กรุงเทพฯ 20 ต.ค.- “ศักดิ์สยาม” นั่งหัวโต๊ะ ติดตามงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง เผย รฟท. อยู่ระหว่างเร่งเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ ภายหลังได้รับพระราชทานชื่อ “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” และได้สั่งการ ให้เร่งนำรถเมล์ไฟฟ้า เข้ามาให้บริการเชื่อมต่อการเดินทางสู่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อ ครั้งที่ 4/2565 เพื่อติดตามผลการดำเนินการรถไฟสายสีแดง เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการขนส่งทางราง โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หัวหน้าหน่วยงานและผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดยที่ประชุม ได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการ ภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อ โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) ว่า “นครวิถี” โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-รังสิต) ว่า “ธานีรัถยา” และสถานีกลางบางซื่อ ว่า “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” โดยปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งป้ายชื่อพระราชทานในบริเวณสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
ส่วนภาพรวมการ ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 จนถึงเดือนกันยายน 2565 พบว่ามีผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้น 3,983,493 คน (เฉลี่ยประมาณเดือนละ 331,958 คน) แบ่งเป็นสายเหนือ ช่วงสถานีกลางบางซื่อ – สถานีรังสิต 3,705,961 คน (เฉลี่ยประมาณเดือนละ 308,830 คน) และสายตะวันตก ช่วงสถานีกลางบางซื่อ – สถานีตลิ่งชัน 277,532 คน (เฉลี่ยประมาณเดือนละ 23,128 คน) โดยมีความตรงต่อเวลาและความน่าเชื่อถือในการให้บริการ ในสายเหนือและสายตะวันตกที่ร้อยละ 99.70 และ 99.90 ตามลำดับ
ในด้านการให้บริการบัตรโดยสาร ปัจจุบันบัตรโดยสาร EMV สามารถใช้กับระบบรถไฟฟ้าสายสีแดงได้แล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 และ รฟท. ยังได้มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่าง ๆ ของรถไฟฟ้าสายสีแดงและได้เปิดรับฟังความเห็นของประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงการให้บริการอย่างต่อเนื่อง
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้สั่งการให้เพิ่มประสิทธิภาพระบบเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดง (Feeder) โดยให้เร่งดำเนินการรถเมล์ไฟฟ้า เข้ามาให้บริการเชื่อมต่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และนำระบบตั๋วแบบแพกเกจมาใช้ในการให้บริการ และให้ รฟท. ดำเนินการป้องกันการโจรกรรมทรัพย์สินราชการในบริเวณสถานีอย่างเคร่งครัด และประชาสัมพันธ์การเปิดอุโมงค์เชื่อมเส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์กับถนนเทอดดำริให้ประชาชนรับทราบต่อไป รวมทั้งให้จัดทำแผนการดำเนินการปรับการเดินรถไฟทางไกลเข้ามาใช้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ พิจารณาผลกระทบทั้งด้านมลพิษ เสียง และความร้อนที่เกิดขึ้นในสถานี และการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย.-สำนักข่าวไทย