กรุงเทพฯ 30 ก.ย. – ประธานหอการค้าไทย ย้ำหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้นายกรัฐมนตรีสามารถกลับมาทำงานและยังมีอำนาจเต็มเหมือนเดิมต่อไปได้ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อเนื่องไปได้ และส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นกลับมา โดยเศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 3% แม้ว่าขณะนี้ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงก็ตาม
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ให้นายกรัฐมนตรีสามารถดำรงตำแหน่งต่อได้อีก 2 ปี โดยนับอายุการดำรงตำแหน่งตั้งแต่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 หอการค้าไทยเห็นว่า เป็นสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่จะดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีสามารถกลับมาทำงานและยังมีอำนาจเต็มเหมือนเดิม การอนุมัติงบประมาณหรือการตัดสินใจต่างๆ ของรัฐบาลก็สามารถเดินหน้าได้ ทำให้ความเชื่อมั่นทั้งของนักธุรกิจไทยและต่างชาติกลับมา เศรษฐกิจก็ยังสามารถดำเนินได้ต่อ รวมถึงการเป็นเจ้าภาพเอเปคของประเทศไทยก็ดำเนินได้ต่อ โดยที่การเจรจาต่างๆ ยังสามารถให้คำมั่นสัญญาได้อย่างเต็มที่เชื่อว่าผลการตัดสินนี้จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติได้อย่างมาก
ทั้งนี้ ยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 3% ในปีนี้ โดยเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ยังดีกว่าหลายๆ ประเทศแม้ว่าขณะนี้ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง แต่ก็ดีกว่าหลายๆ ประเทศ พร้อมทั้งอัตราดอกเบี้ยไม่ได้ขึ้นสูงมาก เชื่อว่า ธปท. กำลังดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่หากไม่ขึ้นดอกเบี้ยเลย ค่าเงินบาทอาจจะอ่อนค่ามากกว่านี้ สิ่งสำคัญในขณะนี้ที่รัฐบาลควรดำเนินการคือ การดูแลปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งหอการค้าไทยและเครือข่าย พร้อมให้คำปรึกษาในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
แต่สิ่งที่ยังกังวลคือ ปัญหาการเมืองนอกสภาฯ ซึ่งจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งนี้ รัฐบาลต้องใช้ความอดทนและประนีประนอม โดยไม่ใช้ความรุนแรง รวมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน เพราะปีหน้าก็มีการกำหนดวันเลือกตั้งไว้แล้ว หากสภาฯ อยู่จนครบวาระ.-สำนักข่าวไทย