กรุงเทพฯ 28 ก.ย.-กสิกรไทย มอง กนง.มีมติไม่เอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี ชี้เห็นเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องหลังผลประชุม มองแตกต่างปี 40 เหตุปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจแข็งแกร่ง-ยันเงินทุนยังไหลเข้าสุทธิ เชื่อธปท.แทรกแซงค่าเงินบ้างเพื่อรักษาเสถียรภาพไม่ให้อ่อนค่าเร็ว
นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้ มองว่าผลการประชุมเสียงของคณะกรรมการฯ สามารถออกมาได้ทั้ง 2 ทางคือ การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย (RP) ที่ระดับ 0.25% และ 0.50% โดยธนาคารมองว่า ผลการประชุมจะไม่เป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย (RP) ที่ 0.25% และคาดว่าเงินบาทจะอ่อนค่าต่อเนื่องภายหลังการประชุมสะท้อนการตีความของคณะกรรรมการฯ ว่าเงินบาทที่อ่อนค่าหลุด 38 บาทต่อดอลลาร์ ที่มองประเด็นเสถียรภาพราคาเป็นปัจจัยชั่วคราว อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% อาจจะต้องรอดูผลกระทบจากการปรับขึ้น และการใช้เครื่องมือของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินบาท แม้ว่าจะมาจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น แต่ตลาดมีความกังวลตามระดับของการอ่อนค่าของเงินบาท และส่วนหนึ่งเป็นการเปิดช่องสร้างโอกาสในการเก็งกำไรค่าเงินบาท จึงต้องรอดูการส่งสัญญาณของ กนง.ในวันนี้
อย่างไรก็ดี หากดูตัวเลขเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยไทยและสหรัฐจะมีช่องว่า หรือ Gap มากขึ้น แต่จะเห็นว่าตัวเลขฟันด์โฟลว์นับตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบันยังพบว่าเป็นการไหลเข้าสุทธิทั้งตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร(บอนด์) ดังนั้น ประเมินว่าแม้ว่าจะมีส่วนต่างดอกเบี้ย แต่คงไม่เห็นเงินไหลออกสุทธิแบบ 1 ต่อ 1 การประชุมวันนี้คงมีคำถามว่า กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50% เรามองว่าคงออกได้ 2 ทาง แต่เราคงน้ำหนักขึ้น 0.25% แต่มติไม่เป็นเอกฉันท์ ซึ่งเรายังเห็นเงินบาทอ่อนค่าต่อหลังการประชุม แต่การอ่อนค่าในรอบนี้จะเห็นว่าแตกต่างจากปี40 เพราะปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจแข็งแรง และหากไตรมาสที่ 4 นักท่องเที่ยวเข้ามาเชื่อว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะไม่ขาดดุล ซึ่งการแทรกแซงค่าเงินบาทคงมีเพื่อรักษาเสถียรภาพไม่ให้อ่อนค่าเร็ว .-สำนักข่าวไทย