สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ประกาศกลยุทธ์ TRA NEXT ยกระดับค้าปลีกไทยสู่สากล

11 ต.ค. – สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ประกาศกลยุทธ์ TRA NEXT ยกระดับค้าปลีกไทยสู่สากล เสริมแกร่ง SMEs ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน


ภาวะเศรษฐกิจของโลกเริ่มเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Global Recession) มีความรุนแรงและส่งผลกระทบโดยตรงทั้งต่อกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งเผชิญปัญหาแรงกดดันจากเงินเฟ้อ ในขณะที่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาประสบปัญหาเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและมีความบอบบางสูงไปจนถึงกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ซึ่งกำลังพบกับวิกฤตขั้นเลวร้าย สำหรับประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้เช่นกัน นอกจากการฟื้นตัวที่ช้าแล้วยังต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ ราคาสินค้าต้นทุนที่สูงซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยอาจสะดุดลง สมาคมผู้ค้าปลีกไทยพร้อมที่จะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นฟูและเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยคนที่ 11 ในสมัยที่ 2 กล่าวว่า “ภาวะเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันค่าจ้างแรงงานมีการปรับอัตราใหม่ และภาคค้าปลีกและบริการก็ยังคงมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานอยู่ ประกอบกับภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี โจทย์สำคัญคือ จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นฟูและเดินหน้าต่อไปได้ในทิศทางที่ถูกต้อง ผมคิดว่าภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยคือคำตอบ และถือเป็นเครื่องจักรตัวสุดท้ายที่จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเดินไปข้างหน้า เพราะภาคการท่องเที่ยวมีอัตราการเติบโตสวนทางกับเครื่องจักรทางเศรษฐกิจตัวอื่นๆ และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยจะมีมากถึง 10 ล้านคน ภายในปี 2565 ซึ่งจะส่งผลโดยตรงให้ภาคค้าปลีกและบริการฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ


ทั้งนี้ ภาคค้าปลีกและบริการมีจำนวน SMEs มากถึง 2.4 ล้านราย คิดเป็น 80% ของ SMEs ทั้งประเทศ อีกทั้งยังมีการจ้างงานในระบบกว่า 13 ล้านราย คิดเป็น 30% ของการจ้างงานทั้งหมด โดยภาคค้าปลีกและบริการ มีมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 34% ของ GDP หรือกว่า 5.6 ล้านล้านบาท ดังนั้นถ้า SMEs ฟื้นตัวและโตขึ้น เศรษฐกิจของประเทศก็จะโต สมาคมฯ จึงตั้งเป้าที่จะผลักดันเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน โดยจะมีการเพิ่มการจ้างงานมากกว่า 500,000 อัตรา ภายในปีหน้า เพิ่มรายได้และช่องทางการจัดจำหน่ายให้ SMEs ผ่านภาคีเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมยกระดับให้ SMEs ไทยสามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับโลก ด้วยกลยุทธ์ TRA NEXT (ทีอาร์เอ เน็กซ์)”
ทั้งนี้ 4 กลยุทธ์ TRA NEXT มีดังนี้
1.New S-Curve of SMEs สร้างความเข้มแข็งให้ SMEs ด้วยการเพิ่มรายได้ เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย และเพิ่มการจ้างงาน
1.1 เพิ่มอัตราการจ้างงานอีกกว่า 500,000 อัตรา ภายในปีหน้า พร้อมผลักดันการจ้างแรงงานประจำรายชั่วโมง สำหรับธุรกิจที่เริ่มฟื้นตัว เพื่อให้เกิดการยืดหยุ่นและเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ
1.2 ช่วย SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างง่าย สะดวก และรวดเร็ว ผ่าน “Digital Supply Chain Financing” และคงมาตรการช่วยเหลือ SMEs ไทย โดยการลด Credit Term สั้นลง และจ่ายเงินให้รวดเร็วเพื่อเสริมสภาพคล่องและช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เป็นการสร้างแต้มต่อให้ SMEs ไทยสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
1.3 ขยายช่องทางการจำหน่ายให้กับ SMEs ในหมวดสินค้าท้องถิ่นผ่านภาคีเครือข่ายของสมาคมฯ เพื่อสร้างรายได้
1.4 สร้างความคล่องตัวและลดค่าใช้จ่ายให้ SMEs ในการดำเนินธุรกิจ (Ease of Doing Business) ด้วยการผลักดันนโยบาย E-Service ภาครัฐ เริ่มจากการลดขั้นตอนขอใบอนุญาตเปิด และต่ออายุร้านอาหาร รวมทั้งจะมีการขยายผลไปยังกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ต่อไป

