กมธ.ไอซีที คุมเข้ม การซื้อขายทางออนไลน์

รัฐสภา 3 พ.ย.- กมธ.ไอซีที จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ปัญหาหลอกลวงซื้อขายทางออนไลน์ หนุนสร้างแอปฯ กลาง ลดความซ้ำซ้อน คุมเข้มสัญญาณมือถือตามแนวชายแดน แนะตั้งคณะกรรมการระดับชาติดูแลเข้ม


พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการ เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา เพื่อพิจารณาความคืบหน้า การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” หลังจากผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงาน กสทช. เข้าร่วมชี้แจง พบว่า ประชาชนได้ร้องเรียนผ่านศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ พบว่าเรื่องซื้อขายออนไลน์ ตุลาคม 2565 มีจำนวน 48,474 ครั้ง (เฉลี่ย 5,069 ครั้ง/เดือน) พบบ่อย คือ เป็นปัญหาการซื้อขายทางออนไลน์ ได้แก่ การหลอกโอนเงิน ไม่ส่งสินค้าจริงและได้รับสินค้าไม่ตรงตามข้อตกลง ไม่ได้ตามที่โฆษณา หากประชาชนมีความสงสัยหรือได้รับความเสียหายจากการถูกมิจฉาชีพหลอกลวง

คณะกรรมาธิการมีความเห็นว่า แม้หลายหน่วยงานของรัฐ ร่วมแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แต่ยังไม่มีความคืบหน้าหรือมีผลสัมฤทธิ์เท่าที่ควร ยังพบว่าในแต่ละวันยังมีประชาชนจำนวนมาก ตกเป็นเหยื่อ จากการหลวกลวงดังกล่าว กมธ.ไอซีที จึงขอเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว  ดังนี้


  1. ควรพัฒนากระบวนการ รับเรื่องร้องเรียน เพื่ออำนวยความสะดวกในการแจ้งเรื่องราวต่างๆ ของประชาชน เช่น การสร้าง Application กลางที่มีลักษณะเป็นศูนย์รับแจ้งเรื่องราวเกี่ยวกับอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีทั้งหมดแบบ One Stop Service เพื่อความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ได้รับเดือดร้อนเสียหาย  
  2. ควรแก้ไขปัญหาความแรงของสัญญาณโทรศัพท์มือถือตามเขตชายแดนที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้มิจฉาชีพสามารถใช้โทรศัพท์มือถือโทรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาก่อเหตุหลอกลวง หรือกระทำความผิดในประเทศ ไทย ควรปรับระดับลดความแรงของสัญญาณโทรศัพท์หรือปรับหันทิศทางของเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ 
  3. กสทช. ควรติดตามตรวจสอบและกำกับดูแลอย่างเข้มงวดให้ตัวแทนจำหน่ายซึ่งขายซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือต้องลงทะเบียนผู้ใช้บริการก่อนเปิดใช้งานทุกครั้ง และควรมีมาตรการลงโทษตัวแทนจำหน่ายอย่างจริงจังในกรณีที่ตัวแทนจำหน่ายดำเนินการลงทะเบียนใช้งานแทนผู้ใช้งานที่แท้จริง
  4. ควรมีนโยบายในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ชัดเจนเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน เช่น การจัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี การบูรณาการในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือการเพิ่มบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้หลายหน่วยงาน  ทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เหมือนศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบค.) ที่เคยประสบความสำเร็จในการดำเนินการเกี่ยวกับ Covid 19 มาแล้ว

สามารถแจ้งเรื่องราวร้องเรียนไปยังสายด่วน ของหน่วยงานต่าง ๆ ใน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่

  • ศูนย์ Call Center ของผู้ให้บริการแต่ละรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น AIS 1175   DTAC 1675  TRUE 02  700 8085  โดยภายหลังการรับเรื่องหรือตรวจสอบแล้ว ผู้ให้บริการจะมีการแจ้งผลให้แก่ผู้แจ้งด้วย
  • หมายเลข 1212 ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  รับแจ้งเรื่องราวทั้งเรื่องการหลอกลวง การละเมิดลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ตลอด 24  ชั่วโมง 
  • หมายเลข 1200 ของสำนักงาน กสทช. ซึ่งจะรับเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับโทรคมนาคมเป็นหลัก เฉพาะในวัน เวลาราชการ. -สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

KNLA เข้าโจมตีทั้งกลางวัน-กลางคืน เสียงระเบิดดังถึง อ.ท่าสองยาง

เสียงระเบิดดังสนั่นชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ยังระอุ กกล. KNLA เข้าโจมตี ทั้งกลางวันและกลางคืน เสียงระเบิดดังถึง อ.ท่าสองยาง

ไฟไหม้โรงงานยาง วอดเกือบหมด

ระทึกกลางดึก ไฟไหม้โรงงานยาง ในพื้นที่เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี พนักงานกว่า 50 ชีวิต วิ่งหนีออกมาได้ทัน ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน

รวบผู้ช่วยทันตแพทย์ ลักทอง 16 บาท ในหมู่บ้าน

รวบสาวแสบผู้ช่วยทันตแพทย์ ย่องเข้าบ้านพัก ย่านนนทบุรี ลักทอง 16 บาท มูลค่ากว่า 8 แสนบาท เอาเงินไปใช้หนี้และวิ่งเต้นคดีความ สอบประวัติ พบก่อเหตุในคดีลักทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง