กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – กรมส่งเสริมสหกรณ์ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ ภายใต้ธีม “เกษตรคอมเมิร์ซ เปิดตัวบนโลกออนไลน์” หนุนให้สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรนำสินค้าจำหน่ายแบบออนไลน์ บนแพลตฟอร์มกลาง Thaitrade.com และ Phenixbox.com พร้อมจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจ เพิ่มช่องทางกระจายผลผลิตการเกษตรสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ร่วมกับนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ ภายใต้ธีม “เกษตรคอมเมิร์ซ เปิดตัวบนโลกออนไลน์” ณ AEC TRADE CENTER PANTIP (พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ) เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
นายวิศิษฐ์กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ขับเคลื่อนนโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ภายใต้ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต (Demand Driven) เชื่อมโยงอุปสงค์และอุปทาน ลดปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาด ซึ่งเป็นการสร้างเสถียรภาพทางการค้าให้กับสินค้าเกษตรในระยะยาวและสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ได้ร่วมกันส่งเสริมสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรเปิดร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มกลาง Thaitrade.com และแพลตฟอร์มกลาง Phenixbox.com โดยผลการดำเนินงาน ระยะที่ 1 ในปี พ.ศ. 2564 มีสหกรณ์เปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์มกลาง 28 แห่ง วางจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มกว่า 90 รายการ มูลค่าการซื้อขายกว่า 82 ล้านบาท
ส่วนในปี พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นระยะที่ 2 มีสหกรณ์เปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์มกลาง 60 แห่ง วางจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มกว่า 140 รายการ และมีแพลตฟอร์มกลางเพิ่มขึ้นอีก 2 แพลตฟอร์มได้แก่ Freshket.com และแอปพลิเคชัน Maknet เป็นประโยชน์ต่อสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในการเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าของสหกรณ์ผ่านช่องทางออนไลน์และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ตลอดทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีคุณภาพให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายขึ้น
สำหรับกิจกรรมเจรจาธุรกิจจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหกรณ์ในการจำหน่ายสินค้าเกษตรแบบค้าส่งขนาดใหญ่เพื่อกระจายไปสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยวันนี้มาร่วมกิจกรรม 19 สหกรณ์ จากกลุ่มสินค้าข้าว โคเนื้อ โคนม ผัก ผลไม้ กาแฟ ประมง และปศุสัตว์ ซึ่งจะได้พบปะกับผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีอำนาจซื้อในปริมาณมากขึ้น เพิ่มโอกาสด้านการตลาดให้หลากหลายขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามไปด้วย
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าวว่า ได้ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์เชิญสมาคมการค้า โรงแรม ร้านอาหารมาร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าบน 4 แพลตฟอร์มใหญ่ คาดว่า จะสามารถสร้างมูลค่าการตลาดได้มากกว่า 10 ล้านบาท โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมในการเจรจาการค้าได้แก่ ข้าว นม และเนื้อ
จากนั้นช่วงเดือนตุลาคม จะร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจการค้าเพิ่มเติม โดยจะเน้นไปที่กลุ่มผู้ซื้อจากต่างประเทศ เปิดโอกาสให้สินค้าเกษตรไทยเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคต่างประเทศมากขึ้น
กิจกรรมที่สำคัญอีกกิจกรรมในโครงการนี้คือ การเตรียมความพร้อมให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่เป็นผู้ประกอบการด้วย ในการนำเสนอสินค้าผ่านแพลตฟอร์ออนไลน์ การเจรจาการค้า เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการนำเสนอให้โดนใจผู้ซื้อชาวต่างชาติ
สำหรับผู้ซื้อที่สนใจอุดหนุนสินค้าเกษตรไทย สามารถเข้าชมได้บนแพลตฟอร์ม Thaitrade.com ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกแพลตฟอร์ม Phenixbox.com และ Freshket.co สำหรับสินค้าเกษตรค้าส่งในประเทศ รวมถึงแอปพลิเคชัน Maknet .-สำนักข่าวไทย