2.Environment and Sustainable Development สมาคมฯ ผนึกกำลังร่วมกับสมาชิก และภาคีเครือข่ายเพื่อส่งเสริมให้ SMEs ทำธุรกิจที่มีการเติบโตแบบยั่งยืน บนหลักการ BCG (Bio-Circular-Green Economy)
2.1 เร่งสนับสนุนให้สมาชิกในภาคีเครือข่ายร่วมปณิธานในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Commitment) ภายในปี 2593 เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของภาครัฐ
2.2 ผลักดันอย่างต่อเนื่องในการดำเนินโครงการจัดการอาหารส่วนเกินที่ยังรับประทานได้ และการจัดการขยะของเสียอย่างครบวงจร เพื่อให้สามารถนำขยะไปรีไซเคิล และนำกลับมาใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ ได้ เช่น ปุ๋ยในการทำการเกษตร และ ก๊าซหุงต้ม เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ภาคค้าปลีกและบริการเป็นตัวอย่างในการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและชุมชน
2.3 ช่วยพัฒนาการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของคู่ค้า และผลักดันให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมในโครงการ Net Zero ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดจำนวนขยะ ลดการใช้พลังงาน เป็นต้น
2.4 สนับสนุนการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ด้วยการรณรงค์การปลูกป่า การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า EV (Electric Vehicle) และการใช้พลังงานจากโซล่าร์รูฟ (Solar Roof) ในกลุ่มสมาชิกและภาคีเครือข่ายของสมาคมฯ

3.eXpand TRA to the Global Stage ยกระดับสมาคมฯ และเครือข่ายภาคค้าปลีกไทยสู่ระดับสากล เพื่อเป็นการขยายฐานสมาชิก และเป็นการเพิ่มช่องทางการขายและรายได้ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศให้ SMEs ไทย
3.1 มู่งสู่การเป็นผู้นำภาคค้าปลีกและบริการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยการตั้งเป้าในการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมสมาพันธ์ผู้ค้าปลีกแห่งเอเชียแปซิฟิก (FARPA) ครั้งต่อไปในปี 2568 ที่มีผู้นำค้าปลีกกว่า 20 ประเทศ ทั่วภูมิภาค เข้าร่วม
3.2 ขยายความร่วมมือระหว่างประเทศในการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจและสินค้า โดยจะเริ่มความร่วมมือในเฟสแรกกับสมาคมผู้ค้าปลีกในประเทศเวียดนาม (Association of Vietnam Retailers) และสมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนาม เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ไทยและเวียดนามในการนำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ ถือเป็นการช่วยเหลือภาคีเครือข่ายและ SMEs ไทยให้มีช่องทางการขายและเพิ่มรายได้มากขึ้น


4.Tourism Reimagination สร้างการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวคุณภาพสูงมีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น เป็นการสร้างการจ้างงานและเพิ่มรายได้ให้กับ SMEs ไทย
4.1 สนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมการสร้างศักยภาพให้ประเทศไทยมีความพร้อมในเรื่องของการดึงดูดและรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงและนักลงทุนต่างชาติที่พำนักในไทยระยะยาว
4.2 ผลักดันให้มีการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวคุณภาพมีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น โดยยกระดับให้ประเทศไทยเป็น “สุดยอด การใช้ชีวิตแห่งเอเชีย” รวมทั้งสนับสนุนภูเก็ตให้เป็นเมืองแห่ง Lifestyle and Free Port Hub เพื่อให้ไทยมีศักยภาพในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในการดึงดูดนักท่องเที่ยว และสามารถเพิ่มการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยว เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับภาคค้าปลีกและบริการ

“กลยุทธ์ TRA NEXT คิดขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือ และสนับสนุน SMEs ไทยเป็นหลัก ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการสร้างงานใหม่ในระบบ เป็นการเพิ่มรายได้และช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าให้กับ SMEs ไทย ดังนั้นสมาคมฯ ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่จะร่วมผลักดันกลยุทธ์ TRA NEXT นี้ให้เกิดขึ้นได้จริง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวและเติบโตอย่างแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา” นายญนน์ กล่าวทิ้งท้าย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม

