ทำเนียบฯ 1 พ.ย.- ครม.ปลดล็อกการต้มเหล้า ยกเลิกทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เปิดทางรายย่อยเอสเอ็มอี ทำน้ำตาลเมา เบียร์ ไวน์ คุมเข้มคุณภาพ มาตรฐาน
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของผู้ขอใบอนุญาตผลิตสุรา ดังนี้
1.การปรับปรุงคุณสมบัติของผู้ขอใบอนุญาตผลิต “กรณีสุราแช่” เช่น น้ำตาลเมา อุ เบียร์ ไวน์ สปาร์กลิ้งไวน์ และสุราแช่พี้นเมือง ยกเลิกการกำหนดทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สำหรับการผลิตเบียร์ ยังต้องจัดตั้งบริษัทตามกฏหมายไทย และมีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 51
ในส่วนของ “กรณีสุรากลั่น” เช่น สุราขาว ยังเพิ่มโรงงานอุตสาหกรรมสุรากลั่นขนาดกลาง ที่ใช้เครื่องจักรไม่เกิน50 แรงม้า หรือใช้คนงานน้อยกว่า 50 คน จากเดิมกำหนดขนาดเครื่องจักร ไม่เกิน 5 แรงม้าหรีอใช้คนงานน้อยกว่า7 คน หรีอโรงงานไซร์ “S” โดยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ เพื่อทำให้กำลังการผลิตและคุณภาพดีขึ้น
2.การยกเลิกการกำหนดกำลังการผลิตขั้นต่ำของโรงผลิตเบียร์ จากเดิม กำหนดกำลังการผลิตต้องไม่ต่ำกว่า 1 แสนลิตร/ปี แต่ไม่เกิน 1 ล้านลิตร/ปี เพิ่มเป็นการใช้เครื่องจักรอุปกรณ์การผลิต เบียร์ มีมาตรฐานตามที่ อธิบดีกรมลรรพสามิตประกาศ แต่ยังให้คงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขกำลังการผลิตขั้นต่ำตามเดิม ในส่วนโรงอุตสาหกรรมผลิตสุรากลั่น ชนิดสุราพิเศษ เช่น วิสกี้ บรั่นดี และยิน ไม่ต่ำกว่า 30,000 ลิตร/วัน และโรงอุตสาหกรรมผลิตสุรากลั่นชนิดอื่นๆ เช่น สุรากลั่นชนิดสุราขาวและองค์การสุรา ไม่ต่ำกว่า 90,000 ลิตร/วัน รวมทั้งให้เพิ่มเติมให้เป็นไปตามกฏหมายว่าด้วยโรงงาน
กระทรวงการคลัง ยังเพิ่มเติมขั้นตอนและวิธีการในการขออนุญาต โดยให้สามารถยื่นคำขอรับใบอนุญาตผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้ หวังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันธุรกิจมากขึ้น แต่ยังคง หลักการสำคัญ เพื่อการบริหารการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสินค้าสุราอย่างมีประสิทธิภาพ ดูแลความปลอดภัยต่อการบริโภค รวมไปถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิตสุรา.-สำนักข่าวไทย
