“MAAI by KTC” ร่วม “บางจากฯ” ขับเคลื่อน Digital CRM เพิ่มทางเลือกให้สมาชิก

กรุงเทพฯ 27 ก.ย. -“MAAI by KTC” จับมือ “บางจากฯ” นำจุดแข็งของทั้งสองแบรนด์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านลอยัลตี้ แพลตฟอร์ม ขยายสิทธิประโยชน์มอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับสมาชิกยุคดิจิทัล ด้วยการเพิ่มช่องทางการโอนและแลกคะแนนระหว่าง MAAI Point และ Bangchak Point เพิ่มทางเลือกให้สมาชิกด้วยสิทธิพิเศษมากมายจากร้านค้าเครือข่ายพันธมิตร ที่หลากหลายครอบคลุมหมวดการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน


นางประณยา นิถานานนท์  ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – การตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “MAAI by KTC ลอยัลตี้ แพลตฟอร์มจากเคทีซียังคงเดินหน้าพัฒนาระบบ และขยายเครือข่ายพันธมิตร เพื่อเป้าหมายในการเป็นเครื่องมือช่วยพันธมิตรธุรกิจในการทำ CRM (Customer Relationship Management) และสร้าง Ecosystem ที่สมบูรณ์แบบและครบวงจรร่วมกับพันธมิตร โดยต่อยอดจากสิ่งที่เคทีซีเชี่ยวชาญ อาทิ ระบบการบริหารจัดการข้อมูลสมาชิก การจัดการคะแนนสะสม และการจัดการสิทธิประโยชน์ในรูปแบบคูปองอิเล็กทรอนิกส์ (E-Coupon) และนำระบบที่มีประสิทธิภาพที่สุดมาให้บริการกับพันธมิตร เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งไปด้วยกัน”

ทั้งนี้ ปัจจุบัน MAAI by KTC มีพันธมิตรจำนวนมาก ครอบคลุมหมวดร้านอาหาร ทั้งบุฟเฟ่ต์ และคาเฟ่ หมวดโรงภาพยนตร์ ได้แก่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และเอสเอฟ ซีเนม่า หมวดช้อปปิ้ง ออนไลน์ และหมวดท่องเที่ยว อาทิ การให้บริการการจองตั๋วเครื่องบิน หรือบริการการท่องเที่ยวผ่าน KTC World Travel Service นอกจากนี้ร้านค้าถุงเงินกว่า400,000 ร้านค้าทั่วประเทศยังสามารถรองรับฟีเจอร์สแกน QR Code ของ MAAI by KTC ได้ ทำให้สมาชิกมีอิสระในการใช้คะแนนจำนวนน้อย แลกรับสินค้าที่ร้านค้ารายย่อยได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะส่งผลให้สมาชิกได้รับสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจรวมถึงเสริมสร้างความสัมพันธ์กับสมาชิกให้แข็งแกร่งและมีความผูกพันเพิ่มมากขึ้นในระยะยาว


นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาดบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากฯ เป็นแบรนด์แรกในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันที่ริเริ่มระบบลอยัลตี้โปรแกรม เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า โดยตลอดกว่า 16 ปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคใหม่ พร้อมสรรหาสิทธิประโยชน์ให้สมาชิกอย่างไม่หยุดนิ่ง นอกจากการสะสมและแลกคะแนนสมาชิกแทนส่วนลดเมื่อเติมน้ำมัน ซื้อเครื่องดื่มอินทนิล และน้ำมันหล่อลื่นแล้ว จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือสิทธิประโยชน์ “ขึ้นเท่าไหร่คืนเท่านั้น (Same Price)” ที่สมาชิกบางจากจะได้รับคะแนนพิเศษเพิ่มเท่าส่วนต่างราคาน้ำมันเมื่อเติมน้ำมันในวันแรกที่ราคาขึ้น หรือ “ตะกร้าบุญ” ที่ลูกค้าสามารถบริจาคคะแนนให้กับมูลนิธิที่มีให้เลือกมากถึง18 มูลนิธิ ทำให้บางจากฯ มีฐานสมาชิกที่แข็งแกร่งตลอดมา

สำหรับการเพิ่มบริการโอนคะแนนระหว่าง Bangchak Point และ MAAI Point เป็นการเสนอทางเลือกให้ทั้งสมาชิกบางจาก และ MAAI by KTC สามารถโอนและแลกเปลี่ยนคะแนนไปมาระหว่างกันได้ ทำให้ลูกค้าของทั้ง 2 องค์กรสามารถเลือกรับสิทธิประโยชน์ได้หลากหลายมากขึ้นจากร้านค้าเครือข่ายพันธมิตรที่ครอบคลุมหมวดการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อาทิ น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น เครื่องดื่ม ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ช้อปปิ้ง และท่องเที่ยว ในอัตราการแลกเปลี่ยน MAAI Point 220 คะแนน เป็น Bangchak Point 100 คะแนน และ Bangchak Point 100 คะแนน เป็น MAAI Point 110 คะแนน

