กรุงเทพฯ 2 ธ.ค.-บริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด หรือ HMC Polymers เดินหน้าเปิดสายการผลิตที่ 4 ของโรงงานโพลีโพรพิลีน ตอกย้ำเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มกำลังผลิต จากปัจจุบันอยู่ที่ 810,000 ตันต่อปีเป็น 1,060,000 ตันต่อปี
นายสิริเดช คุ้มวงศ์ดี ประธานบริษัทฯ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปี HMC Polymers ได้พัฒนาการทำงานทุกๆ มิติอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการเม็ดพลาสติก PP คุณภาพสูงของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุด คือ โครงการก่อสร้างสายการผลิตที่ 4 ซึ่งเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2563 และแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 และด้วยเทคโนโลยี Spherizone อันเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของบริษัทLyondellBasell ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ฯ ทำให้เม็ดพลาสติก PP จากสายการผลิตที่ 4 นี้ เป็นเม็ดพลาสติก PP เกรดพิเศษ (Specialty) และเกรดคุณภาพสูง (Differentiated) แตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่น ๆ ในตลาด
ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวจึง ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ปลายทางได้มากมาย เช่น กลุ่มการแพทย์และสุขอนามัย : สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันของโลกที่ให้ความสำคัญในการยกระดับคุณภาพของการใช้ชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อและการเกิดขึ้นของโรคอุบัติใหม่ , กลุ่มบรรจุภัณฑ์ทั้งแบบแข็งและแบบยืดหยุ่น : ตอบสนองความต้องการของลูกค้า หรือผู้ใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามยุคสมัย ผ่านดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างจากพลาสติกชนิดอื่น ๆ และ กลุ่มชิ้นส่วนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ : ช่วยขับเคลื่อนให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยเติบโตและพัฒนาทัดเทียมนานาอารยประเทศ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการก่อสร้างหอเผาระดับพื้น (Ground Flare) เพื่อลดมลพิษจากการเผาไหม้ที่หอเผาสูง (Elevated Flare) ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ควบคุมควันดำได้เป็นอย่างดี รวมถึงลดเสียงและแสง โดยเป้าหมายต่อไปของบริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ฯ คือ “โครงการ Zero Flare” เพื่อลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศโลกด้วย .-สำนักข่าวไทย