คปภ. เติมภูมิคุ้มกันให้ SMEs

จ.ภูเก็ต 16 ธ.ค.- คปภ. เติมเพิ่มภูมิคุ้มกันความเสี่ยงให้SMEs นำร่องจังหวัดภูเก็ตเพื่อสร้างเกราะให้SMEs  ใช้ประโยชน์จากประกันภัยเพื่อการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน


นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดการสัมมนาในหัวข้อ “ประกันภัยถูกทางสร้างเกราะให้ SMEs” เพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจด้านประกันภัยเชิงรุกให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจขนาดย่อม หรือ ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ได้เข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ความคุ้มครอง ตลอดจนข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันภัยประเภทต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้สอดคล้องกับความเสี่ยงของบุคคลหรือธุรกิจของตนเอง โดยมีการให้ความรู้ในหัวข้อ “การประกันภัยสำหรับธุรกิจ SMEs” ที่เกี่ยวกับหลักการประกันภัย ประเภทการประกันภัยที่จำเป็นต่อธุรกิจ การบริหารความเสี่ยงของธุรกิจด้วยการประกันภัย หลักการที่จำเป็นในการพิจารณาทำประกันภัย รวมถึงกรณีศึกษาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น 

เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามายังประเทศไทย เฉลี่ยปีละ 4- 5 ล้านคน ดังนั้นรายได้หลักของจังหวัดภูเก็ตจึงมาจากธุรกิจการท่องเที่ยว ทั้งธุรกิจ โรงแรม ร้านอาหาร บริษัทท่องเที่ยวและร้านขายของที่ระลึก นอกจากนี้รายได้ของจังหวัดยังมาจากการค้าส่งและค้าปลีกผลิตภัณฑ์ทางประมง อาทิ ฟาร์มเลี้ยงกุ้ง ฟาร์มเลี้ยงหอยมุก และการทำเกษตรกรรม โดยพืชพันธุ์หลัก ๆ ได้แก่ ยางพารา มะพร้าว มะม่วงหิมพานต์และสับปะรด 


ผู้ประกอบการ SMEs ในทุกประเภทธุรกิจต่างมีความเสี่ยงที่หลากหลายและแตกต่างกันไป ดังนั้น การบริหารความเสี่ยงด้วยการประกันภัยจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้กับผู้ประกอบการ SMEs ได้ใช้ในการรองรับความเสี่ยงภัยต่าง ๆ  ดังนั้นหากไม่บริหารความเสี่ยงให้ดีแล้วเกิดภัยขึ้นมาจะเกิดผลกระทบอย่างมาก สำหรับการทำประกันภัยแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทแรก กฎหมายกำหนดให้กิจกรรมนั้น ๆ ต้องมีการทำประกันภัยภาคบังคับไว้ มิเช่นนั้นจะเป็นความผิดตามกฎหมาย

เช่น ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์  กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวทุกรายต้องจัดให้มีประกันภัยสำหรับอุบัติเหตุให้แก่ นักท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยวในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้สนับสนุนให้มีการออกกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ โดยมีเงินเอาประกันภัยกรณีเสียชีวิตสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพ ไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาทต่อคน และกรณีบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 500,000 บาทต่อคนทั้งนี้หากผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวไม่จัดให้มีประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนดไว้จะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน500,000 บาท 

นอกจากนี้กฎหมายยังกำหนดให้ผู้ประกอบการ SMEs ประเภทหอพัก  ต้องจัดให้มีการประกันภัยเพื่อคุ้มครองชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของผู้พัก อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในหอพัก รวมทั้งคุ้มครองทรัพย์สินส่วนตัวของผู้พักอันเป็นผลมาจากสถานที่ประกันภัยเกิดไฟไหม้ ระเบิด และหากผู้ประกอบกิจการหอพักผู้ใดไม่ปฏิบัติต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท เป็นต้น


สำหรับการทำประกันภัยโดยสมัครใจที่นอกเหนือจากการประกันภัยภาคบังคับตามกฎหมายกำหนดให้ ผู้ประกอบการ SMEs ยังมีทางเลือกในการจัดหาประกันภัยเพื่อความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับกิจการของตนเองได้หลากหลายรูปแบบ คือ การประกันภัยทรัพย์สินซึ่งคุ้มครองความสูญเสียหรือเสียหายของทรัพย์สินที่เอาประกันภัยจากภัยต่าง ๆ เช่นไฟไหม้ ฟ้าผ่า ระเบิด ภัยธรรมชาติ ลมพายุ น้ำท่วมแผ่นดินไหว หรืออุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดหมาย รวมทั้งอาจเลือกการประกันภัยสำหรับความเสี่ยงต่อภัยใดภัยหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น ประกันอัคคีภัยที่ให้ความคุ้มครองหลักต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับวัตถุที่เอาประกันภัยจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า การระเบิดของแก๊สที่ใช้เพื่ออยู่อาศัย โดยอาจมีการเพิ่มเติมความคุ้มครองต่อภัยจากน้ำท่วม ลมพายุ หรือแผ่นดินไหว เป็นต้น 

“การประกอบกิจการของผู้ประกอบธุรกิจไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่หรือรายย่อมต้องเผชิญกับความเสี่ยง การประกันภัยจึงเป็นเรื่องใกล้ตัว ซึ่งหากทุกท่านได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยแล้ว ก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากการประกันภัยเพื่อบริหารความเสี่ยงให้กับธุรกิจของท่านและอาจรวมถึงตัวท่านและครอบครัวของท่านด้วย ทั้งนี้หากทำประกันภัยแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรม สำนักงาน คปภ. ก็มีหน่วยงานคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย ทั้งที่สำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก และสำนักงาน คปภ. ภาคทั้ง 9 ภาค และสำนักงาน คปภ.จังหวัดทั่วประเทศ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการบริการแต่อย่างใด ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการคปภ. กล่าวในตอนท้าย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.