตรกับผู้คนและโลกใบนี้


นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ร้านกาแฟอินทนิลขยายสาขาครบ 1,000 สาขาแล้ว โดยความเติบโตของธุรกิจสร้างจากความผูกพันต่อแบรนด์ ทั้งของลูกค้า และ Value Chain ในการร่วมกันสร้าง Circular Economy 

ทั้งนี้อินทนิลทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า ได้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสังคมและโลกใบนี้ร่วมกัน อินทนิลใช้กาแฟคุณภาพจากอาราบิก้า 100% สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกออร์แกนิคอาราบิก้า มีกาแฟออร์แกนิคให้บริการทั้งเมนูปกติที่หน้าร้านรวมไปถึง Home Coffee อย่างกาแฟดริป การใช้ภาชนะที่ผลิตจากพืช 100% แก้ว Bioplastic ที่ย่อยสลายแบบCompostable และใช้ BioCup ในทุกเมนู ทุกสาขา ทั้งร้อน-เย็น-ปั่น ทั้งแก้ว-ฝา-หลอด จนเป็นร้านกาแฟที่ใช้Bioplastic มากที่สุด เป็นอันดับ 1 ของ ASEAN ต้นทุนเราแพงกว่า กำไรน้อยกว่าเมื่อเทียบกัน เหล่านี้ไม่ใช่การลงทุนเพื่อ CSR แต่คือ DNA ของบางจาก ที่เป็นธุรกิจพลังงานสีเขียว ร้านอินทนิลเป็นร้านกาแฟสีเขียว พร้อมขอบคุณ ผู้ประกอบการ (Franchise) ที่เชื่อมั่นในแนวคิดร้านกาแฟสีเขียวของอินทนิลตลอดมา 


ขณะนี้ความเชื่อของบางจากกับทิศทางของโลกเดินมาบรรจบกันแล้ว จึงมีความหวังกับคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับResponsibility ที่มีต่อโลก และถ้าทุกคนเชื่อในสิ่งเดียวกัน 1 แก้วของอินทนิล จะไม่ใช่แค่การดื่มกาแฟ แต่คือคุณค่าที่มากกว่า ของร้านกาแฟสีเขียว

นายวิษณุ วงศ์สุมิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันอินทนิลมีสาขานอกสถานีบริการน้ำมันแล้วมากกว่า 40% ซึ่งตั้งเป้าหมายจะเพิ่มเป็น 50% ในเร็วๆ นี้ ใน 1,000 สาขานั้น เป็นสาขาที่บริหารโดยบริษัทอยู่เพียง 25% ส่วนที่เหลืออีก 75% เป็นสาขาที่ดำเนินการโดยผู้ประกอบการ โดยบริษัทดูแลผู้ประกอบการทั้งรายใหม่และรายเดิมอย่างทั่วถึง

แผนการประกอบธุริกิจของอินทนิลคือ การส่งมอบประสบการณ์ความสุข ผ่าน Inthanin Experience ทั้งกาแฟคุณภาพจาก  อาราบิก้า 100% โกโก้เกรดพรีเมี่ยม ที่เข้มข้นจนเป็นที่ 1 ในใจมหาชน รวมถึงเครื่องดื่มสุขภาพที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย ทั้งสูตร Low Calories สูตรหวานน้อย สูตร Plant Based รูปแบบร้านที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์การบริการที่ดีจากบาริสต้า และการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในรูปแบบต่างๆ รวมถึงความมุ่งมั่นในการเป็นร้านกาแฟสีเขียว 


ทั้งนี้ การเติบโตของธุรกิจอินทนิล ยังเป็นการเพิ่มโอกาส สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก หรือกลุ่มSME ให้สามารถมีช่องทางในการดำเนินธุรกิจร้านกาแฟ ผ่านโครงข่ายแฟรนไชส์ที่มีการบริหารงานอย่างมืออาชีพ รวมถึงเพิ่มโอกาส ในการจ้างงานบาริสต้า หรือพนักงานประจำสาขาอีกด้วย

ร้านอินทนิล ก่อตั้งในปี 2549 บริหารโดย บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ในกลุ่มบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ปัจจุบันมีสาขารวมมากกว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็น สาขาในสถานีบริการน้ำมันบางจากประมาณ600 สาขา สาขานอกสถานีบริการน้ำมันบางจากอีกประมาณ 400 สาขา และแบ่งเป็น สาขาของบริษัทประมาณ 250 สาขา สาขาที่ดำเนินการโดยผู้ประกอบการ (Franchise) อีกประมาณ 750 สาขา 

รูปแบบการให้บริการมีทั้งให้บริการหน้าร้านผ่านสาขาเครือข่ายและบริการออนไลน์ ผ่าน Food Delivery ทั้ง 7 แอปพลิเคชั่น โดยอินทนิลเป็นร้านกาแฟรายเดียวที่ได้รับรางวัลจาก Food Delivery 3 เวที ได้แก่ Best Coffee จาก GET Awards 2019, Best Operation จาก GrabFood Awards 2020 และ รางวัลร้านกาแฟยอดนิยม จาก Robinhood Academy Awards 2022 นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของ รางวัลสุดยอดแบรนด์แห่งปี Superbrands Thailand 2021 และ2022

นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ในการขับเคลื่อนโครงการ “หวานน้อยสั่งได้ และ หวานน้อยร้อยละ5” ของกรมอนามัย รวมถึงโครงการ “ร้านกาแฟสีเขียว” ของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยในปี 2563 อินทนิลได้รับ รางวัลบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Thai Star Packaging Awards (ECO Package)จากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมซึ่งข้อมูล ณ ปี 2563 บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด คือผู้ใช้แก้วพลาสติกชีวภาพ ที่ย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ด้วยแนวความคิดที่ว่า “เพราะ 1 แก้วของอินทนิล ไม่ใช่แค่การดื่มกาแฟ แต่คือการบริโภคด้วยจิตสำนึกที่ดีและร่วมรับผิดชอบโลกใบนี้ไปพร้อมกัน, Inthanin Natural Cup อินทนิลทุกแก้วของคุณ เพื่อโลกของเราทุกคน” 

ในการฉลอง 1,000 สาขา อินทนิลได้เตรียมกระเป๋าผ้า BLOOM Bag มูลค่า 99 บาท จำนวน 50,000 ใบ สำหรับมอบให้ลูกค้าที่ซื้อเครื่องดื่มอินทนิลเมนูใดก็ได้ 2 แก้ว เฉพาะวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ที่ร้านอินทนิลทุกสาขาทั่วประเทศรายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้ที่ www.facebook.com/inthanincoffee .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”