สนพ. เผย 9 เดือน ยอดใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 3%

กรุงเทพฯ 9 ธ.ค.-สนพ.เผย 9 เดือนแรกของปี 2565 ยอดใช้พลังงานชั้นต้นเพิ่มร้อยละ3 จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มดีขึ้น รัฐผ่อนคลายมากขึ้น คาดทั้งปี 2565 การใช้พลังงานขยายตัวร้อยละ 3.2 และในปี 2566 จะมีการใช้พลังงาน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7


นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานหรือ สนพ. เปิดเผยว่า  9 เดือนแรกของปีนี้พบว่าการใช้พลังงานขั้นต้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น รวมถึงมีการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ที่มากขึ้น ทั้งนี้ในส่วนของการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.4 ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นในเกือบทุกประเภทพลังงาน โดยเฉพาะการใช้น้ำมันสำเร็จรูป ในส่วนของน้ำมันเครื่องบินมีการใช้เพิ่มขึ้นถึงร้อย 80.1 จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและบริการสำหรับการใช้ไฟฟ้ามีการใช้เพิ่มขึ้นในเกือบทุกสาขาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสาขาธุรกิจ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 จากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวและบริการ รวมทั้งการที่หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้บุคลากรกลับไปทำงานตามปกติ

ทั้งนี้ สถานการณ์พลังงานรายเชื้อเพลิงในช่วง 9 เดือนแรกของปี สรุปได้ดังนี้  การใช้น้ำมันสำเร็จรูป เพิ่มขึ้นร้อยละ16.1 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของการใช้น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเตา น้ำมันดีเซล LPG (ไม่รวมที่ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี) และน้ำมันเบนซิน โดยน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.5 อยู่ที่ระดับ 72 ล้านลิตรต่อวัน /น้ำมันเบนซินและเก๊สโซฮอล เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 อยู่ที่ระดับ 30 ล้านสิตรต่อวัน /การใช้น้ำมันเครื่องบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 80.1 อยู่ที่ระดับ 8 ล้านลิตรต่อวัน ด้านน้ำมันเตา เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.9 อยู่ที่ระดับ 6 ล้านลิตรต่อวัน โดยส่วนใหญ่เป็นการใช้ในภาคขนส่งและภาคอุตสาหกรรม ส่วนการใช้น้ำมันก๊าด ลดลงร้อยละ 8.1   


การใช้ LPG โพรเพน และบิวเทน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0 อยู่ที่ระดับ 18.2 พันตันต่อวัน โดยการใช้ LPG เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งมีสัดส่วนการใช้สูงสุดคิดเป็นร้อยละ 45 มีการใช้เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 รองลงมาคือภาคครัวเรือนซึ่งมีสัดส่วนการใช้ร้อยละ 31 มีการใช้เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ภาคขนส่งมีสัดส่วนร้อยละ 13 เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.8 ภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 10 มีการใช้เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 ในขณะที่การใช้เอง ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 1 มีการใช้ลดลงร้อยละ 44.8

ก๊าซธรรมชาติ และก๊าซโซลีนธรรมชาติ (NGL) ลดลงร้อยละ 5.3 อยู่ที่ระดับ 4,246 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยลดลงจากการใช้เป็นเชื้อเพลิงในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และการใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมร้อยละ 15.4 และ5.7 ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาก๊ชธรรมชาติที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะที่การใช้ในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 และการใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ (NGV) เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 

ส่วนการใช้ ถ่านหิน/ลิกไนต์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.9 อยู่ที่ระดับ 15,041 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (KTOE) จากการใช้ในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9 และการใช้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 ส่วนการใช้ลิกไนต์ ลดลงร้อยละ 1.4 ทั้งนี้ร้อยละ 95 ของการใช้ลิกไนต์เป็นการใช้ในการผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ส่วนที่เหลือร้อยละ 5 นำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม


ด้านการใช้ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 มีการใช้รวมทั้งสิ้น 149,972 กิกะวัตต์ชั่วโมง โดยการใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ ร้อยละ 45 อยู่ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีการใช้เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 จากเศรษฐกิจที่ขยายตัวมากขึ้นทำให้เกิดการผลิตสินค้าที่เพิ่มขึ้น รองลงมา คือ การใช้ไฟฟ้าในภาคธุรกิจ มีสัดส่วนร้อยละ 23 และมีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 ซึ่งมาจากการที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งนี้ความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดของระบบ 3การไฟฟ้าของปี 2565 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 เวลา 14:30 น. อยู่ที่ระดับ 33,177 เมกกะวัตต์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดในระบบ 3 การไฟฟ้าของปีก่อน

สำหรับแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานของประเทศปี 2565 คาดว่าจะความต้องการพลังงานขั้นต้นอยู่ที่ระดับ2,056 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับปี 2564 สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัว ทั้งนี้คาดการณ์ว่าตลอดทั้งปีนี่ จะมีการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเภท ยกเว้นก๊าซธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากการผลิตภายในประเทศที่ลดลง และผลกระทบจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างรัสเซียและยูเครน 

สำหรับการใช้น้ำมันคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.9 จากการขนส่ง น้ำมันเครื่องบิน การใช้ก๊าซธรรมชาติคาดว่าจะลดลงร้อยละ 9.1 การใช้ถ่านหิน/ลิกไนต์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 ส่วนการใช้ไฟฟ้าพลังน้ำและไฟฟ้านำเข้า คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7

ส่วนแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานของประเทศปี 2566 คาดว่าการใช้พลังงานยังเติบโต โดยคาดว่ามีการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 จากความต้องการเดินทางที่มีแนวโน้มกลับมาเป็นปกติมากขึ้นทั้งการเดินทางภายในประเทศและการเดินทางระหว่างประเทศ รวมทั้งการขยายตัวของการลงทุนทั้งการลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐ โดยการใช้น้ำมันคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 ก๊าซธรรมชาติคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ 1.8 การใช้ถ่านหิน/ลิกไนต์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 และการใช้ไฟฟ้าพลังน้ำและไฟฟ้านำเข้า คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 

อย่างไรก็ตามในส่วนของสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทย และแนวโน้มความต้องการพลังงานในปี 2566 ยังคงมีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ การชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศหลักที่จะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและภาคการส่งออก สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน และมาตรการZERO COVID-19 ของจีน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”