อย่างไรก็ตาม การร่วมมือระหว่าง บางจากฯ กับ MAAI by KTC เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่แบรนด์จะร่วมกันส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่สมาชิก ด้วยการนำจุดแข็งของทั้งสององค์กร ได้แก่ ฐานสมาชิกของบางจากและความหลากหลายของสิทธิประโยชน์ของเคทีซี มาผสานกันเพื่อขยายช่องทางและเพิ่มทางเลือกให้สมาชิกของทั้งสองฝ่ายสามารถเลือกสรรสิทธิประโยชน์ได้ด้วยตัวเอง   เพิ่มความผูกพันระยะยาวให้กับสมาชิก อีกทั้งเป็นการเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับฐานสมาชิกทั้งสองฝ่าย เพิ่มความสุข ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายให้กับลูกค้าได้ทุกรุ่น ทุกช่วงวัย”


อย่างไรก็ตาม การให้บริการนี้ครอบคลุมเรื่องการบริหารจัดการสมาชิก การบริหารจัดการเรื่องระบบคะแนนสะสม ซึ่งเราให้บริการทั้งในกรณีที่ธุรกิจมีคะแนนสะสมของตนเอง (Native Point) หรือจะสามารถใช้ MAAI Point มาเป็นเครื่องมือในการทำ CRM ได้ รวมไปถึงการให้บริการการจัดการเรื่อง e-coupon เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิก โดยสมาชิกที่มี MAAI Application สามารถรวบรวมคะแนนจากเครือข่ายสมาชิกของ MAAI มาไว้ในที่เดียวเพื่อความสะดวกและเกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้คะแนนมากขึ้น ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปได้ที่: https://ktc.cards/maai-bangchak   .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลพิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาท คดีแตงโม

นนทบุรี 23 พ.ค. – ศาลนนทบุรี พิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต คดีแตงโม ศาลจังหวัดนนทบุรี อ่านคำพิพากษาคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.292/1566 (คดีหมายเลขแดง อ.769/2568) ที่พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โจทก์ และนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์ กับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลยที่ 1-4 คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์หลัก โดยมีนางภนิดา เป็นโจทก์ร่วม ฟ้องจำเลยในความผิดฐานประมาท, แจ้งความเท็จ และทำลายหลักฐาน กรณีแตงโมตกเรือสปีดโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 หรือกว่า 3 ปีที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งในชั้นสอบสวน และชั้นศาล จำเลยทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้เป็นการต่อสู้กันในข้อหาประมาท ซึ่งทราบว่าอัยการที่เป็นโจทก์หลักได้บรรยายฟ้องถึงพฤติกรรมของจำเลยทั้ง 4 […]

ค้นหาคนงานตกหลุมเสาเข็มคืบ พบร่องรอยร่างใต้ดิน เดินหน้าขุดต่อ

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. เผยความคืบหน้าการค้นหาคนงานตกหลุมเสาเข็ม พบร่องรอยร่างใต้ดิน เป็นกลิ่นและไขมัน แต่ยังไม่มั่นใจว่าใช่ เดินหน้าขุดต่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามปฏิบัติการค้นหาคนงานพลัดตกหลุมระหว่างการรื้อถอนเสาเข็มสะพานลอยเดิม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสถานีหลานหลวง โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ทีมทำการค้นหาถึงประมาณตี 2 กว่า คาดว่าพบร่องรอยของคนงานที่ตกลงไป โดยเป็นกลิ่นและไขมัน แต่ยังไม่มั่นใจว่าใช่ เพราะตอนนี้ยังขุดไปไม่ถึง ได้ใช้เหล็กแหย่ลงไปก่อน พบลักษณะดินแตกต่างจากปกติ สำหรับปัญหาเมื่อคืนนี้ คือ มีท่อน้ำรั่ว กำลังทำการแก้ไข ส่วนดินมีการสไลด์ตัวบ้าง ต้องใช้แผ่นเหล็กค้ำยันป้องกันใกล้เคียงทรุดตัว โดยขณะนี้ขุดลึกลงไปประมาณ 9 เมตรแล้ว คาดว่าวันนี้น่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้น.-420.-สำนักข่าวไทย

เด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม

กระบี่ 23 พ.ค.- อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามสั่งเด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามในคำสั่งให้ นางนันทิชา เกิดแก้ว นายอำเภอปลายพระยา จ.กระบี่ ช่วยราชการ ที่วิทยาลัยการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป หลังจากช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “บองหลาไฟ” บุกทลายบ่อนกลางสวนปาล์ม พื้นที่ ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จับกุมนักพนันได้กว่า 70 คน เบื้องต้นพบว่าบ่อนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนกว่า 12 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนนักพนันทั้งหมด เจ้าหน้าที่นำตัวส่งศาลแพ่งจังหวัดกระบี่ ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว .-สำนักข่าวไทย

จับตาศาลชี้ชะตา “คดีแตงโม” จำเลยมาตามนัดพร้อมเพรียง

นนทบุรี 23 พ.ค.- ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม ภัทรธิดา” ขณะที่จำเลยต่างเดินทางมาศาลอย่างพร้อมเพรียง. -สำนักข่าวไทย