กรุงเทพฯ 6 ก.ย.-ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้น หลังโอเปกพลัสลดกำลังผลิตเดือน ต.ค.65 ลง 0.1 ล้านบาร์เรล/วัน ด้านยูเอซี คิกออฟแหล่งผลิตปิโตรเลียม L10/43-L11/43 ก.ย.นี้
บมจ.ไทยออยล์ รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตในเดือน ต.ค.65 ลง 0.1 ล้านบาร์เรล/วัน จากแรงกดดันทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม อุปทานที่ลดลงคิดเป็นเพียงร้อยละ 0.1 ของอุปสงค์การใช้น้ำมันดิบทั่วโลก ทั้งนี้ ทางกลุ่มจะมีการประชุมทางการครั้งหน้าในวันที่ 5 ต.ค.65 อย่างไรก็ดี สมาชิกพร้อมที่จะร่วมหารือก่อนการประชุมในเดือนหน้า เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันดิบ
ด้านนายนิโคไล ชุลกินอฟ (Nikolai Shulginov) รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซีย ระบุภายในปีนี้ รัสเซียมีแนวโน้มที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติลงราวร้อยละ 2 และร้อยละ 7 ตามลำดับ ส่งผลให้ตลาดยังมีความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ตลาดยังคงจับตาผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีน หลังทางการจีนผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองเซินเจิ้น ในวันจันทร์ที่ผ่านมา จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้มคงที่ ขณะที่มีการประกาศขยายมาตรการล็อกดาวน์ในเมืองเฉิงตู เมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมดำเนินการผลิตปิโตรเลียมเชิงพาณิชย์ภายในเดือนกันยายนนี้ หลังได้รับโอนสิทธิสัญญาสัมปทานปิโตรเลียมแปลงสำรวจบนบกหมายเลข L10/43 และ L11/43 ในพื้นที่อรุโณทัยและบูรพา จังหวัดสุโขทัย ในไตรมาส 1/2565 โดยสัมปทานปิโตรเลียมดังกล่าวมีอายุถึงปี 2576 โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งคืบหน้าไปแล้วกว่า 60% สามารถผลิตน้ำมันดิบได้เฉลี่ยวันละ 300 บาร์เรล โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ น้ำมันดิบที่ได้มีการเตรียมแผนเพื่อจำหน่ายให้กับโรงกลั่นน้ำมันภายในประเทศ และก๊าซธรรมชาติที่บริษัทจะส่งให้กับโรงแยกก๊าซธรรมชาติในกลุ่ม UAC ประกอบด้วย โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (PPP) โรงไฟฟ้าเสาเถียร และโรงไฟฟ้าประดู่เฒ่า สามารถทยอยรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 3/2565 โดยคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 250 ล้านบาท/ปี อ้างอิงจากราคาน้ำมันดิบและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ณ ปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย