“สมคิด” แนะรับมือปัญหาเศรษฐกิจโลกทรุดปี 66

พัทลุง 12 ต.ค. – “สมคิด” แนะรับมือปัญหาเศรษฐกิจโลกปีหน้าทรุดหนัก หนุนแบงก์ชาติขยับดอกเบี้ยเพิ่ม หวั่นต้นทุนดูแลค่าเงินบาทพุ่ง


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวระหว่างการเปิดตัวผู้สมัครพรรคสร้างอนาคตไทย ในจังหวัดพัทลุง ว่า เศรษฐกิจปีหน้ามีปัญหาอย่างแน่นอน เพราะเศรษฐกิจโลกยังมีปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่สหรัฐยังดำเนินนโยบายเศรษฐกิจดูแลประเทศตนเอง ทุกฝ่ายจึงไม่ประมาท อยากให้รัฐบาลเตรียมตัวรองรับ ไม่ควรใช้ความขัดแย้งแก้ปัญหาในขณะนี้ ควรนำผู้เชี่ยวชาญมาช่วยแนะนำอย่างจริงใจ ก่อนจะมีการเลือกตั้งในต้นปีหน้า หากเศรษฐกิจทรุดจะสร้างปัญหาอีกหลายด้าน ยอมรับว่า ในช่วงไตรมาส 3 GDP เวียดนามขยายตัวร้อยละ 13 เพราะไม่มีความขัดแย้ง แบ่งขั้ว ขนาดเศรษฐกิจของเวียดนาม 2 ใน 3 ของไทย และในอีก 5 ปีข้างหน้า อาจแซงไทยได้ ขณะที่จีดีพีของไทยในช่วงเดียวกันขยายตัวร้อยละ 2 แต่ยังมีความขัดแย้งทางการเมือง จึงน่าเป็นห่วง ยอมรับว่า ธปท.ควรปล่อยค่าเงินบาทเคลื่อนไหวตามตลาด เพราะการใช้เงินแทรกแซงจำนวนมากในช่วงนี้อาจต้านกระแสไม่ไหว อาจกระทบทุนสำรองระหว่างประเทศ และควรขยับดอกเบี้ยเพิ่ม เพื่อลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อของไทย และเงินทุนไหลออก ขณะนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกมาเตือนแล้วว่า ปีหน้าเศรษฐกิจโลกถดถอย รายย่อยอาจเจอปัญหาแน่นอน

นายสมคิด กล่าวว่า ถ้าเศรษฐกิจโลกถดถอย ส่งออกตาย สงครามทำท่าบานปลาย จึงขอให้เตรียมเงินเอาไว้รองรับ 200,000-300,000 ล้านบาท ทั้งแบงก์พาณิชย์และแบงก์เฉพาะกิจ เพราะรัฐต้องกู้เงินเอาไปดูแลรายย่อย เมื่อเศรษฐกิจโลกถดถอย ประเทศอื่นทั่วโลกจะได้รับผลกระทบหมด ทุกรัฐบาลต้องเตรียมเอาไว้ และประมาทไม่ได้ ขอให้เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าถึงเวลาแล้วไม่เตรียมจะคิดอะไรไม่ออก


นายสมคิด กล่าวว่า กรณีกระแสข่าวการรวมพรรคสร้างอนาคตไทยกับพรรคไทยสร้างไทย ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดรวมพรรคกับใคร แต่ขึ้นอยู่กับการพูดคุยของนายอุตตม กับคุณหญิงสุดารัตน์ ว่า ควรรวมพรรคกันหรือไม่ เพราะหากนโยบายพรรคไปด้วยกัน ยังพูดคุยกันได้ แต่พรรคสร้างอนาคตไทยไม่ได้หวังการรวมพรรคเพื่อให้ได้จำนวน ส.ส.มากขึ้น เหมือนการซื้อม้าเข้าคอก เพื่อต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี การเมืองที่ดีต้องเสนอนโยบายแก้ปัญหาให้กับประชาชน เพื่อพัฒนาการเมืองให้ดีขึ้น

