กรุงเทพฯ 16 ธ.ค. – “TAKUNI” ปรับโครงสร้างชุดใหญ่ดึง “ชาติชาย ยุหนาวีชัย” นั่งประธานบอร์ด พร้อมพลิกโฉมธุรกิจใหม่ ลุยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทั้งไทยและต่างประเทศ ปักธงบุกตลาดไต้หวันเริ่มจำหน่ายต้นปีหน้า ตั้งเป้ายอดขาย5 พันคัน พร้อมจับมือพันธมิตร ลุยตลาดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สถานีชาร์จในไทยและมาเลเซีย
นางสาวนิตา ตรีวีรานุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริษัทใหม่ โดยแต่งตั้งนายชาติชาย พยุหนาวีชัย เป็นประธานกรรมการบริษัทและเป็นประธานกรรมการบริหาร เพื่อรองรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ที่มีการปรับเปลี่ยนไปสู่ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เนื่องจากทุกประเทศหันมาให้ความสนใจในพลังงานสะอาดมากขึ้น มีเป้าหมายปรับเปลี่ยนการใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมัน มาเป็นรถที่ใช้ไฟฟ้าเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาโลกร้อน และที่สำคัญรถไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าใช้น้ำมัน ทำให้รัฐบาลของแต่ละประเทศมีการสนับสนุนค่าใช้จ่าย เช่น ในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไต้หวัน
“ปัจจุบันไทยมีจำนวนมอเตอร์ไซค์รวมกันราว 25 ล้านคัน หากอีก 10 ปีข้างหน้า มีการปรับเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าเฉลี่ยปีละ 2.5 ล้านคัน จะทำให้มีส่วนแบ่งตลาด 5-10% เท่ากับมียอดขายถึง 1.5-2.5 แสนคัน เช่นเดียวกับในประเทศมาเลเซีย ที่ปัจจุบันมีรถมอเตอร์ไซค์จำนวนมาก และไต้หวันก็มีถึง 4 แสนคันที่ต้องปรับเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า รวมถึงอินโดนีเซียที่มีจำนวนรถมอเตอร์ไซค์มหาศาลด้วย” นางสาวนิตากล่าว
ล่าสุด บริษัทได้ร่วมลงทุนและถือหุ้น 40% ในบริษัทอี้หาวมอเตอร์ (Yihao motor) บริษัทชั้นนำของไต้หวัน และได้partner กับบริษัท Ritek ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน เพื่อพัฒนาและผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่ ที่สามารถยกออกจากรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อนำไปชาร์จกับไฟฟ้าภายในบ้านได้ โดยวางแผนผลิตและออกจำหน่ายในไต้หวันภายในไตรมาส 1ของปีหน้า ขณะนี้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของบริษัทได้ผ่านการทดสอบ และได้รับอนุญาตจากรัฐบาลไต้หวันให้สามารถขอป้ายทะเบียนรถ เพื่อให้วิ่งบนถนนได้ คาดว่าจะสามารถขายได้ประมาณ 50,000 คัน ภายในปี 2568 จุดเด่นของทาคูนิคือแบตเตอรี่ ที่สามารถถอดออกไปชาร์ตไฟในบ้านได้ เป็นการช่วยแก้ปัญหาในการหาที่ชาร์ตไฟ เนื่องจากคนขับมอเตอร์ไซค์ที่ไต้หวันส่วนใหญ่จะอาศัยในอพาร์ตเมนต์ ซึ่งในไต้หวันมีบริษัทผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าถึง 8 บริษัท คู่แข่งรายอื่นๆ แก้ปัญหาโดยการตั้งสถานีสลับแบตเตอรี่ ซึ่งต้องเสียค่าไฟฟ้าให้กับบริษัทคู่แข่งเกือบเทียบเท่าค่าน้ำมัน แต่ถ้าลูกค้าดึงแบตเตอรี่ไปชาร์ตเองที่บ้าน จะประหยัดได้ถึง 10 เท่าของค่าน้ำมัน
นางสาวนิตา กล่าวอีกว่า สำหรับในประเทศไทย บริษัททาคูนิ จะเป็นผู้นำเข้าชิ้นส่วนสำคัญจากไต้หวันเพื่อมาประกอบรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยจะมีการร่วมมือกับพันธมิตร (partner)ที่เป็นโรงงานประกอบรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำของไทยนอกจากนี้ บริษัท ทาคุนิ ยังได้เซ็นสัญญาร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัท Sersol บริษัทชั้นนำในตลาดหลักหลักทรัพย์ประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อร่วมทุนในการพัฒนาและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และสถานีชาร์ตไฟฟ้าในประเทศไทยและมาเลเซีย โดยจะจัดตั้งบริษัท บริษัท Sersol Takuni (M) ในประเทศมาเลเซีย บริษัททาคูนิ ถือหุ้น 49% และ บริษัท Sersol ถือหุ้น 51% และตั้ง บริษัท Sersol Takuni (Thailand) ในประเทศไทยบริษัท ทาคูนิ ถือหุ้น 51% บริษัท Sersol ถือหุ้น 49% ซึ่งคาดว่ากระบวนการจัดตั้งบริษัทจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้ และสามารถเริ่มดำเนินงานได้ในต้นปี 2566.-สำนักข่าวไทย