กรุงเทพฯ 15 เม.ย.- กระทรวงพาณิชย์ระบุไทยและจีนควรเพิ่มความแนบแน่นในการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์เห็นไทยและจีนสามารถผลักดัน ความร่วมมือในหลายด้านร่วมกันได้ เพราะมีนโยบายการพัฒนาประเทศที่สอดคล้องกัน กล่าวคือ ประเทศไทยมีนโยบายประเทศไทย 4.0 เน้นพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ขณะที่จีนปรับเปลี่ยนแนวทางการบริหารประเทศ โดยเน้นการบริโภคภาย เพิ่มมากขึ้นและให้ความสำคัญกับ “โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ” ยังเปิดประตูการค้าและการลงทุนกับโลก รวมทั้งมีแผนยุทธศาสตร์ “Made in China 2025” ซึ่งเน้นเทคโนโลยี การผลิตขั้นสูง และสินค้านวัตกรรม โดยรูปแบบความร่วมมือได้แก่ การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ให้แนบแน่นมากยิ่งขึ้น
สำหรับสาขาความร่วมมือที่ไทยมีโอกาสและความเป็นไปได้ในการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ อาทิ การพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย คลัสเตอร์อุตสาหกรรม ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการปรับปรุงห่วงโซ่การผลิต เป็นต้น
นอกจากนี้หากมองไปที่ Mega Trend ใหม่ของโลกแล้ว จะพบว่าประเทศจีนล้วนแล้วแต่เป็นผู้นำ เช่น การเติบโตและขยายตัวของเมือง การซื้อสินค้าออนไลน์ ระบบขนส่งความเร็วสูงและโลจิสติกส์ และเศรษฐกิจสีเขียว เป็นต้น เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ มีผู้บริโภคและมีประชากรวัยหนุ่มสาว เป็นจำนวนมาก จึงเป็นพลังอำนาจที่สำคัญในเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงได้วางยุทธศาสตร์/แผนกิจกรรมในการเจาะตลาดจีน โดยคำนึงถึง Mega Trend ดังกล่าวข้างต้น ผ่านยุทธศาสตร์ ที่สำคัญ อาทิ การขยายตลาดส่งออกโดยเน้นตลาดเมืองรองที่มีศักยภาพของจีน เช่น หนานจิง อู่ฮั่น เซี่ยเหมิน เฉินตู และฉงชิ่ง เป็นต้น การเจาะตลาดผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง เช่น ผู้สูงอายุ คนทำงาน และสินค้าฮาลาล การขยายตลาดโดยช่องทางออนไลน์ ณ นครเซี่ยงไฉ้ คุนหมิง หนานหนิง เนื่องจากผู้บริโภคชาวจีนยุคใหม่นิยมใช้ระบบออนไลน์เป็นสื่อกลางในการซื้อขายสินค้า การนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน Top Thai Brand, The China ASEAN Expo
ขณะที่ ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ประโยชน์จาก FTA ที่ทำกับประเทศจีน ภายใต้กรอบ ASEAN-China FTA ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2548 ในส่วนของสินค้า และตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2550 ในส่วนของบริการ และกุมภาพันธ์ 2553 ในส่วนของการลงทุน ซึ่งภายใต้ FTA ดังกล่าว ทั้งไทยและจีน ลดภาษีเป็น 0 มากกว่าร้อยละ 90 ของรายการสินค้าทั้งหมด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จีนเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับ 1 ของไทยในปี 2559 โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึง 2,324,384.51 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 833,857.71 ล้านบาท โดยมีสินค้าส่งออกที่สำคัญ เช่น ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เม็ดพลาสติก และยางพารา เป็นต้น และการนำเข้า 1,490,526.80 ล้านบาท โดยมีสินค้านำเข้าที่สำคัญ เช่น เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และเครื่องจักรกล เป็นต้น ซึ่งในปี 2560 นี้ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าการค้าไทย-จีน ขยายตัวร้อยละ 4 -สำนักข่าวไทย