“การเมืองได้แบ่งขั้วมากว่า 10 ปี คนแบ่งขั้วการเมืองได้ประโยชน์ แต่ประชาชนไม่ได้รับการแก้ไข การเมืองยุคใหม่ควรมองข้ามการแบ่งขั้ว “ไม่เลือกเราเขามาแน่” ทำอย่างไรให้ประชาชนปรองดอง ไม่มีปัญหาโกรธแค้น ไม่มีขั้วทางการเมือง การแบ่งแยกทางสังคม มีความสูญเสียอย่างมาก จึงควรเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ทุกคนจึงต้องร่วมกันเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ คนจะมาเป็นนายกรัฐมนนตรี ไม่ควรสร้างความขัดแย้งให้กับประชาชน เพราะสังคมไทยน่าจะเลิกขัดแย้งกันได้แล้ว” นายสมคิด กล่าวย้ำ

พรรคสร้างอนาคตไทย ต้องการสร้างสึนามิ เปลี่ยนแปลงทางการเมือง เอาคนโกงออกไป คนเก่งเข้ามาร่วมมือกันสร้างเศรษฐกิจไทย ภาคใต้หากไม่บริหารจัดการให้ดี เลือกแต่คนเดิม ไม่เปลี่ยนความคิด จะเกิดปัญหาแย่ลงอีก การพูดแบบนี้ อยากให้ทุกคน ทุกองค์กรได้รับฟัง เพื่อร่วมกันเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย ยอมรับว่าประชาชนทุกคนมีภาระหนี้ ไทยมีเกษตรกรรม การท่องเที่ยว นับเป็นศักยภาพของเศรษฐกิจไทย จึงควรผลักดัน รายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติกระจายไปทุกส่วนของภาคใต้ รวมถึงพัทลุง เพราะนักท่องเที่ยวต้องกินต้องใช้ ซื้อสินค้าชุมชน ภาคเกษตร มีที่ดินจำนวนมาก สามารถปลูกเงาะ ทุกเรียน ส่งเสริมการปลูกพืชหลากหลาย ยกระดับเกษตรกรให้เข้มแข็ง พัฒนาลูกหลานยุคใหม่ พัฒนาสินค้าชุมชน เพื่อทำเกษตรเชิงพาณิชย์


จังหวัดพัทลุง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ แต่ถูกปล่อยให้ถูกหลงลืม นับว่าพัทลุงเป็นจุดเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ หากยกระดับภาคเกษตร เมื่อทุกเครือข่ายร่วมมือกัน เชื่อมโยงการขนส่งทั่วประเทศ เพื่อกระจายสินค้าจากภาคใต้ไปสู่ภาคเหนือ เสนอสร้างรถไฟฟ้าเชื่อมโยง 3 จังหวัด พัทลุง ตรัง สตูล หากการเมืองไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ เดินหน้ากระจายอำนาจของกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้อำนาจท้องถิ่นบริหารมากขึ้น ปัญหาของภาคใต้ มีบางกลุ่มรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท ถูกทอดทิ้ง จึงต้องนำบัตรสวัสดิการฯ มาใช้ดูแลรายย่อย

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจภาคใต้ 1.4 ล้านล้านบาท นับว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของไทย เมื่อช่วยเหลือยกระดับพืชเศรษฐกิจ จะเป็นกลไกสร้างเศรษฐกิจไทย เดินหน้าเสนอนโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน ด้วยการพักหนี้ 5 ปี ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เติมทุนใหม่ให้พี่น้องแก้จน วงเงิน 1 แสนล้านบาท ผ่านกองทุนสร้างอนาคตไทย เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับประชาชน พัฒนาเกษตรท่องเที่ยว การผลิต เติมทุน และเสริมด้วยเทคโนโลยีให้กับประชาชน แก้หนี้ แก้จน ด้วยพลังของชุมชน

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ กรรมการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทย ไม่เน้นสร้างความขัดแย้ง ต้องการมุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จึงอยากให้ชาวใต้ร่วมกันเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย เสนอ 1 อำเภอ 1 ศูนย์บำบัดยาเสพติด เพื่อดูแลลูกหลานติดยาเสพติด ให้พ่อแม่ ตายาย นอนหลับ ไม่มีใครลุกขึ้นมาทำร้ายจากปัญหาติดยาเสพติด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย