เพชรบุรี 6 พ.ย.- คปภ. เร่งสางปัญหาสินมั่นคงประกันภัย รอลุ้นที่ประชุมเจ้าหนี้เห็นชอบแผนฟื้นฟฟูกิจการ หาช่องทางจ่ายเคลม เจอ จ่าย จบ
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ สำนักงาน คปภ. กล่าวว่า แนวทางการคุ้มครองประชาชนผู้เอาประกันภัย กรณีบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หลังจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย ฟื้นฟูกิจการและตั้งบริษัทเป็นผู้ทำแผน เพื่อกำกับดูแลในระหว่างกระบวนการฟื้นฟูกิจการ คปภ. ได้มีคำสั่งโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 52 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย สั่งให้บริษัท สินมั่นคงประกันภัย แก้ไขฐานะและการดำเนินการของบริษัท ซึ่งการออกคำสั่งนายทะเบียนนี้จะช่วยให้สำนักงาน คปภ. สามารถติดตามการแก้ไขฐานะทางการเงิน การดำเนินงานของบริษัท พร้อมทั้งคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนได้เต็มที่ โดยกำหนดให้บริษัทต้องรายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้สำนักงาน คปภ. ทราบทุก 7 วัน
สำหรับขั้นตอนกระบวนการฟื้นฟูกิจการ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย ภายหลังที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้บริษัทฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผน ส่งแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ภายใน 3 เดือน ช้าที่สุดไม่เกิน 20 พฤษภาคม 2566 จากนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะส่งแผนฟื้นฟูกิจการให้เจ้าหนี้ ไม่เกินเดือนมิถุนายน 2566 จากนั้นจะนัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาลงมติออกเสียงในแผนฟื้นฟูกิจการ (ประมาณ 2 เดือนนับจากวันที่ได้รับแผน)
กรณีที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติไม่รับแผน ศาลจะพิจารณาเป็นการด่วนก่อนมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ กรณีที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติรับแผน ศาลพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าวเพื่อมีคำสั่งเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบด้วยแผน หากศาลเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการ จะดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ ไม่เกิน 5 ปี ขยายได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละ 1 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่กำหนดในแผน หากดำเนินการตามแผนแล้วเสร็จ ศาลจะมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ
ในระหว่างนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ประสานงานกับกรมบังคับคดีเกี่ยวกับแนวทางการดูแลประชาชนผู้เอาประกันภัย ซึ่งการแก้ไขฐานะการเงินของบริษัทคาดว่าจะมีความชัดเจนเมื่อบริษัทส่งแผนการฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ภายใต้ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และในระหว่างนี้บริษัทยังคงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ ศาลล้มละลายกลาง กรมบังคับคดี โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และสำนักงาน คปภ. ตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย
ปัญหากรณีประกันภัยโควิด-19 แบบ เจอ จ่าย จบ สำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นของธุรกิจประกันภัยให้กลับคืนมาโดยเร็ว โดยมีการเร่งปรับปรุงกลไกในการกำกับดูแลแบบ proactive actions และบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนภารกิจเร่งด่วนดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังได้คำนึงถึงการป้องกันปัญหาเช่นเดียวกับกรณีประกันภัยโควิด-19 แบบ เจอ จ่าย จบ ไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยมีแผนดำเนินการ ดังนี้
การออกคำสั่งนายทะเบียนเพื่อตีความเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย ในข้อที่เกี่ยวกับการบอกเลิกสัญญาประกันภัยให้ชัดเจนและสอดคล้องกับพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม 2540 เพื่อเป็นการอุดช่องว่างและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากประกันภัยโควิด-19 ที่ผ่านมา ซึ่งมีบริษัทประกันภัยบางแห่งนำเงื่อนไขไปใช้หรือตีความถ้อยคำที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมาย จนนำไปสู่ปัญหาการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 ทั้งนี้ เงื่อนไขการบอกเลิกสัญญาที่ปรากฏอยู่ในกรมธรรม์ประกันภัย เป็นเงื่อนไขที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่การนำเงื่อนไขไปใช้ต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมและการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหลักความสุจริตประกอบด้วย
ยืนยันว่า ในเงื่อนไขไม่ได้อนุญาตให้บริษัทประกันภัยสามารถบอกเลิกสัญญาได้ตามอำเภอใจแบบเหมาเข่ง เพราะประชาชนผู้เอาประกันภัยไม่ได้เป็นฝ่ายผิดเงื่อนไข ขณะที่ พ.ร.บ.ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 ได้บัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า ต้องตีความในทางที่เป็นคุณแก่ผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็นผู้บริโภค ดังนั้น บริษัทจึงไม่อาจใช้หรือตีความเงื่อนไขดังกล่าวในทางที่เป็นโทษแก่ผู้เอาประกันภัยได้.- สำนักข่าวไทย