กรุงเทพฯ 4 ก.ย.- ศาลปกครองนัด 7 ก.ย.นี้ แถลงชี้ขาดคดีที่บีทีเอสฟ้อง กทม. และบริษัทกรุงเทพธนาคม ให้ชดใช้ค่าจ้างเดินรถสายสีเขียว “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เตรียมพร้อมหากต้องอุทธรณ์คดี โดยย้ำว่าการจ่ายเงินในคดีต้องรอบคอบ เพราะคือภาษีประชาชน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีศาลปกครองนัดอ่านนำพิพากษาคดีบีทีเอสฟ้อง กทม.เรียกค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ 12,000 ล้านบาท 7 ก.ย.นี้ ว่าเบื้องต้นก็ต้องฟังคำตัดสินของศาล แต่หากเห็นว่าไม่เป็นธรรม กับ กทม.ก็คงต้องดำเนินการอุทรณ์ โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งบีทีเอส และภาคประชาชน การจะจ่ายเงินอะไรก็ต้องรอบคอบ และต้องดูว่ามีสิทธิที่จะจ่ายหรือไม่ เพราะนี่คือภาษีของประชาชน
ส่วนการพิจารณาปรับขึ้นค่าเดินรถส่วนต่อขยายระยะที่ 2 ที่เดิมมีการเก็บค่าโดยสาร 15 บาท ก็ต้องพิจารณาเห็นใจคนที่ไม่ได้มีการขึ้นรถไฟฟ้าด้วย เนื่องจากทุกวันนี้รายได้จากการเก็บเงินอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท แต่ กทม.จะต้องอุดหนุนงบประมาณในส่วนค่าแรกเข้าแทนผู้ใช้บริการ 7,000 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณส่วนนี้ก็เป็นภาษีของประชาชน ดังนั้น ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับประชาชนคนอื่นที่ไม่ได้ใช้รถไฟฟ้าบีทีเอสด้วย
ส่วนการเรียกเก็บค่าบริการในส่วนสัมปทานเดิมที่สัญญาสัมปทานจะหมดในปี 2572 และเก็บค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 44 บาท ก็ไม่ได้มีการไปปรับขึ้นแต่ออย่างใด
สำหรับสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายและการซ่อมบำรุงมีสัญญาที่เกี่ยวข้อง 4 ฉบับ คือ 1.สัญญาจ้างบริหารจัดการระหว่างกรุงเทพมหานคร และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด เพื่อให้ดำเนินการส่วนต่อขยายสายสีลม ช่วงสนามกีฬาฯ-บางหว้า และสายสุขุมวิทช่วงหมอชิต-สำโรง รวม 30 ปี (2555-2585)
2.สัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง ระหว่างบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด กับ BTS เพื่อให้ดำเนินการส่วนต่อขยายสายสีลม ช่วงสนามกีฬาฯ-บางหว้า และสายสุขุมวิทช่วงหมอชิต-สำโรง รวม 30 ปี (2555-2585)
3.สัญญาจ้างบริหารจัดการระหว่างกรุงเทพมหานคร และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด เพื่อให้ดำเนินการส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ช่วงคูคต-สถานีห้าแยกลาดพร้าว และช่วงสำโรง-สถานีเคหะสมุทรปราการ ระยะเวลา 30 ปี (2555-2585)
และ 4.สัญญจ้างบริหารจัดการ ระหว่างบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด กับ BTS เพื่อให้ดำเนินการส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ช่วงคูคต-สถานีห้าแยกลาดพร้าว และช่วงสำโรง-สถานีเคหะสมุทรปราการ ระยะเวลา 30 ปี คือ 2555-2585.-สำนักข่าวไทย