กรุงเทพฯ 5 ต.ค.-เอ็กซิม แบงค์ จับมือ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยและมหาวิทยาลัยมหิดล จัดหลักสูตร”TOP X”สร้างนักธุรกิจชั้นนำ เชื่อมโยงห่วงโซ่การส่งออก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจBCG หรือเศรษฐกิจสีเขียว และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลก Next Normal
EXIM BANK ขานรับนโยบายกระทรวงการคลัง สานพลังหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดลสร้างผู้ประกอบการไทยให้แข็งแกร่งใน Supply Chain การส่งออก โดยเปิดตัวโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเข้มข้นเพื่อบ่มเพาะและต่อยอดธุรกิจไทยให้สามารถปรับตัวและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน รวมถึงขับเคลื่อน BCG Economy ในโลก Next Normal พร้อมจัดหนักให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสุด 4.5% ต่อปี ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ฟรี! ค่าธรรมเนียม แถม! กรมธรรม์ประกันการส่งออก คุ้มครองความเสี่ยงกรณีไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ ให้แก่สมาชิก 3 สภาที่พร้อมบุกตลาดส่งออก
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิด Top X Executive Program หลักสูตรระยะสั้นสำหรับเจ้าของกิจการและผู้บริหารเพื่อการพัฒนาและต่อยอดธุรกิจเพื่อการส่งออก รุ่นที่ 1 โดยมีดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ดร.ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ดร.วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (สภาหอฯ) และ รศ.ดร.วิชิตา รักธรรม คณบดีวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เข้าร่วมในพิธี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่ยังคงเน้นค้าขายภายในประเทศและแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก ขณะที่โอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจยังมีอยู่อีกมากในตลาดโลกที่มีประชากรรวมกันกว่า 7,000 ล้านคนประกอบกับการพัฒนาของเทคโนโลยีดิจิทัลปัจจุบันทำให้การค้าออนไลน์ทำได้สะดวกขึ้น โอกาสที่จะเข้าถึงผู้บริโภคในตลาดต่างประเทศมีมากขึ้น แต่การสร้างและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกต้องอาศัยความพร้อมทั้งด้านองค์ความรู้ เงินทุน และเครือข่ายธุรกิจ ซึ่งภาครัฐและภาคเอกชนไทยต้องร่วมมือกันเสริมสร้างและต่อยอดให้ธุรกิจไทยมีความพร้อมที่จะรุกหรือครองตลาดการค้าโลกได้อย่างมั่นคงในระยะยาว นำมาซึ่งรายได้ของประชาชนอย่างทั่วถึงและการพัฒนาประเทศไทยในมิติต่าง ๆ อย่างยั่งยืน รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) เตรียมพร้อมประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ประชาชนทุกภาคส่วนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ความร่วมมือของ EXIM BANK กับ 3 สภา ได้แก่สภาหอฯ ส.อ.ท. สรท. และ CMMU ในครั้งนี้เป็นก้าวแรกของการสานพลังระหว่าง EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังกับพันธมิตรภาคเอกชนที่สำคัญระดับประเทศและสถาบันการศึกษา เพื่อค้นหาผู้ประกอบการไทยที่มีความพร้อมจะก้าวต่อไปเป็นนักรบเศรษฐกิจไทยในเวทีการค้าโลก เพื่อร่วมกันระดมสมอง แลกเปลี่ยนข้อมูลองค์ความรู้ใหม่ที่ทันโลกและปฏิบัติได้จริงในโลกธุรกิจยุค Next Normal จากนั้นจะมีการพบปะพูดคุยและจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการในต่างประเทศ อาทิ ตลาดเวียดนาม
ทั้งนี้ เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ไทยมีความคุ้นเคยและเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง รวมทั้งมีนโยบายส่งเสริมการค้าเสรีและเศรษฐกิจ BCG เพื่อให้ผู้เข้าอบรมหลักสูตรได้เรียนรู้กลยุทธ์การปรับโมเดลธุรกิจเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของไทย โดย EXIM BANK พร้อมสนับสนุนเครื่องมือทางการเงินอย่างครบวงจร ตั้งแต่เงินทุนหมุนเวียนไปจนถึงเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ หลักสูตร TOP X Executive Program จึงถือเป็นปรากฏการณ์ของการรวมพลังเพื่อสร้างกองทัพนักรบเศรษฐกิจไทยที่พร้อมก้าวไปสู่โลกอนาคตอย่างมั่นใจ เพื่อฟันฝ่าความท้าทายและเข้าถึงโอกาสทองสำหรับผู้ที่ปรับตัวได้และแข็งแกร่งเพียงพอที่จะดำรงอยู่และสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้แก่องค์กรและประเทศชาติ.-สำนักข่าวไทย