คลองเปรม 9 ก.ย.- ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม ขณะอยู่ในรถคุมขัง “ทักษิณ” ยิ้มเล็กน้อย พร้อมชูนิ้วโป้งขวาให้นักข่าวที่ตะโกนถาม ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งบังคับโทษ นายทักษิณ ชินวัตร 1 ปี และส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ล่าสุด เมื่อเวลา 17.10 น. ที่ผ่านมา ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีขบวนรถตู้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร สีขาว จำนวน 3 คัน คันแรก ทะเบียน 1 นฉ 1576 กรุงเทพมหานคร คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร และคันที่สาม ทะเบียน 1 นฉ 1977 โดยทั้งหมดได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม โดยรถตู้คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร เป็นรถตู้คันที่นายทักษิณ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.- “พล.อ.ณัฐพล” มาตามนัด เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม ประกาศให้อำนาจเต็ม ก่อนบินประชุม GBC พรุ่งนี้ ให้กัมพูชารู้ว่าเป็น “เจ้ากระทรวงปืนใหญ่” ด้าน “บิ๊กเล็ก” มั่นใจแก้ปัญหาชายแดนเร็วที่สุด ปัดตอบอึดอัด ทำหน้าที่ด้านการทหารกับรัฐบาลที่แล้ว พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพื่อพบกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงกรอบแนวทางการทำงาน โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวปรากฎชื่อในโผอนุทิน 1 นั่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ในสัดส่วนคนนอก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหลังจากการหารือร่วมกัน นายอนุทิน ได้พา พล.อ.ณัฐพล มาโชว์ตัว และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นทาง ถึงการรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่ตนปฏิบัติมาโดยตลอดช่วง 2-3 วันนี้ เมื่อตนได้เชิญผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่เป็นบุคคลภายนอก จะนำมาแนะนำให้กับประชาชนได้รับทราบ ตนได้ใช้เวลาในการหารือ ในที่สุดขอเชิญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลชุด นส.แพทองธาร […]

“อนุทิน” ส่งรายชื่อ ครม. ตรวจประวัติครบแล้ว

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.-“อนุทิน” ส่งรายชื่อ ครม. ตรวจประวัติครบแล้ว ลั่นส่งเกินด้วย ย้ำใครไม่ผ่านก็แต่งตั้งไม่ได้ พร้อมแจงเหตุผลเลือก “บวรศักดิ์” นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย เตรียมยกร่าง รธน. ไม่กดดัน มีเวลาทำงาน 4 เดือน บอกถนัดอยู่แล้ว แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง เผยคุย “บิ๊กเล็ก” วันนี้ เตรียมข้อมูลประชุมจีบีซี พรุ่งนี้ พร้อมทลายหลายข้อจำกัด ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาชายแดนทุกมิติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้ส่งรายชื่อ บุคคลที่จะเสนอเป็นรัฐมนตรีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติทุกครบทุกคนแล้ว โดยยังไม่ได้ระบุตำแหน่ง ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ส่งไปแล้ว พร้อมหัวเราะ และบอกว่า “ส่งเกินด้วย” ซึ่งคุณสมบัติ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ต้อง เป็นคนยุติธรรม พร้อมยอมรับว่าได้ทาบทามพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ และได้เชิญมาพูดคุยที่พรรคภูมิใจไทย ว่าท่านมีแนวทางดำเนินการอย่างไร เพราะวันพรุ่งนี้จะต้องเดินทางไปประชุม จีบีซี ที่กาะกง ส่วนเหตุผลที่เลือกพลเอกณัฐพล นายอนุทินกล่าวว่าเพราะต้องการให้งานของกระทรวงกลาโหม สืบเนื่องต่อไป ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าไม่เปลี่ยนม้ากลางศึกใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่ามีคำพังเพยอยู่ เรามองเรื่องประเทศชาติเป็นสำคัญ แต่เราอาจจะมีแนวทางใหม่ให้ท่าน […]

โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด เร่งอพยพประชาชน

9 ก.ย. – โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด บางพื้นที่ต้องอพยพประชาชนออกจากบ้านเรือน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่พบแล้วศพหนุ่มพิมายขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำป่าซัดตกท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน คลิปวิดีโอที่ชาวบ้านบันทึกไว้ได้เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (8 ก.ย.) ขณะน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมถนนในพื้นที่บ้านรังกาใหญ่ ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังจากมีฝนตกหนัก ระดับน้ำท่วมสูงและเชี่ยวกราก มีชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากไปบริเวณสี่แยกกลางหมู่บ้าน บ้านตะปัน ต.รังกาใหญ่ แม้ชาวบ้านจะเตือนและพยายามตะโกนห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง สุดท้ายถูกน้ำป่าซัดทั้งรถและคนลอยหายไปกับกระแสน้ำ กระทั่งช่วงเที่ยงคืนวันนี้ (9 ก.ย.) ระดับน้ำเริ่มลดลง ชาวบ้านพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง มีกุญแจเสียบคาอยู่ พร้อมกับถังน้ำมัน ลอยมาติดกำแพงโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต ชื่อนายสมชาย อายุ 35 ปี ถูกน้ำป่าซัดตกลงไปในท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา ก่อนนำส่งโรงพยาบาลพิมาย เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต นาทีน้ำป่าไหลซัดคนลอยออกจากบ้านคลิปนาทีน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน บ้านตะปัน หมู่ 5 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (8 ก.ย.) โดยจะเห็นว่าน้ำป่าที่ไหลมาจากพื้นที่ อ.ห้วยแถลง หลังจากมีฝนตกติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน […]