ยอดนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย ต.ค.65 พุ่ง

กรุงเทพฯ 1 พ.ย. -“ศักดิ์สยาม” ปลื้มนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย ยอดเดินทางระหว่างประเทศขาเข้าพุ่งสูงร้อยละ 157.63 ในเดือนตุลาคม 2565 เมื่อเปรียบเทียบกับ 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2565


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานถึงปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารในระบบขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ ประจำปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2565 เปรียบเทียบกับปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารในระบบขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ เดือนมกราคม-กันยายน 2565 โดยประมวลผลข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ในภาพรวมพบว่า เดือนตุลาคม 2565 มีปริมาณผู้โดยสารทั้งเข้า-ออก ประเทศในทุกมิติการขนส่งรวม 3,159,609 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2565 ร้อยละ 43.55 โดยเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยเดือนมกราคม-กันยายน 2565 ร้อยละ 151.36 ซึ่งเป็นผู้โดยสารขาเข้า จำนวน 1,622,465 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยเดือนมกราคม-กันยายน 2565 ซึ่งมีปริมาณผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยเดือนละ 629,772 คน คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 157.63 

โดยเมื่อพิจารณาสัดส่วนการเดินทาง (ขาเข้า) ตามรูปแบบการเดินทางในเดือนตุลาคม 2565 พบว่า ทางอากาศ มีสัดส่วนการเดินทางสูงสุด คิดเป็นร้อยละ 96.36 รองลงมา คือ ทางน้ำ ทางถนน และทางราง คิดเป็นร้อยละ 2.05 ร้อยละ 0.92 และร้อยละ 0.67 ตามลำดับ และเมื่อสรุปปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารในระบบขนส่งสาธารณะ แบ่งเป็นรายละเอียด คือ 


1. ทางถนน มีปริมาณผู้โดยสารเดือนตุลาคม 2565 รวม 41,676 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยเดือนมิถุนายน-กันยายน 2565 ซึ่งมีผู้โดยสารเฉลี่ยเดือนละ 38,125 คน คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.31 ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า (กันยายน 2565) ซึ่งมีผู้โดยสาร 41,977 คน พบว่า มีจำนวนผู้โดยสารลดลงเล็กน้อย คิดเป็นร้อยละ 0.72 เมื่อพิจารณาสัดส่วนการเดินทางขาเข้าและขาออกประเทศในเดือนตุลาคม พบว่า มีผู้โดยสารขาเข้า 14,971 คน (ร้อยละ 36) และมีผู้โดยสารขาออก 26,705 คน (ร้อยละ 64)

2. ทางน้ำ มีปริมาณผู้โดยสารเดือนตุลาคม 2565 รวม 63,876 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยเดือนมกราคม-กันยายน 2565 ซึ่งมีผู้โดยสารเฉลี่ยเดือนละ 5,970 คน คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 969.95 ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า (กันยายน 2565) ซึ่งมีผู้โดยสาร 16,131 คน พบว่า มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 295.98 เมื่อพิจารณาสัดส่วนการเดินทางขาเข้าและขาออกประเทศในเดือนตุลาคม พบว่า มีผู้โดยสารขาเข้า 33,293 คน (ร้อยละ 52) และมีผู้โดยสารขาออก 30,583 คน (ร้อยละ 48) และเมื่อพิจารณาสัดส่วนการเดินทางขาเข้าระหว่างท่าเรือชายแดนและเรือยอชท์ พบว่า มีผู้โดยสารเดินทางผ่านท่าเรือชายแดน 61,578 คน (ร้อยละ 99) และมีปริมาณการเดินทางด้วยเรือยอชท์ 222 คน (ร้อยละ 1)

3. ทางราง มีปริมาณผู้โดยสารเดือนตุลาคม 2565 รวม 22,086 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยเดือนสิงหาคม-กันยายน 2565 ซึ่งมีผู้โดยสารเฉลี่ยเดือนละ 15,524 คน คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.27 ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า (กันยายน 2565) ซึ่งมีผู้โดยสาร 17,633 คน พบว่า มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 25.25 เมื่อพิจารณาสัดส่วนการเดินทางขาเข้าและขาออกประเทศในเดือนตุลาคม พบว่า มีผู้โดยสารขาเข้า 10,938 คน และมีผู้โดยสารขาออก 11,148 คน ซึ่งมีสัดส่วนการเดินทางที่ใกล้เคียงกัน คิดเป็น 1:1


4. ทางอากาศ มีปริมาณผู้โดยสาร เดือนตุลาคม 2565 รวม 3,031,971 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยเดือนมกราคม-กันยายน 2565 ซึ่งมีผู้โดยสารเฉลี่ยเดือนละ 1,229,399 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 146.62 ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า (กันยายน 2565) ซึ่งมีผู้โดยสาร 2,125,255 คน พบว่า มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 906,716 คน คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.66 โดยในเดือนตุลาคม เป็นการเดินทางขาเข้าประเทศ จำนวน 1,563,263 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยเดือนมกราคม-กันยายน 2565 ซึ่งมีผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยเดือนละ 617,672 คน คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 153.09 เมื่อพิจารณาสัดส่วนการเดินทางรายท่าอากาศยาน ในเดือนตุลาคม 2565 พบว่า มีปริมาณการเดินทางผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 2,261,094 คน คิดเป็นร้อยละ 75 มีปริมาณการเดินทางผ่านท่าอากาศยานดอนเมือง 421,707 คน คิดเป็นร้อยละ 14 และมีปริมาณการเดินทางผ่านท่าอากาศยานภูมิภาค 349,170 คน คิดเป็นร้อยละ 11.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย