กฟผ.เตือนปีหน้าค่าไฟฟ้าแพง วอนคนไทยประหยัด

นครราชสีมา 3 ต.ค.- กฟผ.ออกโรงเตือนค่าไฟปีหน้ายังแพง ขอความร่วมมือประหยัดพลังงาน พร้อมปรับโหมดรับไฟฟ้าพลังงานทดแทน ลดพึ่งพาแอลเอ็นจี เดินหน้าระบบกักเก็บพลังงาน (BESS) ด้วยแบตเตอรี่ และพลังน้ำแบบสูบกลับเสริมศักยภาพโครงข่ายระบบไฟฟ้า ตอบโจทย์ Carbon Neutrality


นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์แลพโฆษก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  เตือนผู้ใช้ไฟฟ้าว่าแนวโน้มปีหน้าค่าไฟฟ้าจะทรงตัวระดับสูง เพราะราคาเชื้อเพลิงหลักคือก๊าซธรรมชาติ ผันแปรตามราคาน้ำมันในขณะที่ไทยต้องพึ่งพาก๊าซแอลเอ็นจีนำเข้าถึง 20% ซึ่งมีราคาสูงมาก ยิ่งหากสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อต่อเนื่อง ยิ่งทำให้แอลเอ็นจีแพงมาก หากราคาแอลเอ็นจีอยู่ที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียู เมื่อเทียบเป็นหน่วยค่าไฟฟ้าจองไทยก็จะสูงถึงกว่า13.30บาท/หน่วย ดังนั้น หากผู้ใช้ไฟฟ้าร่วมกันประหยัดหรือใช้ไฟฟ้าให้น้อยลงมากที่สุดก็จะทำให้ใช้แอลเอ็นจีน้อยลงต้นทุนค่าไฟฟ้าก็จะต่ำลง

 “ในส่วนของการบริหารต้นทุนค่าไฟฟ้า ทาง ก.พลังงาน อยู่ระหว่างดำเนินการปรับแผนเชื้อเพลิงให้เหมาะสม ทั้งใช้ดีเซลทดแทนแอลเอ็นจีที่แพงกว่า ยืดอายุโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ  และ กฟผ.ก็สั่งจ่ายจากโรงไฟฟ้าต้นทุนที่ต่ำที่สุดก่อน เช่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำ พร้อมปรับระบบไฟฟ้ารองรับพลังงานทดแทนที่จะเข้าระบบมากขึ้นให้มั่นคง โดยได้จัดทำโครงข่ายระบบไฟฟ้ามีความทันสมัย ยืดหยุ่น (Grid Modernization) สามารถนำพลังงานหมุนเวียนมาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสมพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานในรูปแบบต่าง ๆ” นายประเสริฐศักดิ์ กล่าว


นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการจัดทำโครงข่ายระบบไฟฟ้ามีความทันสมัย ยืดหยุ่น (Grid Modernization) กฟผ.ได้ดำเนินการหลายรูปแบบ ได้แก่ ระบบแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน (BESS) ที่เชื่อมต่อกับระบบส่งไฟฟ้า หรือGrid Scale นำร่องใช้งานที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงชัยบาดาล จ.ลพบุรี กำลังผลิตไฟฟ้า 21 เมกะวัตต์-ชั่วโมง (MWh) และที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ กำลังผลิตไฟฟ้า 16 MWh รวมทั้งสิ้น 37 MWh นับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งสามารถตอบสนองต่อระบบไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว เพราะจ่ายกำลังไฟฟ้าได้ภายในเวลาไม่เกิน 200 มิลลิวินาที ช่วยรักษาเสถียรภาพในระบบไฟฟ้า โดย กฟผ. เลือกนำร่องติดตั้ง BESS ในพื้นที่ทั้งสองแห่งเพื่อแก้ปัญหาคุณภาพไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีแหล่งผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมที่เชื่อมต่อระบบไฟฟ้าจำนวนมากจึงมีความผันผวนค่อนข้างสูง

BESS จะทำหน้าที่กักเก็บพลังงานในช่วงที่ระบบมีความต้องการไฟฟ้าต่ำ (Off Peak) และจ่ายไฟฟ้าคืนสู่ระบบเพื่อชดเชยกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่มีความผันผวนในช่วงบ่าย ลดความต้องการไฟฟ้าสูงสุดในช่วงหัวค่ำและลดความหนาแน่นของสายส่งกำลังไฟฟ้า โดยแบตเตอรี่ที่นำมาใช้ใน BESS เป็นแบตเตอรี่ชนิดลิเทียมไอออน ซึ่งสามารถกักเก็บพลังงานไฟฟ้าได้มากในพื้นที่จำกัด อีกทั้งสามารถจ่ายไฟและชาร์จไฟได้เร็ว โดยออกแบบให้มีอายุการใช้งานได้นานถึง 15 ปี 

“เราศึกษานำร่อง BESSเพื่อเตรียมคน เตรียมนวัตกรรมให้ พร้อมรับอนาคต ในช่วงเปลี่ยนผ่านพลังงานจากฟอสซิลไปเป็นพลังงานทดแทน ซึ่งในขณะนี้ราคาแบตฯยังสูงราว 400-450 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าใน 5 ปีข้างหน้า ราคาจะลดลงเหลือ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง จึงคาดว่าช่วงนั้นจะเหมาะสมในการลงทุนเชิงพาณิชย์ และจะเป็นหนึ่งในแผนงานความเป็นกลางทางคาร์บอนของไทย” นายประเสริฐศักดิ์  กล่าว


นอกจากนี้ กฟผ. ยังได้พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับซึ่งเป็นระบบกักเก็บพลังงานด้วยพลังน้ำขนาดใหญ่สำหรับระบบไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำที่สุด และเป็นพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีศักยภาพในการจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้อย่างรวดเร็ว โดยจะนำพลังงานไฟฟ้าในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าน้อยสูบน้ำจากเขื่อนด้านล่างขึ้นไปกักเก็บไว้ยังอ่างพักน้ำตอนบน เมื่อมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงหรือไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียนไม่เสถียรก็สามารถปล่อยน้ำผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากลับลงมาผลิตกระแสไฟฟ้าได้ทันที โดยปัจจุบันประเทศไทยมีโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับทั้งสิ้น 3 แห่ง รวมกำลังผลิต 1,531 เมกะวัตต์ (MW) ได้แก่ โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จ.นครราชสีมา กำลังผลิต 1,000 เมกะวัตต์ เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี กำลังผลิต 360 เมกะวัตต์ และเขื่อนภูมิพลจ.ตาก กำลังผลิต 171 เมกะวัตต์ 

ทั้งนี้ กฟผ. มีแผนดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับเขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ กำลังผลิต 801 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา คาดว่าจะจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ในปี 2578 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” ร่อนหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น”

ก.ต่างประเทศ 29 ก.ค.-“มาริษ” ส่งหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น” บอกต่อสายเพื่อนสนิทขอร่อนเอกสาร ยัน “กัมพูชา” ไม่จบ ยิงอีกรอบหลังจบเจรจา เปิดใจขอทุกคนไม่ต้องห่วง กต.ร่วมมือเต็มที่ปกป้องอธิปไตยไทยและบูรณภาพแห่งดินแดน ยัน “ไทย” เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ต้องกลัวสายตาโลก บอกนานาชาติชื่นชมพรึ่บ! นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยชี้แจงว่าหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างไทย-กัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงหลายกรอบความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นอนุสัญญาออตตาวา, อนุสัญญาเจนีวา, กฎหมายระหว่างประเทศ, การใช้ทุ่นระเบิดและการโจมตีพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ของประชาชน ซึ่งที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตนได้เข้าไปในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้พบผู้แทนระดับสูงของ UN และหลายประเทศ หารือในเรื่องที่เราดำเนินการแก้ไขทุกอย่างด้วยสันติวิธี และใช้ความอดทนอดกลั้นทั้งหมด ถึงแม้จะอดกลั้น แต่เราก็ยึดถือหลักสำคัญที่สุด คืออำนาจอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ เป็นอันดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน เราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศกฎหมาย, กฎบัตรสหประชาชาติ, กฎหมายอาเซียน, ความตกลงและความเป็นครอบครัวอาเซียนทุกประเทศ รวมทั้งประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ซึ่งก็พยายามใช้ความอดทนอดกลั้นพยายามไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แต่อย่างไรก็ตาม เราถูกละเมิดอธิปไตย เราก็ต้องใช้สิทธิ์ตอบโต้ในสิ่งที่ประเทศไทยถูกละเมิดมาโดยตลอด นายมาริษ กล่าวว่า ภาพพจน์ของนานาประเทศที่ให้กับเรา ทำให้เราได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ คือความเป็นประเทศรักสงบ […]

น้ำท่วมชุมชนชายแดนแม่สายเริ่มลด เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำ

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำท่วมชุมชนชายแดน อ.แม่สาย เริ่มลดลงแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทิ้งดินโคลนและเศษขยะไว้มากมาย ด้านข้างสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 จะเห็นว่าน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ลดระดับต่ำกว่าท้องสะพาน กว่า 40 เซนติเมตร หลังระดับน้ำที่จุดวัดบ้านโจตาดาในเมียนมา ที่เป็นต้นน้ำ ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว โดยทหารช่างยังเร่งวางบิ๊กแบ็กที่จุดฟันหลอของพนังกั้นน้ำสาย บริเวณคอสะพาน เพื่อป้องกันน้ำทะลักท่วมซ้ำ ขณะที่ด่านชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย ฝั่งท่าขี้เหล็ก เปิดให้ข้ามแดนได้ตามปกติ โดยน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สาย ลดลงเกือบทุกพื้นที่ แต่ทิ้งความเสียหายไว้จำนวนมาก อย่างตลาดสายลมจอย ตลาดสินค้าชายแดน ร้านค้าต่างๆ เต็มไปด้วยดินโคลน พ่อค้าแม่ขายในตลาดเริ่มเก็บล้างทำความสะอาดร้านค้ากันบ้างแล้ว อย่างพี่สายพิน บอกว่า เมื่อวานนี้น้ำมาเยอะมาแรง จนกำแพงอาคารที่ใช้เป็นพนังกันน้ำชั่วคราวแตก แต่ทหารช่างอุดไว้ได้ และมีการเก็บสินค้าออกไปล่วงหน้า จึงไม่เสียหายมากนัก จากภาพมุมสูงด้านชุมชนทางฝั่งขวาของสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 อย่างชุมชนเกาะทราย ไม้ลุงขน และชุมชนเหมืองแดง ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในบางพื้นที่ อย่างบริเวณห้าแยกเกาะทราย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่คาดว่าภายในวันนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ.-สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์

บช.สอท. 29 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์ ด้วยข้อความภาษาอังกฤษ พร้อมติด #TruthFromThailand ร่วมกันสื่อสารให้โลกได้รับรู้ว่าเราไม่ได้เริ่ม แต่เราจะไม่ยอมแพ้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่สถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีรายงานข่าวจากหลายสำนักและบทวิเคราะห์ของนักวิชาการนานาชาติ ที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างความขัดแย้งดังกล่าวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ขอชี้แจงว่า ภารกิจสำคัญของเราคือ การปกป้องประชาชนไทยจากภัยคุกคามทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายข้ามชาติ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ เครือข่ายฟอกเงิน โดยจับกุมผู้ต้องหาที่เข้ามาทางด่านสระแก้วจัมผู้ต้องตามหมายจับ 13 ราย เป็นคดีที่หลอกลวงพี่น้องประชาชน อีก 7 ราย มีร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาหลอกลวงพี่น้องประชาชน และจะมีกลับเข้ามีอีก 200 กว่านายจะเดินทางกับเข้ามา แต่เมื่อ สถานการณ์ไม่น่ากลัวและทราบว่าจะมีการหยุดยิงจึงไม่เดินทางกับ แต่ยังมีการหลอกลวงทั้งในและต่างประเทศ โดยตลอดปีที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีต่อเครือข่ายเหล่านี้อย่างจริงจัง ภายใต้กรอบของกฎหมายภายในประเทศ และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในต่างประเทศ เพื่อสกัดกั้นเส้นทางการเงิน การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย และการใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มทุนสีเทา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนในหลายคดีที่ผ่านมา พบความเชื่อมโยงกับ กลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกัมพูชา […]

เปิด 7 ข้อตกลง วงหารือ “กองทัพภาค 2 – กัมพูชา”

29 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 หารือผู้บัญชาการทางทหารฝ่ายกัมพูชา ก่อนได้ข้อสรุปตกลงร่วมกัน 7 ข้อ พลตรี กิติศักดิ์ ถาวร โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ผู้แทนกองทัพภาคที่ 2 ได้พบปะกับผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ในพื้นที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ โดยได้หารือและมีข้อตกลงร่วมกัน 7 ข้อ ประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม การหารือดังกล่าวใช้เวลาเพียงไม่นาน ก่อนที่รถตู้ของผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ฝั่งไทย จะขับออกจากด่านช่องจอมไป -สำนักข่าวไทย