กรุงไทย 8 พ.ย. – ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ชี้แนวโน้มผลิตภัณฑ์จากแมลงเติบโตเร็วและแรง มูลค่าแตะหมื่นล้านบาท ตามเทรนด์โลกที่ให้ความสำคัญเรื่องความมั่นคงทางอาหาร สร้างโอกาส
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าขณะนี้ทั่วโลกให้ความสำคัญกับโมเดลเศรษฐกิจใหม่ เน้นการพัฒนาที่ยั่งยืน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นอาหาร ประกอบกับวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ปลุกความกังวลในเรื่องความมั่นคงด้านอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยเร่งให้อุตสาหกรรมอาหารให้ความสนใจกับอาหารและสารอาหารทางเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารประเภทโปรตีน ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์จากแมลงได้รับความสนใจยิ่งขึ้น
“ตลาดมีปัจจัยหนุนและมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใส่ใจต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทำให้มีแนวโน้มหันมาบริโภคแมลง ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีน แร่ธาตุและวิตามินนานาชนิดมากขึ้น อีกทั้งกระบวนการเลี้ยงแมลงยังก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าการเลี้ยงวัว สุกร หรือไก่” นายพชรพจน์ กล่าว
ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS คาด ตลาดผลิตภัณฑ์จากแมลงของโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2573 จากเดิมที่มีมูลค่าประมาณ 343 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2564 สำหรับประเทศไทย คาดว่า ในปี 2573 มูลค่าส่งออกผลิตภัณฑ์จากแมลงมีโอกาสจะสูงถึง 1.1 หมื่นล้านบาท หรือราว 10% จากส่วนแบ่งตลาดโลก ส่วนตลาดในประเทศมีศักยภาพที่จะเติบโตไปอยู่ที่ราว 3.9 พันล้านบาท จากเดิมที่มีมูลค่าราว 620 ล้านบาท ในปี 2564
ผลิตภัณฑ์จากแมลงที่คาดว่าจะเติบโตดี ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากแมลงที่ผ่านการแปรรูปแล้วเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ผงโปรตีน โปรตีนบาร์ รวมถึงสารสกัดจากแมลงที่ใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารเสริม ยาและเครื่องสำอาง หากผู้ประกอบการไทยลงทุนต่อยอดไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์ในรูปแบบผงที่สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องได้หลากหลายจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูงขึ้น 3-4 เท่าเมื่อเทียบกับรูปแบบดั้งเดิมในกลุ่มแมลงสดหรือแมลงอบแห้ง และหากผลิตเป็นสารสกัดเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยาและเครื่องสำอาง จะสร้างมูลค่าเพิ่มได้ราว 10-11 เท่า
ผู้ประกอบการที่ต้องการประสบความสำเร็จในตลาดนี้ ควรเน้นการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาหาร อาหารสัตว์ และธุรกิจการแพทย์ที่มีแนวโน้มเติบโต ประกอบกับควรมีแหล่งวัตถุดิบที่เพียงพอ และสร้างการรับรู้ถึงคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นควรศึกษากฎระเบียบและมาตรฐานส่งออกของประเทศคู่ค้า สิ่งสำคัญคือ การสร้างความร่วมมือกันทั้ง Ecosystem ตั้งแต่ฟาร์มเพาะเลี้ยงแมลง โรงงานแปรรูป รวมถึงหน่วยงานภาครัฐที่ให้การรับรองมาตรฐานและให้คำปรึกษาด้านมาตรฐานอาหาร หน่วยงานวิจัย จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตอย่างยั่งยืน .-สำนักข่าวไทย